18 ส.ค. 2564 อีฟ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี คนรุ่นใหม่เจ้าของธุรกิจส่วนตัวในหนองบัวลำภู พร้อมทนายความ เดินทางไปที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จากการเข้าร่วม Car Mob หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนและคนรู้จักหลายคนเดินทางมาให้กำลังใจ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ตำรวจนอกเครื่องแบบจาก สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้นำหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 2 ไปให้ที่บ้านของอีฟ ทั้งที่อีฟไม่เคยได้รับหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยหมายเรียกครั้งที่ 2 นี้ ระบุว่า อีฟถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” โดยมี พ.ต.ท.เจษฎา ศรีกวนชา (รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู) เป็นผู้กล่าวหา และให้อีฟไปพบพนักงานสอบสวนในวันรุ่งขึ้น (17 ส.ค. 2564) เวลา 10.00 น.
แต่เนื่องจากแม่ของอีฟเป็นกังวล ภายหลังได้รับหมายจึงได้เข้าไปที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ในบ่ายวันนั้นเลย เพื่อสอบถามรายละเอียดที่ถูกออกหมายเรียก และได้พบกับ พ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สารวัตร (สอบสวน) ซึ่งเป็นผู้ออกหมายเรียกดังกล่าว พ.ต.ต.วิวิธชัย จึงได้ทำการแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้อีฟทราบ โดยมีเพียงแม่เป็นผู้ไว้วางใจอยู่ร่วมเท่านั้น ไม่มีทนายความ
พ.ต.ต.วิวิธชัย บรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่า วันที่ 31 ก.ค. 64 ผู้กล่าวหาได้สืบพบการเชิญชวนทางสื่อโซเชียลมีเดียของ “กลุ่มลุ่มภู” ให้มวลชนในจังหวัดหนองบัวลำภู มาร่วมทำกิจกรรมทางการเมือง Car Mob ขับไล่รัฐบาล ที่บริเวณสวนสุขภาพ สนามหน้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวลา 16.00 น. โดยมีผู้ต้องหาเป็น 1 ในแกนนำในการชักชวน
ต่อมา ตามวันเวลาที่นัดหมาย ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันชุมนุม โดยการขับขี่รถยนต์ 21 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน และรถสามล้อเครื่อง 1 คัน เคลื่อนขบวนไปตามสถานที่สำคัญพร้อมบีบแตร แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว และวนกลับมาที่จุดเดิม ซึ่งผู้ต้องหากับพวกทราบอยู่แล้วว่า ในสถานการณ์ฉุกเฉินของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีประกาศและคำสั่งห้ามชุมนุมและทำกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว
จากนั้น พ.ต.ต.วิวิธชัย ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดและประกาศออกตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34(6) ประกอบคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 16/2564 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2564
อย่างไรก็ตาม หลังรับทราบข้อกล่าวหา อีฟได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะขอให้ปากคำโดยมีทนายความเข้าร่วม และนัดหมายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในวันที่ 17 ส.ค. 2564 พนักงานสอบสวนจึงให้พิมพ์ลายนิ้วมือแล้วปล่อยตัวกลับ
หลังจากทนายความเลื่อนนัดหมายเป็นวันที่ 18 ส.ค. 2564 อีฟพร้อมทนายความจึงเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย พนักงานสอบสวนได้อ่านพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ฟังอีกครั้ง โดยอีฟยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และในการสอบปากคำ ทนายความแจ้งว่า ผู้ต้องหายังไม่ประสงค์จะให้การในวันนี้ แต่จะทำคำให้การเป็นหนังสือมายื่นภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนพยายามบันทึกในคำให้การผู้ต้องหาว่า “ขอให้การในชั้นศาล” แต่ทนายความยืนยันให้บันทึกว่า “ขอให้การเป็นหนังสือ ภายใน 30 วัน”
พนักงานสอบสวนนัดให้อีฟมาพบอีกครั้งเพื่อส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการในวันที่ 25 ส.ค. 2564
พ.ต.ท.วิวิธชัย ให้ข้อมูลว่า คดีนี้ออกหมายเรียกผู้ต้องหารวม 2 คน อีกคนคือ นายประไว (สงวนนามสกุล) ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้การปฏิเสธเช่นเดียวกัน พนักงานสอบสวนนัดหมายส่งตัวให้อัยการในวันที่ 23 ส.ค. 2564
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34(6) มีโทษปรับอย่างเดียวไม่เกิน 20,000 บาท
หลังเสร็จกระบวนการใน สภ.เมืองหนองบัวลำภู อีฟเปิดเผยว่า ปกติเป็นคนสนใจติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ผ่านมาก็เข้าร่วมกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองอยู่เป็นประจำ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักกิจกรรมเท่าที่มีโอกาส เคยคิดเหมือนกันว่า สักวันอาจจะถูกดำเนินคดี
แต่ในครั้งนี้ ตนเพียงแค่นำภาพที่มีคนส่งต่อๆ กันมา เป็นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม “Car Mob หนองบัวลำภู รัฐไม่มีความสามารถ เราถึงต้องออกมาไล่” ระบุเวลาและสถานที่นัดหมาย มาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว และเขียนแคปชั่นว่า “จะไปขี่รถเล่น” วันจัดกิจกรรม ตนก็เป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น โดยขับรถเข้าไปร่วมหลังเขาเคลื่อนขบวนออกจากจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ หลังจบกิจกรรมตนก็ลงจากรถไปทักทายคนที่รู้จักเท่านั้น จึงรู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผลที่จะถูกดำเนินคดี เพราะตนเพียงแสดงออกในฐานะพลเมืองตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ ต้องการเรียกร้องวัคซีนที่ดี มีประสิทธิภาพ สำหรับประชาชนทุกคน
แม่ของอีฟซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่สมัยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจกับลูกสาวกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวต้องถูกดำเนินคดีทางการเมือง รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวอยู่บ้าง แต่ก็พร้อมเป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนลูกสาวในการสู้คดีอย่างเต็มที่
อีฟให้ข้อมูลด้วยว่า หลังจากร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อขอพบอยู่บ่อยครั้ง พร้อมทั้งมาตรวจที่ร้านบ่อยขึ้น อ้างว่าได้รับแจ้งมาว่าร้านตนแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัด ซึ่งตนก็ให้ตรวจทุกครั้ง พร้อมทั้งตั้งคำถามกลับไปว่า “ไม่มีแม้กระทั่งลูกค้า จะไปขายให้ใคร” ซึ่งอีฟคาดว่าเป็นผลมาจากที่ตนเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองนั่นเอง
กิจกรรม Car Mob หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 นั้น จัดขึ้นพร้อมอีกกว่า 30 จังหวัด ทั่วประเทศ ภายใต้สโลแกน “1 สิงหา คาร์ม็อบทั่วไทย ขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นอกจากนี้ ในจังหวัดต่างๆ ยังจัดกิจกรรมในรูปแบบดังกล่าว อีกหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาเป็นต้นมา เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์แพร่ระบาดขอโควิด ขณะเดียวกันก็เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ประชาชนจะพยายามหาวิธีการแสดงออกโดยปลอดภัย โดยคำนึงถึงสถานการณ์ของโรคโควิดที่หนักอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังใช้ข้อกล่าวหา จัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ฝ่าฝืน พ.ร.กฉุกเฉินฯ มาปิดกั้นการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล โดยจากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจนถึงวันที่ 19 ส.ค. 2564 มีการดำเนินคดีจากกิจกรรมคาร์ม็อบแล้วอย่างน้อย 25 คดี มีผู้ถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 61 คน ในจังหวัดต่างๆ แทบทุกภาค
>> สรุปคดี “คาร์ม็อบไล่ประยุทธ์” ทั่วประเทศ มีไม่น้อยกว่า 22 คดีแล้ว