ศาลรับฟ้อง คดี ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ ฟ้องประชาชนจากโคราช ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา กรณีคอมเมนต์ใต้โพสต์เพจ สส.รักชนก ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ

วันที่ 30 มิ.ย. 2568 ศาลแขวงชลบุรีนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีหรือไม่ ในคดีของ ธนพัทธ์ ทองคำ ประชาชนจากจังหวัดนครราชสีมาวัย 30 ปี ที่ถูกกล่าวหาในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา กรณีคอมเมนต์ใต้คลิปขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในเพจของ สส.รักชนก ศรีนอก เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2568

ศาลมีคำสั่งรับฟ้อง เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์น่าเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นลงในโพสต์ของเพจของ สส.รักชนก ศรีนอก น่าเชื่อว่า จำเลยเขียนข้อความดังกล่าวโดยมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูถูกเหยียดหยาม

ที่มาที่ไปของคดีนี้ เมื่อวันที่ 24-25 มี.ค. 2568 ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฟซบุ๊กเพจ สส.รักชนก ศรีนอก จากพรรคประชาชน ได้แชร์คลิปของไทยรัฐออนไลน์ขณะที่ สุชาติ ชมกลิ่น ตอบคำถามในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมเขียนข้อความวิพากษ์วิจารณ์ และมีผู้คนมาคอมเมนต์แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก

สุชาติ ได้ให้ทนายส่วนตัวยื่นฟ้องคดีแก่ผู้ที่มาแสดงความเห็นหลายราย แต่เนื่องจากเป็นคดีส่วนตัว ในหลายคดีเมื่อจำเลยทำการขอโทษสุชาติ ก็ทำการถอนฟ้องคดีออกไป

สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2568 สุชาติได้มอบอำนาจให้ดำเนินคดีกับธนพัทธ์ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี และให้ชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์

ต่อมา วันที่ 23 มิ.ย. 2568 ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง ก่อนนัดฟังคำสั่งในวันนี้ และมีคำสั่งให้รับฟ้อง

คำสั่งรับฟ้องสามารถสรุปสาระสำคัญออกมาได้ดังนี้ พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า โจทก์มีผู้รับมอบอำนาจเป็นพยานเบิกความว่า จำเลยเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กซึ่งปรากฏรูปถ่ายจำเลยที่หน้าบัญชีดังกล่าว

จำเลยเคยโพสต์ภาพถ่ายบัตรประจำตัวการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 ซึ่งปรากฏชื่อและชื่อสกุลของ

จำเลยในบัญชีเฟซบุ๊ก โดยชื่อและชื่อสกุลตรงกับสำเนาข้อมูลทะเบียนราษฎรของจำเลย

ขณะเกิดเหตุมีผู้ใช้แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “รักชนก ศรีนอก Rukchanok Srinork” ได้โพสต์ข้อความและภาพถ่ายของโจทก์ โดยเปิดสถานะเป็นสาธารณะทำให้บุคคลทั่วไปเห็นข้อความดังกล่าวได้ จำเลยใช้บัญชีเฟซบุ๊กเขียนข้อความแสดงความคิดเห็นลงในช่องแสดงความคิดด้านล่างโพสต์ดังกล่าว ข้อความที่จำเลยแสดงความเห็น น่าเชื่อว่าจำเลยเขียนข้อความดังกล่าวโดยมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูถูก เหยียดหยาม

ฟ้องโจทก์ครบองค์ประกอบความผิด คดีโจทก์จึงมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา

ศาลกำหนดนัดพร้อมสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และคุ้มครองสิทธิในวันที่ 26 ส.ค. 2568 เวลา 13.30 น.