ศาลพิพากษาจำคุก “ทนายประเวศ” 16 เดือน ข้อหายุยงปลุกปั่น ไม่พิมพ์นิ้ว ยกม.112 โดยไม่บอกเหตุผล

เช้าวันนี้(27 มิ.ย.2561) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีนัดฟังคำพิพากษาคดีของนายประเวศ ประภานุกูล ทนายความ ที่ถูกฟ้องจากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กหลายข้อความด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 10 ข้อความ และข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จำนวน 3 ข้อความ และข้อหานำข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 2560

คำพิพากษาจำคุกทนายความประเวศเป็นเวลา 15 เดือนในความผิดตามมาตรา 116 และจำคุกอีก 1 เดือนในข้อหาไม่พิมพ์ลายนิ้วมือในชั้นสอบสวนตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. ฉบับที่ 25/2549

ผู้พิพากษาพิจารณาข้อความจำนวน 3 ข้อความ ที่คำฟ้องระบุว่าเป็นความผิดตามมาตรา 116 กล่าวถึงจำเลยต้องการให้คนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงร่วมใจกันต่อต้านเผด็จการแต่ก็เป็นได้ยาก และกล่าวถึงการเรียกร้องถึงระบบการปกครองแบบสาธารณรัฐหรือสหพันธรัฐโดยยืนยันว่าสามารถทำได้ ศาลเห็นว่าข้อความเหล่านี้เป็นความผิดตามฟ้อง ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกทนายความประเวศรวม 15 เดือน 3 กรรม กรรมละ 5 เดือน และยังให้จำคุกอีก 1 เดือน ข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 25/2549 จากเหตุทนายความประเวศไม่พิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนในชั้นสอบสวน ส่วนข้อหาอื่นๆ ศาลยก

ในวันนี้ศาลจะไม่ได้สั่งพิจารณาลับและไม่ได้สั่งห้ามจดบันทึก

ทั้งนี้ศูนย์ทนายความฯ มีข้อสังเกตว่า ผู้พิพากษาไม่ได้อ่านถึงการพิจารณาข้อความทั้ง 10 ข้อความที่อัยการฟ้องทนายประเวศด้วยข้อหาตามมาตรา 112 ว่าการโพสต์ข้อความเหล่านี้เป็นความผิดหรือไม่เป็นความผิดอย่างไรบ้าง ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 (5) และ (6) กำหนดว่าในคำพิพากษาจะต้องมีข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ผู้พิพากษาใช้ในการตัดสินว่าจำเลยมีความผิดในแต่ละข้อหาอย่างไร ไม่ว่าในคำพิพากษาจะยกฟ้องหรือลงโทษก็ตาม และคดีนี้ไม่ได้เข้าข้อยกเว้นเนื่องจากไม่เป็นคดีลหุโทษ

ทนายความประเวศอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ถูกทหารจับกุมไปควบคุมไว้ที่ค่ายทหารเมื่อ 29 เม.ย.2560 และอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาโดยตลอดตั้งแต่ศาลมีคำสั่งอนุญาตฝากขังเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ปีเดียวกัน จึงถือว่าทนายความประเวศถูกคุมขังมาเป็นเวลา 13 เดือน 27 วันแล้ว จึงเหลือโทษจำคุกอีกเพียงราว 2 เดือนจึงจะหมดระยะเวลาการคุมขังตามคำพากษานี้

คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สังคมออนไลน์มีกระแสติดตามหาหมุดคณะราษฎรที่หายไปจากบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ตั้งแต่สงกรานต์ปี 2560 จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการกวาดจับบุคคลไปถึง 7 คนในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทนายความประเวศเป็น 1 ใน 7 ที่ถูกจับกุม พฤติการณ์ที่ทำให้พวกเขาถูกจับกุมเป็นเพียงการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเท่านั้น

ตั้งแต่ทนายความประเวศถูกจับกุมและดำเนินคดี เขาได้ทำอารายะขัดขืนต่างๆ ทั้งการอดข้าว ประกาศไม่ยอมรับกระบวนการพิจารณาคดีต่อศาล และยังได้ออกแถลงการณ์ระหว่างที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เพราะเห็นว่าการจับกุมดำเนินคดีครั้งนี้ไม่เป็นธรรมกับเขาและไม่เปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ทั้งการจับกุมที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายตั้งแต่ต้น การไม่ให้ประกันตัวแม้ว่าจะยื่นหลักทรัพย์ถึง 680,000 บาท หรือแม้แต่การสั่งพิจารณาลับของศาล

อ่านเพิ่มเกี่ยวกับทนายความประเวศ

จับตา: คดีทนายประเวศกับโซ่ตรวน 112 อันเนิ่นนานยาว  

X