“บัสบาส” ถูกย้ายตัวไปเรือนจำเชียงใหม่ แม้ยังคงอดอาหาร ไม่มีใครระบุเหตุแน่ชัด ขณะกลุ่มเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อนยังเดินหน้าไป “ยืนหยุดขังสัญจร”

วันที่ 17 มิ.ย. 2568 เสียงโทรศัพท์ผ่านกระจกที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ดังขึ้น ท่ามกลางแววตางุนงงของ “บัสบาส” หรือ มงคล ถิระโคตร ผู้ต้องขังในคดีตามมาตรา 112 ที่เพิ่งถูกย้ายจากเรือนจำกลางเชียงรายมาแบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

“ผมยังไม่รู้เลยว่ามาอยู่ที่นี่ทำไม” เขาหัวเราะ ซ่อนความไม่เข้าใจในกระบวนการที่พาตัวเขามาถึงตรงนี้

บัสบาสเล่าว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงรายเพียงนำเอกสารมาให้เขาอ่านช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้ บอกว่าจะย้ายตัวมาอยู่ที่เชียงใหม่จนถึงวันที่ 20 มิ.ย. โดยไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลที่ชัดเจน และที่สำคัญคือ ไม่มีการแจ้งญาติให้ทราบล่วงหน้า 

ก่อนหน้านี้ “กลุ่มเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน” ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนที่ทำกิจกรรมยืนหยุดขังเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง อยู่ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมที่กรุงเทพฯ มีกำหนดการเดินทางมาทำกิจกรรม “ยืนหยุดขังสัญจร” ที่เรือนจำกลางเชียงราย ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ เพื่อส่งตัวแทนเข้าเยี่ยมบัสบาส และให้กำลังใจให้ใกล้ผู้ต้องขังทางการเมืองรายนี้ให้ใกล้ที่สุด

.

บัสบาสเล่าว่า วานนี้ (16 มิ.ย. 2568) เขาถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถของเรือนจำมาพร้อมนักโทษอีก 1 ราย โดยใส่กุญแจข้อเท้าตลอด 4 ชั่วโมง ที่เดินทางผ่านเส้นทางสายเชียงราย-เชียงใหม่ ท่ามกลางฝนโปรยปราย

เมื่อถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อยู่ที่อำเภแม่แตง เขาไม่ได้ถูกนำไปผ่านขั้นตอนรับตัวตามปกติ ไม่ได้มีการชั่งน้ำหนักหรือตรวจร่างกาย และไม่ต้องทำทะเบียน ก่อนเขาถูกพาตัวไปที่แดนพยาบาลในทันที 

ในแดนพยาบาลห้องหนึ่งมีฟูกนอนให้ โดยผู้ต้องขังที่ป่วยนอนรวมกัน 12 คน บางคนเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช บางคนมารักษาอาการติดยาเสพติด บรรยากาศเงียบเหงาจนบัสบาสบอกว่าดูเหมือนหนังซอมบี้

“ผมแข็งแรงที่สุดในนั้น ถ้ามีอะไรคงสู้ได้อยู่” เขาพูดติดตลก 

ตั้งแต่มาถึงเป็นเวลาวันกว่า เขายังไม่ได้รับการตรวจร่างกาย และการย้ายเรือนจำ พร้อมกับนำตัวไปอยู่ที่แดนพยาบาล ทำให้เขาไม่สามารถซื้อของในเรือนจำทานได้เหมือนตอนอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงราย ต้องกินน้ำเปล่าอย่างเดียว ทำให้เขาคิดว่าร่างกายอ่อนเพลียลง

“ไม่มีนมให้กินเลย มีแต่น้ำเปล่า บางทีปวดท้องบ้าง แต่ยังไหวอยู่” เขาบอก

บัสบาสยังตั้งคำถามกับเหตุผลในการย้ายมาเชียงใหม่อย่างเงียบ ๆ หากเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ก็สามารถส่งตัวไปยังโรงพยาบาลได้ “โรงพยาบาลเชียงรายก็มี แล้วจะส่งผมมาทำไม ที่เชียงใหม่ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมอดอาหารอยู่ด้วยซ้ำ”

“ไม่รู้จะส่งมาทำไม แต่ปรับตัวได้แหละ แค่เสียเวลาไปเฉย ๆ” บัสบาสบ่น

.

แม้ดูเหมือนว่าทางเรือนจำกลางเชียงรายอ้างว่าการย้ายครั้งนี้เพื่อ “การรักษาพยาบาล” ในระหว่างที่เขาอดอาหาร แต่บัสบาสกลับตั้งข้อสังเกตว่า ทุกอย่างดูไม่สอดคล้องกับคำอธิบายดังกล่าว

“ร่างกายก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต คุยรู้เรื่อง มีแรงอยู่ ถ้ามาสภาพหน้าเดฟเลยก็ว่าไปอย่าง ที่เชียงรายผมก็มีหมอมาตรวจประจำอยู่แล้ว” บัสบาสบอก

ก่อนสิ้นสุดการเยี่ยม บัสบาสฝากข้อความไปยังกลุ่มประชาชนยืนหยุดขัง ที่ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมเขาที่กลางเชียงราย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันได้พบกันแล้ว

“ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจมา ถึงแม้จะไม่ได้เจอกัน ก็รู้สึกเสียใจแทน”

เขายังฝากความห่วงใยกลับบ้านด้วย เพราะทราบว่าเดิมพ่อกับแม่ก็มีกำหนดจะมาเยี่ยมเขาในช่วงอาทิตย์นี้ แต่เมื่อถูกย้ายตัวมา ทำให้ไม่ได้เยี่ยมกันแล้ว 

“ฝากบอกรักพ่อแม่ และบอกว่าผมดูแลตัวเองอยู่แล้ว เดี๋ยวเจอกันครับ”

.

บัสบาสเริ่มอดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีของเขา โดยยังดื่มกาแฟ นม และน้ำ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 32 วันแล้ว

ขณะที่ยังต้องติดตามต่อไปว่าวันที่ 20 มิ.ย. บัสบาสจะถูกย้ายตัวกลับไปเรือนจำกลางเชียงรายหรือไม่ และเหตุผลของการย้ายตัวเขามาเรือนจำกลางเชียงใหม่คืออะไร

X