‘ไมค์-ทนายอานนท์’ รับทราบข้อหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-พ.ร.บ.ชุมนุมฯ จากเหตุ#ม็อบ18พฤศจิกา

วันนี้ (28 ธ.ค. 2563) เวลา 10.45 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ‘ทนายอานนท์’ และ ‘ไมค์ ภาณุพงศ์’ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่จัดให้มีการป้องกันโรค-ไม่แจ้งการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กรณีการชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎร​ประสงค์ หรือ #ม็อบ18พฤศจิกา ที่แยกราชประสงค์และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 

อานนท์ นำภา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจาก สน.ลุมพินี ลงวันที่ 18 ธ.ค. 2563 โดยมี พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ลุมพินี เป็นผู้กล่าวหา และให้ผู้ถูกออกหมายเรียกไปพบกับ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน สารวัตร (สอบสวน) และ ร.ต.อ.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ รองสารวัตร (สอบสวน) หลังร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา

เหตุในการออกหมายเรียกดังกล่าว สืบเนื่องจาก “ราษฎร” นัดหมายชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ที่สี่แยกราชประสงค์ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ในวันดังกล่าวผู้ชุมนุมผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง ระหว่างการเคลื่อนขบวน มีการสร้างงานศิลปะและเขียนข้อความบนพื้นผิวถนนและกำแพง และจัดกิจกรรม “บิ๊กเซอร์ไพรซ์” บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการใช้ปืนฉีดน้ำและสาดสีใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติและในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พนักงานสอบสวน พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน และ ร.ต.อ.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ ได้บรรยายพฤติการณ์การกระทำความผิดในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเกริ่นนำโดยกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มประชาชนนับตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. ต่อเนื่องไปยังวันที่ 22 และ 25 ต.ค. รวมถึง 17 พ.ย. 2563 ซึ่งทุกๆการชุมนุมที่กล่าวมาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ทั้งนี้ตำรวจเห็นว่าการชุมนุมที่กล่าวมาเป็นการชุมนุมที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาจนถึงวันที่ 18 พ.ย. 2563 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุตามบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้บรรยายโดยสรุปว่า

 

วันที่ 18 พ.ย. 2563 ผู้ถูกกล่าวหานัดหมายมวลชนให้มารวมตัวกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ มีประชาชนผู้ชุมนุมเข้าร่วมจนเต็มพื้นผิวจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ทำให้การจราจรติดขัด รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้โดยสะดวก นอกจากนั้นการชุมนุมดังกล่าวยังไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งตามกฎหมายก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ภาณุพงศ์ปราศรัยเป็นเวลา 45 นาที และ อานนท์ปราศรัยเป็นเวลา 6 นาทีโดยประมาณและไม่ได้มีการถอดคำปราศรัยมาประกอบ

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ทั้งสองคนใน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม เพื่อการชุมนุมใดๆ ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการชุมนุม สาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง และ ไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรค อันเป็นการ ฝ่าฝืนข้อกําหนด ออกความตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 13) ข้อ 1 และข้อ 5”

ทั้ง 2 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 20 ม.ค. 2564 โดยไมค์ ภาณุพงศ์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา และเขียนข้อความว่า “ *ข้าพเจ้าไม่ขอลงลายมือชื่อเนื่องจากการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญและระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

คดีนี้ยังมีผู้ถูกออกหมายเรียกอีก 1 คน คือ พรพจน์ แจ้งกระจ่าง ซึ่งยังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้

 

การชุมนุมในวันที่ 18 พ.ย. 2563 เป็นเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมวันที่ 17 พ.ย. 2563 ที่รัฐสภาเกียกกาย เพื่อติดตามการพิจารณาลงมติรับหลักการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 7 ฉบับ รวมถึงร่างฉบับประชาชนที่มีประชาชน 100,732 ราย ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่าง ระหว่างการเคลื่อนขบวนของมวลชนไปยังหน้ารัฐสภามีการขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการวางเครื่องกีดขวาง ลวดหนามหีบเพลง ฉีดน้ำผสมสารเคมีจากรถฉีดน้ำแรงดันสูง และใช้แก๊สน้ำตา ทำให้ผู้ชุมนุมซึ่งใช้สิทธิเสรีภาพอย่างสันติได้รับบาดเจ็บจากการกระทำโดยปราศจากอำนาจของเจ้าหน้าที่ ทำให้มีการนัดหมายชุมนุมในวันต่อมาเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมที่ขัดต่อหลักการสากลดังกล่าว

(อ่านประมวลสถานการณ์ที่ 7 ชม. #ม็อบ17พฤศจิกา จนท.ตร.ฉีดน้ำแรงดันสูง ใช้แก๊สน้ำตา ขัดขวางการชุมนุมหน้ารัฐสภาของกลุ่มราษฎร )

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จัสติน’ – ‘ขนุน’ รับทราบข้อหา 112 เหตุปราศรัยพาดพิงกษัตริย์ชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์

 

 

X