กว่า 2 ปีครึ่งยังไม่จบ คดีผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง UN62 ศาลนัดสืบพยานมิ.ย.-ส.ค. 64

9 พ.ย. 63 ศาลแขวงดุสิตนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 ซึ่งมีการชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์กรสหประชาชาติ หรือคดี UN62 ในส่วนของผู้ชุมนุม ซึ่งมีจำเลยทั้งหมด 39 ราย

ในคดีผู้ชุมนุม UN62 มีการเลื่อนตรวจพยานหลักฐานมาแล้ว 4 ครั้ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหามาตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 61 เหตุที่มีเลื่อนหลายครั้งเนื่องจากโจทก์นำส่งพยานหลักฐานมาให้ฝ่ายจำเลยดูไม่ครบ รวมทั้งอัยการได้ยื่นฟ้องนายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล เป็นจำเลยเพิ่มเข้ามา หลังจากฟ้องผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ไปก่อนหน้าแล้ว 38 ราย รวมทั้งตำรวจยังมีการจับกุมนางอาอีซะห์ เสาะหมาน ผู้ต้องหาอีกรายหนึ่งเพิ่มเมื่อเดือนเม.ย. 63 แต่อัยการยังต้องรอขออนุญาตอัยการสูงสุดเพื่อสั่งฟ้องคดี ทำให้ถึงปัจจุบันในส่วนของนางอาอีซะห์ ก็ยังไม่ได้มีการสั่งฟ้องคดีเพิ่มเข้ามา

หลังการตรวจเอกสารหลักฐานในวันนี้ ศาลได้ให้คู่ความนัดหมายสืบพยานบุคคลต่อ ฝ่ายอัยการโจทก์แถลงประสงค์จะนำสืบพยานจำนวน 12 ปาก ศาลจึงกำหนดวันนัดให้ทั้งหมด 6 นัด และฝ่ายจำเลยประสงค์จะนำสืบพยานจำนวน 49 ปาก ศาลกำหนดวันนัดให้ทั้งหมด 5 นัด รวมเป็นสืบพยานทั้งสิ้น 11 นัด

หลังกำหนดวันนัดที่ศูนย์นัดความของศาล จึงได้วันสืบพยานคดีนี้ในช่วงกลางปี 2564 คือวันที่ 2, 4, 30 มิ.ย., 1-2 ก.ค., 21-22 ก.ค., 11, 25-27 ส.ค. โดยหากสืบพยานเสร็จในช่วงวันดังกล่าว คดีจะใช้เวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงสืบพยานเสร็จเป็นเวลากว่า 3 ปี 3 เดือน

 

ภาพเหตุการณ์การจับกุมผู้ชุมนุมในช่วงวันที่ 22 พ.ค. 61   

 

สำหรับคดีผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง UN62 นี้ พนักงานอัยการศาลแขวงดุสิตได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 38 ราย ต่อศาลแขวงดุสิต ใน 5 ข้อกล่าวหาหลัก ได้แก่

  1. ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
  2. ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216 ไม่เลิกมั่วสุม เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก
  3. ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
  4. ข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้แก่ กีดขวางทางเข้าออกสถานที่ราชการและสถานศึกษา ตามมาตรา 8 (1)(3), มีการชุมนุมระหว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุมฯ ตามมาตรา 11, ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ตามมาตรา 16 (1)(4)(7)(9) และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามมาตรา 19
  5. ข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108 และ 114 เรื่องการเดินขบวนและวางสิ่งของกีดขวางการจราจร

ก่อนหน้านี้ โจทก์จะขอให้อัยการสูงสุดถอนฟ้องข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว แต่ในนัดตรวจพยานหลักฐานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อัยการยืนยันดำเนินคดีจำเลยทั้งหมดในข้อหาเดิมตามที่ระบุในคำฟ้องทุกประการ เนื่องจากโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา

ในส่วนของนายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล นั้น อัยการไม่ได้ยื่นฟ้องข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 เนื่องจากได้ถูกยกเลิกไปก่อนฟ้องคดีแล้ว และยังไม่ได้ฟ้องในข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 เนื่องจากข้อหาหมดอายุความไปแล้ว

คดีนี้ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยตามที่ขออนุญาตไว้ จำเลยจึงไม่ต้องเดินทางมาฟังการพิจารณาคดีด้วยตนเอง

 

ภาพโดย Banrasdr Photo

 

คดี UN62 ทั้งในส่วนของแกนนำและผู้ชุมนุมมีเหตุมาจากการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 61 ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ โดยการชุมนุมทั้งสองวัน ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นโดยตลอด และจบลงที่การจับกุมแกนนำและผู้ชุมนุม 10 ราย ที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ และแกนนำที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวน 5 ราย เข้ามอบตัว นอกจากนี้ ภายหลังเหตุการณ์ ตำรวจยังออกหมายเรียกผู้ชุมนุมอีก 47 ราย โดย 6 ราย ถูกแจ้งข้อหาเช่นเดียวกับกลุ่มแกนนำ

ปัจจุบันในส่วนของคดีแกนนำซึ่งถูกฟ้องที่ศาลอาญา ในข้อหาหลักตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 116 ด้วยนั้น คดีก็ยังอยู่ระหว่างรอการสืบพยานในชั้นศาล โดยมีกำหนดวันนัดสืบ 25 นัด ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2564

 

X