17 ก.ค. 63 – เวลา 11.30 น. สน.ปทุมวัน นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเหตุการจัดกิจกรรม “อ่านประกาศคณะราษฎรอีกครั้ง ให้รู้กันไปเลยว่าใครเป็นเจ้าของประเทศ” เพื่อรำลึกอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน โดยคดีนี้เป็นคดีที่สองที่ทัตเทพได้รับหมายเรียกหลังจากกรณีเรียกร้องความยุติธรรมให้วันเฉลิมฯ หน้าสถานทูตกัมพูชา ในวันนี้มีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง
พ.ต.ท.เจริญสิทธิ จงอิงธิ รองผู้กำกับสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาทัตเทพ ดังนี้
- ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานกาณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 เนื่องจาก “ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่ายฯ
- มีความผิดฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจาก “กระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”
- ฝ่าฝืน พ.ร.บ.รักษาความสะอาด เนื่องจากได้ “กระทำการโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศหรือใบปลิวในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และกระทำการติดตั้ง ตาก วางหรือแขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น”
ทั้งนี้ ทัตเทพได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือภายใน 20 วัน
มูลเหตุของคดีนี้ คือ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทัตเทพได้เข้าร่วมการอ่านประกาศคณะราษฎรที่จัดโดยสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และเครือข่าย เมื่อช่วงเวลา 18.00 น. ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน เพื่อรำลึกการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 88 ปีที่แล้ว โดยกิจกรรมในวันนั้นมีการอ่านประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 โดยนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล มีการชูป้ายว่า “คณะราษฎรยังไม่ตาย” เมื่ออ่านประกาศเสร็จ จึงแสดงสัญลักษณ์การชูสามนิ้วและประกาศว่า “ประเทศของเราเป็นของราษฎร” ระหว่างการทำกิจกรรม มีเจ้าหน้าที่พยายามแยกนักข่าวออกจากผู้ชุมนุม อ้างว่าเป็นการดูแลประชาชนจากระบาด และเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งพยายามระบุตัวนักกิจกรรมที่มีประวัติเข้าร่วมกิจกรรมจากแฟ้มข้อมูล เมื่อจบกิจกรรมผู้จัดยังถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามอีกด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ พริษฐ์ ปนัสยา และทัตเทพได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากการจัดกิจกรรมข้างต้น ด้านพริษฐ์และปนัสยาตัดสินใจไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาเนื่องจากต้องการแสดงออกถึงอารยะขัดขืนการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนทัตเทพเปิดเผยว่า ตัดสินใจเข้ามารับทราบข้อกล่าวในวันนี้ เพราะไม่อยากเพิ่มโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้เหตุการไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอาญาเพื่อออกหมายจับและควบคุมตัวไปเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งอาจตัดโอกาสให้ตนไม่สามารถออกมาทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีก และสร้างความยุ่งยากให้อีกหลายฝ่าย ปัจจุบันประมาณการว่า มีการดำเนินคดีกับผู้จัดกิจกรรมรำลึก 24 มิถุนายน ทั้งหมด 2 คดี และมีการคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 21 จุดจาก 15 จังหวัด
สำหรับการเคลื่อนไหวต่อไปของกลุ่มเยาวชนปลดแอก คือ กิจกรรม “ไม่ทนอีกต่อไป” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 18 ก.ค. 2563 โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมไปถึงผู้มีอำนาจได้สำนึกว่า มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพราะตัวไวรัสเพียงอย่างเดียว แต่เพราะการบริหารของรัฐบาลที่ให้อภิสิทธิ์แขกวีไอพีเข้ามาให้ประเทศ นอกจากนี้ยังต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชนที่ต้องการออกมาเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องความยุติธรรม และจะเสนอข้อเรียกร้อง 3 ประการให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง:
ทนายอานนท์และอีก 5 ผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเหตุจัดกิจกรรม 24 มิ.ย. “ลบยังไงก็ไม่ลืม”
88 ปี 24 มิ.ย.: ‘วันประวัติศาสตร์ชาติ’ที่ถูกห้ามรำลึกถึง กิจกรรม 21 จุดถูกปิดกั้นคุกคามทั่วไทย
4 ผู้ต้องหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการขอความเป็นธรรมให้ “วันเฉลิม” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา