‘พ่อค้าตลาดรถไฟ’ ถูกตร.แจ้งข้อหา ม.360 กรณีพ่นสีป้ายศูนย์ราชการนนท์ ทั้งที่ไม่ได้ไปชุมนุม

30 ธ.ค. 63 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ นายธีระยุทธ ดอกแก้ว อายุ 39 ปี ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายของที่ตลาดรถไฟ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในคดีที่ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีกล่าวหาในข้อหาทำให้ทรัพย์สาธารณะเสื่อมค่า เหตุจากกรณีพ่นสีสเปรย์บนป้ายศูนย์ราชการนนทบุรี ในการชุมนุม “แรลลี่ก๊าบๆ ปราบเผด็จการ” เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 ทั้งที่ธีระยุทธไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวแต่อย่างใด

ในคดีนี้ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.ชาตรี ศรีไชยเดช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ออกหมายเรียกลงวันที่ 1 ธ.ค. 63 ให้นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำให้ทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหายหรือเสื่อมค่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 โดยคดีมีนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มอบอำนาจให้นายรณชัย อังกูร เป็นผู้แจ้งความกล่าวหา

ต่อมา ชินวัตรได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวจากพฤติการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 ซึ่งกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีจัดกิจกรรม “แรลลี่ก๊าบๆ ปราบเผด็จการ” บริเวณ MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี ก่อนมีการเคลื่อนขบวนไปปักหลักปราศรัยที่แยกแคราย

การชุมนุมครั้งนี้ถูกประกาศวัตถุประสงค์ว่าเป็นการชุมนุมซักซ้อมต่อต้านการรัฐประหาร ผู้ชุมนุมยังมีการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ถึงกรณีการสั่งเกณฑ์คนเสื้อเหลืองมาชุมนุมที่ศาลากลางได้ แต่กลุ่มผู้เห็นต่างไม่เคยให้เข้าไปชุมนุมในศาลากลาง โดยผู้ชุมนุมได้มีการพ่นสีสเปรย์ข้อความวิจารณ์ผู้ว่าฯ ที่ป้าย “ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี” ด้วย ทำให้เป็นที่มาของการถูกผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวหาดำเนินคดี

ภาพการชุมนุม “แรลลี่ก๊าบๆ ปราบเผด็จการ” เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 (ภาพจากประชาชาติ)

ขณะที่ธีระยุทธ ดอกแก้ว ได้รับหมายเรียกจาก สภ.รัตนาธิเบศร์ ครั้งที่ 2 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 63 ระบุให้เขาไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีเดียวกันกับชินวัตร ทั้งที่ธีระยุทธระบุว่าตนไม่ได้ไปร่วมชุมนุมครั้งดังกล่าวแต่อย่างใด จึงไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับการพ่นสีสเปรย์ที่ป้ายศูนย์ราชการฯ ด้วย

ในวันนี้ ธีระยุทธพร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าแสดงตัวตามหมายเรียกของตำรวจ แต่ ร.ต.อ.ชาตรี ศรีไชยเดช ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อธีระยุทธ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 โดยระบุพฤติการณ์ว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 21.00 น. ธีระยุทธได้ร่วมกันกับพวกใช้สีสเปรย์พ่นไปที่ป้ายศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี โดยมีข้อความว่า “เป็นผู้ว่าอย่า 2 มาตรฐาน ค.ว.ย. = คิดวิเคราะห์แยกแยะ ภาษีกู หยุดโกง !!” ทำให้ป้ายดังกล่าวเสียหายจนต้องมีการบูรณะใหม่ ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้มอบอำนาจให้ผู้กล่าวหามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี

เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อธีระยุทธ เพราะติดตามจากทะเบียนรถที่เข้าร่วมชุมนุมดังกล่าว ธีระยุทธจึงได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันว่าตนไม่ได้อยู่ในสถานที่ดังกล่าวในวันเวลาที่เกิดเหตุ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด โดยจะขอให้การเพิ่มเติมพร้อมส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสถานที่อยู่และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนภายในวันที่ 24 ม.ค. 64 ต่อไป

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ความว่า “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์” กำหนดโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมทางการเมืองของ #เยาวชนปลดแอก เป็นต้นมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าคดีนี้เป็นคดีที่สองแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการดำเนินคดีต่อบุคคลที่ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุม โดยก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม มีการออกหมายเรียกอดีตสมาชิกกลุ่มดาวดิน 2 คน ไปรับทราบข้อหาในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ทั้งที่ทั้งสองคนไม่ได้ไปร่วมชุมนุมแต่อย่างใด แม้จะยืนยันเช่นนั้น แต่ทางตำรวจยังคงยืนยันจะแจ้งข้อหาต่ออดีตสมาชิกกลุ่มดาวดิน 1 ราย ทำให้ต่อมาทั้งสองคนได้ยื่นฟ้องรองผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของศาลว่าจะรับฟ้องคดีหรือไม่

>> แจ้งข้อหาคดีชุมนุม 19 ก.ย. อีก 11 คน อดีตสมาชิกดาวดินไม่ได้ไปชุมนุม แต่กลับโดนแจ้งข้อหาด้วย