แจ้งเพิ่ม! “หมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอมฯ” เหตุ อดีตการ์ดเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์นายกฯ

วันที่ 12 ก.ค. 64 ที่ สน.นางเลิ้ง เวลา 10.00 น. นายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดคนเสื้อแดงและการ์ดของผู้ชุมนุมคณะราษฎร วัย 52 ปี เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา-ทำให้เสียชื่อเสียง” จากการโพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 2 ข้อความ ในช่วงเดือนมิถุนายนและสิงหาคม เมื่อปี 2563 โดยมีนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้กล่าวหา

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 63 นายสมบัติได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา กับ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง และถูกแจ้งข้อหา “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 โดยนายสมบัติได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในเอกสารบันทึกข้อกล่าวหา ก่อนพนักงานสอบสวนจะให้ปล่อยตัวไปโดยไม่มีการควบคุมตัวไว้

อย่างไรก็ตาม ต่อมา นายสมบัติได้รับการประสานงานให้ไปรับทราบข้อหาเพิ่มเติมถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 28 มิ.ย. 64 ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ในวันที่ 29 มิ.ย. 64 เวลา 10.00 น.

สำหรับครั้งที่สองนั้น สมบัติ ได้รับแจ้งวานนี้ (11 ก.ค. 64) ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แม้พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 64 แต่เนื่องจากพนักงานอัยการได้ตีกลับสำนวนมาให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นายสมบัติจึงต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันนี้

แจ้งเพิ่ม “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ” ชี้ทำให้นายกฯ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

สำหรับการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในวันนี้ พ.ต.ท. อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง ได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาเพิ่มกับนายสมบัติว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 นายสมบัติได้โพสต์รูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการสร้างภาพด้วยการตัดต่อ เติม หรือตัดแปลงให้มีรูปภาพใบหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ มีผมทรงยาวสีน้ําตาล ผูกผมแบบผู้หญิง สวมเสื้อสูทสีดํา เสื้อเชิ้ตสีขาว และผูกเนคไทสีเหลือง

พนักงานสอบสวนระบุว่า รูปภาพดังกล่าวทําให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้นําของประเทศ เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย โดยรูปดังกล่าวที่โพสต์ดังกล่าวได้มีการใส่ข้อความอธิบายไว้ว่า “ มีตบมั้ย ‘อีฉ้อ’ ” (ฉ้อฉลมันทุกรูปแบบ) ซึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายของคําว่า “ฉ้อ” เอาไว้ว่า หมายถึง โกง ฉ้อทรัพย์ และมีลูกของคําว่า ฉ้อ คือ ฉ้อฉล ฉ้อราษฎร์บังหลวง ฉ้อโกง

ดังนั้น เมื่อแปลความหมายของคําที่นายสมบัติโพสต์ดังกล่าว ก็จะแปลความหมายได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ โกง (โกงมัน ทุกรูปแบบ) เป็นการกล่าวหรือโพสต์ข้อความยืนยันข้อเท็จจริง อันมีลักษณะใส่ความ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อบุคคลอื่นซึ่งเป็นบุคคลที่สามให้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อีกทั้งการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นการโพสต์แบบสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ อันเป็นการเผยแพร่ข้อความหมิ่นประมาทสู่ประชาชนทั่วไป

พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับสมบัติ ใน 2 ข้อหา คือ “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” และ “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชน อาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือ ดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 16 ตามลำดับ

หลังรับทราบพฤติการณ์และข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแล้ว สมบัติได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสมบัติส่งให้กับพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นครั้งที่ 2 โดยพนักงานอัยการกำหนดนัดฟังคำสั่งทางคดีในวันที่ 16 ส.ค. 64 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่านายสมบัติ ถูกกล่าวหาดำเนินคดีจากการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแล้วอย่างน้อย 4 คดีด้วยกัน โดยก่อนหน้านี้เขาถูกกล่าวหาในคดีตามมาตรา 112 ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ จากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 3 ข้อความ, ถูกกล่าวหาในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในกรณีการชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ ที่ สน.ลุมพินี และการชุมนุม #ม็อบ18ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ที่สน.พญาไท สำหรับคดีมาตรา 112 และคดีจากการชุมนุม #ม็อบ18ตุลา พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว

นอกจากนี้ นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่โพสต์ข้อมูล #ตามหาลูกประยุทธ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเช่นกัน (อ่านเพิ่มเติม: 7 ผู้โพสต์ #ตามหาลูกประยุทธ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”)

เรื่องที่เกี่ยวข้อง