อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 “ป้านิด” วัย 76 ปี เหตุปราศรัยไม่อยากให้กษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย ในชุมนุม มธ.รังสิต ปี 66 ก่อนได้ประกัน

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี มีคำสั่งฟ้องคดีของ “ป้านิด” จิราภรณ์ บุษปะเกศ ประชาชนชาวนนทบุรี วัย 76 ปี ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการถูกกล่าวหากรณีขึ้นปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ในการชุมนุม THE RETURN OF THAMMASAT #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566

คดีนี้มี อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และพวก เป็นผู้กล่าวหา โดยจิราภรณ์ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 โดยแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

การชุมนุมที่ถูกกล่าวหา เกิดขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และไม่เอา สว. ซึ่งในช่วงดังกล่าวมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ลานอนุสาวรีย์สัญญา ธรรมศักดิ์ หน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และจิราภรณ์ได้ขึ้นปราศรัยในกิจกรรมดังกล่าว และยังกล่าวหาว่ามีการเผยแพร่ภาพการปราศรัยทางสื่อโซเซียลออนไลน์ด้วย

จิราภรณ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดหมายส่งสำนวนคดีให้อัยการไปเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2566 โดยอัยการใช้เวลาพิจารณาสำนวนเกือบถึง 2 ปี ก่อนที่จะมีคำสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดธัญบุรี โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหามาตรา 112 ไม่ได้ฟ้องข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่อย่างใด

ภิญโญ จอมผา พนักงานอัยการผู้เรียงฟ้องคดี โดยสรุปกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 จำเลยได้กล่าวปราศรัยบนเวทีการจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นในทำนองว่า ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้กษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย วิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารในประเทศไทยที่เกิดขึ้นมาแล้วถึง 13 ครั้ง รวมทั้งปัญหาการสนับสนุนและรับรองการรัฐประหาร

โจทก์กล่าวหาว่าข้อความดังกล่าวเป็นการใส่ความรัชกาลที่ 10 ต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์ซึ่งทรงครองราชสมบัติในรัชกาลปัจจุบัน ต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง ทำให้บุคคลที่สามและประชาชนทั่วไปที่ได้ทราบข้อความคำพูดและคำกล่าวปราศรัยของจำเลยเข้าใจว่าพระมหากษัตริย์ไม่อยู่ในฐานะที่ควรเคารพสักการะอีกต่อไป

ทั้งนี้ โจทก์ไม่ได้ระบุคัดค้านการประกันตัวจำเลยแต่อย่างใด

หลังศาลจังหวัดธัญบุรีรับฟ้องไว้ และในวันเดียวกันนั้นศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวจำเลยระหว่างพิจารณาคดี โดยให้วางหลักทรัพย์ 150,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ๆ เพิ่มเติม โดยในวันนัดสั่งฟ้อง ได้มีประชาชนมาร่วมติดตามและให้กำลังใจป้านิดที่ศาลจังหวัดธัญบุรีจำนวนหนึ่งด้วย

ศาลจังหวัดธัญบุรีกำหนดนัดคุ้มครองสิทธิฯ ในคดีต่อไปในวันที่ 14 ก.ค. 2568 เวลา 13.30 น.

สำหรับป้านิด เคยทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับสูงอยู่ที่องค์กรแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเกษียณอายุแล้ว แต่ยังประกอบอาชีพขายโจ๊กอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี เธอเข้าร่วมการชุมนุมกับคนเสื้อแดง และเป็นประชาชนที่คอยติดตามร่วมกิจกรรมทางการเมืองเรื่อยมา ในวัย 76 ปี เธอเป็นโรคหัวใจตีบ, มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ, ข้อเข่าเสื่อม และอาการไตเสื่อม แต่ก็ยังกระตือรือร้นทางการเมืองเรื่อยมา

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ป้านิดนับเป็นประชาชนอายุมากที่สุดที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ในยุคหลังปี 2563 เป็นต้นมา

จากการติดตามของศูนย์ทนายฯ พบว่าในคดีข้อหาตามมาตรา 112 ในช่วงปี 2563 เป็นต้นมา ในจำนวนคดีทั้งหมด 314 คดี ถ้าหากรวมในคดีนี้แล้วนั้น มีคดีที่ “ประชาชน” เป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนถึง 167 คดี

ทำความรู้จักป้านิด : ไม่อยากให้สถาบันฯ ถูกใช้เป็นเครื่องมือ โดยคนที่ผูกขาดว่า ‘รักชาติ’