วันนี้ (3 มิ.ย. 64) เวลา 14.00 น. ที่สน.ประชาชื่น นายศุภกิจ ตั้งจิตสดุดี, นายเจษฎา ศรีปลั่ง ตัวแทนเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และนายโชคดี ร่มพฤกษ์ เดินทางไปรับทราบข้อหาตามหมายเรียกผู้ต้องหาลงวันที่ 25 พ.ค. 64 จากเหตุเข้าร่วมงานวันเกิดเฮียซ้ง ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 64 ในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.จราจรทางบก และพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ
คดีนี้สืบเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมเป่าเค้กวันเกิดหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ “เฮียซ้ง” ศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 64 หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ศักดิ์ชัยยังถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีล้อมรถควบคุมตัว “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกอายัดตัวจากเรือนจำมาที่สน.ประชาชื่น ในคืนวันที่ 30 ต.ค. 63
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมฉลองวันเกิดศักดิ์ชัย และให้กำลังใจศักดิ์ชัยและครอบครัว เนื่องจากเป็นงานวันเกิดศักดิ์ชัยครั้งแรกที่นายศุภกิจ หรือลูกชายของศักดิ์ชัยไม่สามารถร่วมฉลองวันเกิดพร้อมหน้ากับพ่อได้ เพราะพ่อไม่ได้รับสิทธิประกันตัว แม้ยื่นประกันรวม 3 ครั้งและยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันศาลชั้นต้นอีก 1 ครั้ง
>> ‘คนรุ่นใหม่นนท์ฯ’ จัดเป่าเค้กวันเกิดหน้าคุกให้ ‘เฮียซ้ง’ ผู้ไม่ได้ประกันตัวจากคดีขวางรถ ตร.ช่วย ‘ไมค์-เพนกวิน’ (ประชาไท)
ปรับ 2,000 บาท ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอวยพรวันเกิดเฮียซ้งหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ร้อยตํารวจเอกทวีศักดิ์ บุญสิทธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตํารวจนครบาลประชาชื่น บรรยายพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 15.00 – 19.30 น. นายโชคชัย, นายเจษฎา และนายศุภกิจได้ชักชวนผ่านเฟซบุ๊ก “เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี” ให้เข้าร่วมกิจกรรม “ร่วมอวยพรวันเกิด เฮียซ้ง ศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี ศาลไม่ให้ประกัน คดีล้อมรถ คืนปล่อยตัว ไมค์-เพนกวิ้น” ในวันที่ 18 เม.ย. 64 เวลา 16.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ต่อมาเมื่อถึงเวลาตามนัดหมาย ทั้งสามได้ติดตั้งเครื่องขยายเสียงซึ่งเดินด้วยกําลังไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟบริเวณที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน มีการวางตู้ลําโพงเครื่องเสียง พร้อมอุปกรณ์บนทางเท้า อีกทั้งมีการติดตั้ง วาง หรือแขวนแผ่นป้ายบนทางเท้าซึ่งจัดไว้ให้ประชาชนโดยทั่วไปใช้เดินสัญจร ในลักษณะที่กีดขวางทางเดินจนทําให้ ประชาชนไม่สามารถเดินผ่านได้
ระหว่างกิจกรรม นายเจษฎายังได้ใช้เครื่องขยายเสียงที่นายโชคชัยได้ติดตั้งไว้ ต่อมา 17.00 น. นายศุภกิจได้เดินทางมาถึงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนเวลา 19.00 น. กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้จุดเทียนเป่าเค้กวันเกิดให้นายศักดิ์ชัย และเลิกกิจกรรมในเวลา 19.30 น.
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทั้งสามว่า “ร่วมกันโฆษณา ชักชวน เชิญชวน พูดให้บุคคลทั่วไปมาทํากิจกรรมผ่านไมโครโฟน เครื่องขยายเสียง ด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันวางตั้งลําโพงเครื่องเสียงในลักษณะที่กีดขวางการจราจร, ยืน นั่ง ติดตั้ง วาง แขวนป้ายในที่สาธารณะโดยที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”
อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ มาตรา 4 “ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท, พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 114 “วาง ตั้ง ยื่น หรือแขวน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร” โทษปรับไม่เกิน 500 บาท และ พ.ร.บ.ความสะอาด มาตรา 39 “ติดตั้ง ตาก วาง แขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะโดยที่มิได้รับอนุญาต” มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับทั้งสาม เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท คดีจึงสิ้นสุดลง
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น”
หลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับทราบข้อหา ศุภกิจ ลูกชายของเฮียซ้ง เปิดเผยว่า ทั้งสามคนที่เข้ารับทราบข้อหาวันนี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกดำเนินคดีจากการจัดงานวันเกิดให้เฮียซ้งหน้าเรือนจำ เมื่อถามว่า การถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ทำให้รู้สึกไม่ยุติธรรมบ้างหรือไม่ ศุภกิจตอบว่า
“การถูกดำเนินคดีเช่นนี้กลับกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมไทย ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตั้งแต่แรก ถ้าหากคุณพ่อได้รับสิทธิในการประกันตัวตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น”
ภาพงานวันเกิดเฮียซ้งหน้าเรือนจำ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 63 จากประชาไท
ปัจจุบัน ศักดิ์ชัยได้รับการประกันตัวแล้วเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 อย่างไรก็ตาม เขายังคงต้องเข้ารักษาตัวจากโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ เฟซบุ๊กของศักดิ์ชัย “สายใย แห่งรัก” รายงานว่า อาการโดยรวมตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แม้ก่อนหน้านี้อาการทรุดหนักในวันไต่สวนขอประกัน จนไม่สามารถเบิกความได้ และเมื่อได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และติดเชื้อในกระแสเลือด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำยังคงเป็นที่น่ากังวล ล่าสุด เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์รายงานว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อสะสมรวม 27,072 รายทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ มีสถิติเปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 20 พ.ค. 64 (มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,864 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 3,012 ราย)
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
อ่านคำฟ้องคดีล้อมรถ>> เปิดคำฟ้องคดีทุบรถควบคุม “ไมค์-เพนกวิน” โทษหนักสุดจำคุก 7 ปีครึ่ง แต่ศาลไม่ให้ประกัน ขณะ 1 ในจำเลยยืนยันไม่ได้ร่วมชุมนุม
อ่านข้อมูลคดีล้อมรถทั้งหมด>> 5 ประชาชนถูกกล่าวหา ขัดขวางรถควบคุมตัว “ไมค์-เพนกวิน