16 พ.ย. 2563 ที่ สน. เตาปูน สองนักศึกษา “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก กลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล จากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีจากเหตุการณ์ชุมนุมวันที่ 28 ก.ย. 2563 ปาไข่สาดสีหน้ากองพันทหารม้าที่ 4 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) หลังจาก ภาณุพงศ์และปนัสยาขอเลื่อนวันรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกมาเป็นวันนี้ เนื่องจากขณะนั้นยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า คดีนี้ พ.ต.ท.สรัล สุรเดชานนท์ รอง ผกก.ป.สน.เตาปูน และ ร.อ.สำเนา ดำเนื้อดี ปฏิบัติหน้าที่นายทหารเวร ม.พัน 4 พล.1 รอ. โดยได้รับมอบอำนาจจาก พ.ท.อิทธิศักดิ์ เสนตา ผบ.ม.พัน 4 พล.1 รอ. เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ให้ดำเนินคดี ภาณุพงศ์ จาดนอก, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ณัฐชนน ไพโรจน์, ธนชัย เอื้อฤาชา, ฉัตรมงคล วัลลีย์, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ “ภูมิ” เยาวชนอายุ 17 ปี ทั้งนี้ ในส่วนของทหารได้กล่าวหาว่า ภาณุพงศ์กับพวกซึ่งชุมนุมบริเวณหน้าทางประตูทางเข้า ม.พัน 4 พล.1 รอ. ได้กระทำความผิดกฎหมายอันเป็นเหตุให้กองทัพบกได้รับความเสียหาย
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาปนัสยารวม 5 ข้อหา ได้แก่ “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมั่วสุมฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุม, ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันกระทำการใดให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนทรัพย์” ขณะที่แจ้งข้อกล่าวหาภาณุพงศ์เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งข้อหา ร่วมกันบุกรุก อีก 1 ข้อหาด้วย
ภาณุพงศ์และปนัสยาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การเป็นหนังสือในรายละเอียดภายใน 20 วัน
คดีนี้ตำรวจ สน.เตาปูน ออกหมายเรียกผู้ต้องหารวม 7 ราย นอกจากภาณุพงศ์และปนัสยาแล้ว ยังมี ณัฐชนน ไพโรจน์, ธนชัย เอื้อฤาชา, ฉัตรมงคล วัลลีย์, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ “ภูมิ” เยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งทั้งหมดเข้ารับทราบเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกก่อนหน้านี้แล้ว ช่วงวันที่ 3-5 พ.ย.ที่ผ่านมา
อ่านข่าวก่อนหน้า > แจ้ง 5 ข้อหา 2 น.ศ. บุก “ปาไข่-สาดสี” ม.พัน 4 รอ. ทวงถามการลงโทษทหารล็อกคอผู้ชุมนุม
มูลเหตุคดี กิจกรรม “ตามหานาย”
การชุมนุมบริเวณหน้าทางประตูทางเข้า ม.พัน 4 พล.1 รอ. เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2563 ซึ่งตำรวจและทหารเข้าแจ้งเป็นคดีนั้น สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63 ขณะประชาชนแยกย้ายกลับจากการเดินเท้าไปที่รัฐสภา เพื่อนำส่งรายชื่อประชาชนจำนวน 100,732 รายชื่อ ที่เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ได้มีประชาชนรายหนึ่งที่ร่วมกิจกรรมได้เข้าถ่ายภาพบริเวณป้าย ม.พัน 4 พล.1 รอ. และถูกทหารนอกเครื่องแบบสั่งให้ลบภาพออก แต่เขายืนยันไม่ลบ ทหารนอกเครื่องแบบ 3 นาย จึงพยายามเข้าล็อคแขนและคอ พร้อมทั้งแย่งโทรศัพท์ แต่มีผู้ชุมนุมเข้าช่วยเหลือ ทหารทั้งสามนายอ้างว่า ได้รับคำสั่งมา หลังตำรวจ สน.บางโพ เข้าระงับเหตุ ผู้เสียหายยืนยันที่จะเข้าแจ้งความ ตำรวจจึงพาตัวทหารทั้งสามนายไปสอบสวนที่ สน.บางโพ โดยทหาร 3 นายให้การว่า ไม่มีใครสั่งให้กระทำลักษณะดังกล่าว และกล่าวขอโทษผู้เสียหาย
ต่อมา วันที่ 28 ก.ย. 2563 ภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมด้วยแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้จัดกิจกรรม “ตามหานาย” เพื่อทวงถามความคืบหน้าจากผู้บังคับบัญชาในการลงโทษพลทหารนอกเครื่องแบบ 3 นาย โดยหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักหน้า พัน ม.4 พล.1 รอ. ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารออกมาพบ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ และได้ปาไข่ พร้อมสาดสีใส่ป้ายกองพัน และพื้นที่บริเวณด้านหน้ากองพัน ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ