บันทึกเยี่ยมอานนท์-ไผ่: ประเมินแล้วอาจจะต้องอยู่ยาว

เราเพิ่งเคยมาเยี่ยมที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเป็นครั้งแรก ปกติหากเป็นคดีอาญาทั่วไปของศาลอาญา คดีที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ผู้ต้องขังฝั่งชายจะถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และฝั่งหญิงจะอยู่ทัณฑสถานหญิงกลาง แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดในเรือนจำ ทำให้อานนท์ นำภา และ ไผ่ – จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ถูกนำตัวมากักเพื่อป้องกันโควิดแพร่ระบาดในเรือนจำ ก่อนจะย้ายไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามปกติ

หากนับเวลาที่ไผ่ และอานนท์ถูกคุมขังในรอบนี้นั้นนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ไผ่ถูกฝากขังเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 และอานนท์ถูกฝากขังเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564  แต่ทั้งสองคนยังต้องอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เพราะไผ่ติดโควิด และเพิ่งถูกย้ายกลับมาจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนอานนท์ซึ่งเคยติดโควิดในเรือนจำคราวก่อน ในคราวนี้เพื่อนร่วมห้องขังของเขาแทบทั้งหมดติดโควิดและถูกย้ายออกไปรักษาตัว แม้อานนท์จะยังไม่ติดซ้ำ แต่ทำให้ต้องเริ่มนับระยะเวลากักตัวใหม่ เพราะอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ

การเข้าเยี่ยมที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางแตกต่างจากเรือนจำอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำชั่วคราวรังสิต เรือนจำอำเภอธัญบุรี หรือทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง ซึ่งล้วนสามารถเยี่ยมผ่านระบบวีดีโอคอลของไลน์ซึ่งทำให้เห็นหน้ากันได้ แต่ที่นี่ให้เยี่ยมผ่านเครื่องโทรศัพท์ จึงพูดคุยโดยได้ยินเสียงเท่านั้น 

เราแกล้งเปลี่ยนเสียงให้อานนท์จำไม่ได้ว่าเป็นใครมาเยี่ยม แต่คงไม่เนียน อานนท์เรียกชื่อเราได้ตั้งแต่ประโยคแรก พอได้ยินเสียงว่าเพื่อนยังสดใส แล้วก็ใจชื้นขึ้นด้วย อานนท์บอกว่าช่วงนี้อากาศดี จึงนอนได้สบาย

วันนี้ เราเริ่มจากข่าวดีของวันว่าคดีสาดสีหน้า ตชด. ที่เพนกวิน ไมค์ บอย ฟ้า และณัฐ ถูกขังอยู่นั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว 

หลังจากนั้นเราอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้อานนท์ฟังว่า คำสั่งไม่อนุญาตประกันตัวได้พิจารณาไปถึงเนื้อหาว่าเป็นถ้อยคำมิบังควร ทั้งที่คดียังไม่ได้เริ่มพิจารณา แต่ก็เสมือนว่าศาลได้ตัดสินไปก่อนแล้ว อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกมาพิจารณาว่าอานนท์ผิดเงื่อนไขประกันต่อศาลอาญานั้นก็คลาดเคลื่อน เพราะคดีดังกล่าวยังไม่มีการไต่สวนหรือถอนประกันเพราะผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด ทั้งศาลอุทธรณ์ยังพิจารณาไปถึงกิจกรรมคาร์ม็อบ (Car Mob) ที่ไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคใดๆ และไม่ได้ก่อความวุ่นวาย

พอฟังคำสั่งจบ อานนท์ให้ความเห็นว่า “เขาคงไม่อยากปล่อย ผมประเมินว่าผมอาจจะต้องอยู่ยาว” 

อย่างไรก็ตาม เราคุยกันว่าในวันศุกร์นี้ (17 ก.ย.) จะครบกำหนดระยะเวลาการฝากขัง ซึ่งทีมทนายความจะยื่นคัดค้านและขอไต่สวนการฝากขังอีก อานนท์เห็นว่า “เราต้องสู้ให้สุดในทางกฎหมาย และต่อสู้คดีมาตรา 112 ให้เห็นว่าเป็นปัญหาในภาพรวม”

หลังจากนั้น เราอัพเดทสถานการณ์ภายนอกเรือนจำให้อานนท์ฟังว่ายังคงมีการชุมนุมที่ดินแดง มีคนถูกจับกุม และบาดเจ็บแทบทุกวัน ส่วนในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งครบรอบ 15 ปี การก่อรัฐประหารปี 2549 ก็จะมีการจัดชุมนุมคาร์ม็อบอีก “ภาวนาว่าวันที่ 19 กันยา อย่าให้มีคนบาดเจ็บอีก” นั่นคือสิ่งที่อานนท์เป็นห่วง

หลังจากนั้น เราได้คุยกับไผ่ ไผ่เล่าให้ฟังว่าเขาคัดค้านการฝากขังเมื่อวันจันทร์ แต่ศาลอนุญาตให้ฝากขังเช่นเดิมและบอกให้เขายื่นประกันตัวแทน 

เราอ่านคำสั่งไม่อนุญาตประกันตัวให้ไผ่ฟัง ว่า “ที่ประชุมผู้บริหารศาลทุกคนมีมติ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2564 ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุร้ายประการอื่น ลำพังการที่ผู้ต้องหานี้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 โดยไม่ปรากฏว่ามีอาการร้ายแรงอย่างไร ไม่ถือว่ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ศาลจึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้ ยกคำร้อง”  

ไผ่ยังติดใจเหตุที่ศาลเพิกถอนการประกันตัวเขา ในคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ทั้งที่เขาไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไข แต่ศาลเห็นว่าการถอนประกันนั้นชอบแล้ว เราจึงคุยถึงแนวทางในการยื่นประกันครั้งต่อไป แต่สำหรับไผ่ไม่มีโอกาสที่จะคัดค้านฝากขังในครั้งหน้าอีก เพราะคดีสาดสีป้ายหน้า สน.ทุ่งสองห้อง, คดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย ฝากขังได้ไม่เกิน 4 ครั้ง รวม 48 วัน ซึ่งอัยการต้องดำเนินการยื่นฟ้องให้ทัน 48 วัน หากอัยการสั่งฟ้องในสองคดีดังกล่าว ก็จะเป็นการขังระหว่างพิจารณาที่ไม่มีกำหนดระยะอีกจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา 

ไผ่ฝากข้อความออกมาสื่อสาร “การฝากขังครั้งนี้ คือการเอาพวกเราเข้าคุก เพื่อปกป้องประยุทธ์ จันทร์โอชา ประยุทธ์เคยท้าทายประชาชนว่าให้ไปไล่ดูสิ แต่พอพวกเราออกไปไล่ประยุทธ์ก็จับเราเข้าคุก ประยุทธ์มึงไม่แน่จริงนี่หว่า” ไผ่ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย แม้จะอยู่ในเรือนจำก็ตาม

.

ไม่เห็นหน้า เห็นแต่กำแพงสูง ได้ยินเพียงเสียง แต่ยังไม่ได้รับความยุติธรรม

ทัณฑสถานบำบัดกลาง

15 กันยายน 2564

.

X