29 มิ.ย.61 ที่สำนักงานอัยการศาลแขวงดุสิต พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม นัดผู้ต้องหาในคดีร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ ช่วงกิจกรรมครบรอบ 4 ปี การรัฐประหาร เมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 หรือคดี “UN62” เข้าส่งตัวและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ
คดีนี้มี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานด้านกฎหมายของ คสช. เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก คสช. เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวน 41 ราย และผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 61 โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 5 ข้อหาหลัก ได้แก่
- ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
- ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก
- ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
- ข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา ตามมาตรา 8 (1)(3), มีการชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ ตามมาตรา 11, ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ตามมาตรา 16 (1)(4)(7)(9) และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19
- ข้อหาตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 และ 114 เรื่องการเดินขบวนและวางสิ่งของกีดขวางการจราจร
ในวันนี้ผู้ต้องหาจำนวน 38 ราย ได้เข้ารายงานตัวที่สำนักงานอัยการ ขณะที่ผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย ได้แก่ นายนันทพงศ์ ปานมาศ ติดภารกิจในวันนี้ ทำให้ได้ขอเลื่อนเข้ารายงานตัวเป็นวันที่ 2 ก.ค. แทน และในวันนี้ยังมีผู้สังเกตการณ์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (EU) เดินทางมาติดตามคดีด้วย
หลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการ โดยมีความเห็นว่าควรสั่งฟ้องคดี ทางพนักงานอัยการได้รับสำนวนเอาไว้ และกำหนดวันนัดไปส่งฟ้องคดีต่อศาลแขวงดุสิตทันที ในวันที่ 6 ก.ค. 61 เวลา 9.00 น. ในส่วนทางผู้ต้องหายังได้ยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้นำคำให้การรวมกับสำนวนคดีเพื่อส่งให้กับอัยการเอาไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนยังได้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีในส่วนของนายชเนศ ชาญโลหะ คนเสื้อแดงในจังหวัดระยองและเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งให้การตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมทั้งสองวันดังกล่าวแต่อย่างใด แต่กลับถูกแจ้งความดำเนินคดี และได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ด้วย
ในคดีนี้ยังมีผู้ถูกออกหมายเรียกอีก 1 ราย ได้แก่ น.ส.อาอิซะห์ เสาะหมาน ซึ่งไม่ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกันกับผู้ถูกออกหมายเรียกคนอื่นๆ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. และจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหา ทำให้พนักงานสอบสวนได้มีการขออำนาจศาลในการออกหมายจับแล้ว
ผู้ต้องหายื่นคำให้การเพิ่มเติม ด้าน จนท.ศูนย์ทนายฯ ยันไปสังเกตการณ์การชุมนุม ไม่ได้เป็นผู้ชุมนุม
ในส่วนคำให้การที่ผู้ต้องหายื่นเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรต่อพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ได้ยืนยันเพิ่มเติมใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
- พฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสุจริต และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และไม่ได้เป็นการมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ที่มีเจตนาเพื่อใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือมีเจตนากระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ทั้งยังเป็นไปโดยชอบด้วย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จึงไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
- คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ถูกยกเลิกสิ้นผลบังคับใช้แล้ว เนื่องจากมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตามหลักกฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่า
- คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 44 และมาตรา 26
- การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเป็นไปโดยมีเหตุผลทางการเมือง เพื่อแทรกแซงยับยั้งการใช้สิทธิเสรีภาพโดยชอบด้วยกฎหมายของประชาชน และมีเจตนาไม่สุจริต
ขณะเดียวกันผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือนางสาวนีรนุช เนียมทรัพย์ ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ก็ได้ยื่นคำให้การเพิ่มเติมในส่วนของตนเองแยกต่างหากด้วย โดยยืนยันเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้ชุมนุมตามที่ถูกกล่าวหา แต่ไปปฏิบัติหน้าที่เก็บข้อมูลและสังเกตการณ์การชุมนุมในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายฯ โดยในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ผู้ต้องหาได้มีการแขวนบัตรและสวมเสื้อเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายฯ เพื่อแสดงตัวต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนตามปกติของการปฏิบัติงานแล้ว
อ่านเพิ่มเติม
ตร.แจ้งหลายข้อหา กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หลังแจ้งปล่อยตัวกลับหมด ไม่ส่งศาลขอฝากขัง
คสช.แจ้งความ “คนอยากเลือกตั้ง” มธ.+UN และผู้สังเกตการณ์ชุมนุมจากศูนย์ทนายฯ รวม 62 คน