ศาลไม่ให้ประกัน “มิกกี้บัง ทะลุฟ้า” หลังถูกฟ้องคดี ม.112 เผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ชี้อาจหลบหนี แม้ไปตามนัดทุกครั้ง-ยืนยันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา

วันที่ 4 ต.ค. 2565 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ พนักงานอัยการ จากสำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องคดีของ “มิกกี้บัง” นักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุฟ้าวัย 23 ปี ต่อศาลอาญา จากกรณีถูกกล่าวหาว่าเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติและป้อมจราจร ที่บริเวณหน้าโรงเรียนราชวินิต มัธยม ในระหว่างการเข้าร่วมชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 

ในคดีนี้ มิกกี้บัง ได้รับหมายเรียกและเดินทางไปเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 เขาไม่เคยถูกออกหมายจับและเดินทางไปตามนัดในคดีทุกครั้ง และให้การปฏิเสธข้อหามาตลอด โดยยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางเพลิงตามที่ถูกกล่าวหา

ต่อมาคดีนี้ ตำรวจมีการจับกุมดำเนินคดีกับ “แซม” พรชัย ยวนยี และ “แม็ก” สินบุรี แสนกล้า โดยทั้งสองไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่ในชั้นสอบสวน กระทั่งอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีทั้งสองคนไปเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2565 โดยมิกกี้บังติดภารกิจอื่น จึงได้ขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องออกมา และเขาเดินทางมาตามนัดในวันนี้ 

.

อัยการบรรยายฟ้อง “มิกกี้บัง ทะลุฟ้า” ในพฤติการณ์เดียวกันกับที่แซมถูกกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดกษัตริย์ ไม่ได้ใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่คัดค้านการประกัน

ในคำฟ้องของพนักงานอัยการ ได้มีใจความสำคัญระบุไว้ว่า จำเลยและพวก ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ในวันที่ 19 ก.ย. 2564 ที่มีการชุมนุมของกลุ่ม ‘ทะลุแก๊ส’ และจำเลยทั้งสองกับพวกได้เข้าร่วมกลุ่มชุมนุมดังกล่าว ในสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ในเขตพื้นที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับความมั่นคง อันเป็นการรวมกลุ่มกันมากกว่า 25 คน โดยไม่ได้รับอนุญาต

ในขณะเกิดเหตุนี้ ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอยู่ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 10 ในมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ระบุว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องกษัตริย์ไม่ได้

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 จำเลยและพวก ได้ทำการหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์และองค์ราชินี โดยการขว้างปาระเบิดเพลิง ราดน้ำมัน วางเพลิงเผาทรัพย์ด้วยการจุดไฟเผาขึ้นไปบนสะพานลอยบริเวณซุ้มเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10 และราชินีสุทิดา หน้าโรงเรียนราชวินิต มัธยม จนทำให้ซุ้มดังกล่าวเกิดความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,000 บาท

สำหรับซุ้มเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว หน่วยงานของกรุงเทพฯ ได้จัดทำขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนรัชกาลที่ 10 และราชินีสุทิดา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย จึงถือว่าการกระทำของจำเลยกับพวก มีเจตนาล่วงละเมิดด้วยการแสดงออกถึงอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน สิทธิและเสรีภาพของชื่อเสียง

นอกจากนี้อัยการยังได้มีความเห็น บรรยายฟ้องว่า ในการกระทำของจำเลยและพวกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิตามปกตินิยม การกระทำของจำเลยเป็นการสร้างความเสื่อมเสียพระเกียรติและดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ที่ซึ่งเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทย ซึ่งอยู่ในฐานะที่ใครจะละเมิดไม่ได้

อัยการฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาตามมาตรา 112, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

ทั้งอัยการยังไม่ได้คัดค้านการประกันตัว โดยระบุว่าหากจำเลยยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ต่อมา ทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นพิจารณา และเวลา 16.40 น. ศาลได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ระบุคำสั่งว่า “กรณีการกระทำของจำเลยตามที่ถูกกล่าวหาเป็นข้อหาร้ายแรง มีอัตราโทษสูง มีลักษณะร่วมกันกระทำโดยใช้ความรุนแรงในที่สาธารณะ และกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการ อันเป็นการไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย น่าเชื่อว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวไป จำเลยอาจหลบหนีหรือไปก่อภยันตรายประการอื่น ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง”

ลงนามคำสั่งโดย อรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา

ผลของคำสั่งดังกล่าว ทำให้มิกกี้บังจะถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที และทำให้มีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดีเพิ่มเป็นจำนวน 11 คน

ก่อนหน้านี้ มิกกี้บังเคยระบุหลังรับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้ยืนยันว่า เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา แม้จะเข้าร่วมการชุมนุมวันดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ไปก่อเหตุร่วมเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติแต่อย่างใด เพื่อนๆ จะทราบดีว่าที่ผ่านมา เขาระมัดระวังเรื่องการเคลื่อนไหวที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว

.

X