เมื่อวันที่ 2-3 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทนายความเข้าเยี่ยม “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 หลังถูกส่งตัวกลับมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2568 หลังเข้ารับการรักษามาตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีภาวะเสี่ยงจากการอดอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัว
อาการในภาพรวมที่พอสังเกตได้ ร่างกายขนุนยังไม่ค่อยมีแรง เนื่องจากยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดินและต้องมีคนคอยพยุงตัว ขายังไม่ค่อยมีแรง ทำให้เดินได้ไม่นาน และยังมีการขับถ่ายที่ไม่ดี พบว่ามีมูกเลือดปนมาด้วย ส่วนจากการตรวจร่างกายที่ รพ.ราชทัณฑ์ ผลตรวจยังไม่พบความผิดปกติใด
อย่างไรก็ตาม ขนุนตัดสินใจเลิกอดอาหาร และเริ่มเข้ากระบวนการ Refeeding โดยเริ่มรับอาหารเหลวและเกลือแร่ ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มี.ค. เพื่อรักษาภาวะขาดสารอาหาร ภาวะโพแทสเซียมที่ต่ำมาก และน้ำหนักตัวที่ลดลงไปราว 9 กิโลกรัม
ในระหว่างการอดอาหารของขนุน ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาก็ยังคงมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเช่นเดิม
———–
2 เม.ย. 2568
ณ โรงพยาบาลราชทัณฑ์
ขนุนนั่งรออยู่อีกฝั่งของห้องเยี่ยม เรายิ้มแห้ง ๆ ให้กัน เพราะบรรยากาศแตกต่างกับที่ธรรมศาสตร์และกลับเข้าสู่สภาวะเดิม ฝั่งข้างขวาขนุนมีขวดน้ำเปล่าขนาดเล็กวางอยู่ และมีไม้เท้าสี่ขาวางอยู่ข้าง ๆ เมื่อขนุนเห็นเรามองไปที่ไม้เท้า เขาจึงพูดว่าเป็นของที่นี้ ไปหยิบมาใช้
ขนุนเล่าเหตุการณ์การย้ายโรงพยาบาลเมื่อวานว่า “ที่ รพ. ธรรมศาสตร์ ไม่ได้มีหมอมาตรวจ หรือแจ้งอะไร จริง ๆ เป็นอาทิตย์แล้วที่หมอไม่ได้มาตรวจ จะมีก็แต่หมอเวรที่มาแจ้งว่า รพ.ธรรมศาสตร์ไม่มีอะไรจะรักษาแล้ว มีพยาบาลเข้ามาถามว่าหมอยังไม่มาตรวจอีกเหรอ ผมก็ไม่รู้จะตอบพยาบาลยังไงเหมือนกัน ธรรมศาสตร์ไม่ได้ให้ยา เขาบอกว่าผมต้องไปซื้อยาเอง ใบส่งตัวก็ไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไร แม่ต้องไปขอผลการรักษามาถึงรู้ละเอียด”
ระหว่างทางถูกนำตัวกลับมา รพ.ราชทัณฑ์ ขนุนเห็นวิวระหว่างทางเป็นเมืองทอง โรงเรียนหอวัง นนทบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของเขา เห็นห้างโรบินสันที่เขาเคยไปซื้อของ ทำให้เขารู้สึกดีและผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิม
ขนุนเล่าว่าเขามาถึงที่ รพ.ราชทัณฑ์ ประมาณ 15.30 น. เมื่อถึงหมอก็ให้ขนุนเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ เอกซเรย์ปอด ผลออกมาปกติดี ส่วนผลตรวจหัวใจยังไม่ออก เพราะถ้ามีปัญหาก็คงแจ้งแล้ว ซึ่งการเจาะเลือดจะมีทุกสามวัน คือ วันจันทร์ พุธ แล้วก็ศุกร์
ขนุนเล่าเพิ่มอีกว่า ใบส่งตัวของ รพ.ธรรมศาสตร์ ที่ส่งมาที่ รพ.ราชทัณฑ์ ไม่ได้ระบุรายละเอียดใด ๆ หมอที่ รพ.ราชทัณฑ์ เลยต้องดูเทียบกับเอกสารที่แม่ของขนุนไปขอมาต่างหากถึงได้รู้อาการ และรู้ว่ามีอาการแพ้กุ้ง เพราะแต่เดิมเขาไม่ได้แจ้ง รพ.ราชทัณฑ์ ไว้ เพราะเพิ่งมาแพ้ตอนรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์
ส่วนที่นอนของเขาใน รพ.ราชทัณฑ์ ขนุนเล่าว่าของทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ข้าวของเครื่องใช้ แม้แต่น้ำดื่มก็ถูกจัดวางไว้ที่เดิม เหมือนตอนที่เขาจะออกไป
มื้อเช้าของขนุนเป็นผัดเต้าหู้ถั่วงอก เขาบอกว่าไม่รู้ว่าจะเรียกผัดเต้าหู้ได้หรือไม่ เพราะเต้าหู้ได้น้อยกว่าถั่วงอกมากและมีรสชาติจืด ๆ แต่ถ้าคิดในแง่โภชนาการก็ถือว่าให้สารอาหารเยอะ ส่วนมื้อที่สองเป็นเกาเหลาไก่น่องเล็กพร้อมกับลูกชิ้น 5-6 ลูก โดยกินใส่จานปกติ ไม่ใช่ถาดหลุม
ต่อมาประมาณ 10.30 น. มีหมอเข้ามาทักทายและติดตามอาการขนุน ส่วนช่วงเย็นจะมีนักโภชนาการมาคุยด้วย แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจนว่าต้องเจอนักกายภาพวันไหน แต่ขนุนก็ได้รับแจ้งว่าถ้าเขาพร้อมก็สามารถไปที่ห้องกายภาพได้เลย
“ผมเห็นข้างในมีประกาศอบรมโครงการ กอช. (กองทุนออมเพื่อชาติ) วันที่ 8 เมษานี้ ผมคิดว่าจะเข้าไปฟังด้วย ผมสนใจเพราะถ้าฝากเงินภายในเดือนไหนของปีนี้มากที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท เดี๋ยวจะไปสอบถามอีกที” ขนุนเล่าให้ฟัง
ขนุนเล่าให้ทนายฟังต่อว่าหลังจากนี้เขาจะเริ่มเขียนประมวลภาพ และความรู้สึกระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ คิดว่าจะเขียนทั้งในเชิงวิชาการ และเขียนประกอบภาพด้วย ช่วงนี้เลยต้องการหนังสือเกี่ยวกับการสเก็ตช์ภาพ หรือเกี่ยวกับเรื่องสถาปัตย์เพื่อฝึกฝนทักษะการวาดภาพของเขา
สรุปสภาพทางร่างกายของขนุน เรื่องการขับถ่ายยังไม่ดี และร่างกายยังไม่ค่อยมีแรง เนื่องจากยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดินและต้องมีคนคอยพยุง ตอนที่เยี่ยมเสร็จขนุน ต้องกดกริ่งเรียกผู้ช่วยงาน ให้มาช่วยพยุงเขาออกไป

———–
3 เม.ย. 2568
ณ โรงพยาบาลราชทัณฑ์
ขนุนทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาบอกว่ารู้สึกดีขึ้นมาก เพราะรู้สึกว่าที่นี่ใส่ใจ ตอนเขากลับมา ก็จัดเตียง และจัดระเบียบของที่เตียงที่เขาเคยอยู่ไว้อย่างดี ได้กินอาหารตรงตามมื้อ ไม่ต้องกินข้าวเย็นตอนมื้อกลางวันอีก
ขนุนเล่าอย่างยิ้มแย้มว่าเขาได้รับอนุญาตให้เดินไปได้หลายที่ เมื่อวานเขาได้ไปห้องสมุดมาด้วย โดยเข้าไปดูหนังสืออยู่ประมาณ 10 นาที จนขาสั่นเพราะยืนนานเกินไป
“ที่นี่มีหนังสือดี ๆ เยอะ ทั้งหนังสือประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ หนังสือจากจุฬาฯ ล่าสุดผมเพิ่งอ่านหนังสือชื่อ ‘กรีบูย’ จบไป เป็นนิยายเกี่ยวกับการขูดรีดและชนชั้น ผมเพิ่งไปลงชื่อขอยืมหนังสือ ‘The Over Coat’ ไว้มาอ่านคืนนี้” เขาเล่าให้ฟัง
ขนุนได้แจ้งพยาบาลไปด้วยว่า เมื่อเดินนานแล้วขาจะสั่น สักพักหนึ่งก็มีนักกายภาพมาคุยเรื่องการเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างจริงจังเพื่อให้ขากลับมาเดินได้เป็นปกติโดยเร็ว โดยหลักก็คือจะให้เขาออกมาเดินบ่อยขึ้น เพื่อให้กล้ามเนื้อขากลับมาเร็วขึ้น
วันนี้มีนักโภชนาการมาคุยเพื่อการวางแผนทานอาหาร โดยเพิ่มนมธัญพืชรสดาร์คช็อกโกแลต ขนุนบอกว่าอร่อย นอกจากนั้นก็มี ผอ.ฝ่ายจัดการผู้ต้องขัง มาพูดคุยกับขนุน ขนุนได้สอบถามไปว่าที่นี่จะส่งจดหมายได้สัปดาห์ละหนึ่งฉบับจริงหรือ ผอ.ตอบว่าสามารถส่งได้เรื่อย ๆ ขนุนจึงสบายใจขึ้น เพราะการส่งจดหมายก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เขาเครียดน้อยลง
วันนี้โรงพยาบาลยังมีการวัดสายตาเพื่อจะตัดแว่นให้กับขนุนด้วย ซึ่งค่าตัดแว่นต้องให้ญาติเป็นคนชำระเอง เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
ทนายสังเกตเห็นว่าระหว่างพูดคุย ขนุนยกแขนขึ้นมาเกาเป็นระยะ เขาจึงนึกขึ้นได้ และบอกว่าในนี้ค่อนข้างร้อน จึงเป็นผดร้อน ซึ่งโรงพยาบาลจะจ่ายคารามายด์ให้ทา ส่วนร่างกายของเขาก็ยังคงไม่ค่อยมีแรง ทำให้เดินได้ไม่นาน และตั้งแต่กลับมาที่ รพ.ราชทัณฑ์ เขาเพิ่งขับถ่าย โดยพบว่ายังมีมูกเลือดปนมาอยู่