“ขนุน” อดอาหารผ่านวันที่ 8 เล็บเริ่มม่วงคล้ำ-ผื่นขึ้น-ไม่มีแรง แต่ยังหวังว่าจะได้ชีวิตที่มีอิสรภาพกลับคืน

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568  ทนายความเข้าเยี่ยม “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นักกิจกรรมวัย 24 ปี และผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังขนุนได้ตัดสินใจเริ่มอดอาหารประท้วง เพื่อเรียกร้องการสร้างอิสรภาพที่ถาวรสำหรับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมือง มาตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2568 นับเป็นการอดอาหารวันที่ 8 แล้ว และเขาถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. 2568

ขนุนนั่งรอบนรถเข็น เขาสวมชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล เป็นชุดผ้าสีขาว ไม่มีลวดลาย ตัวเขาซูบลง ผิวซีดขึ้น ใบหน้าตอบ ตาดูเหลือง เมื่อเขากางฝ่ามือทาบผ่านกระจกห้องเยี่ยม ก็มองเห็นเส้นเลือดสีดำเป็นกลุ่มใต้ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างชัดเจน บริเวณใต้เล็บทั้ง 10 นิ้ว เริ่มมีดวงสีม่วงคล้ำกระจายขึ้นมาจากโคนเล็บ 

ขนุนบอกไม่เคยมีอาการนี้มาก่อน และยังเล่าว่าบริเวณหน้าอกมีผื่นสีแดงขึ้น ขนุนให้ความเห็นว่าอาจจะเพราะภูมิตก แต่ไม่เคยมีอาการนี้มาก่อน แม้ใบหน้าจะดูโรยแรง แต่ขนุนยังคงตอบคำถามชัดถ้อยชัดคำ พยายามตั้งสติ ตลอดการพูดคุยขนุนจิบน้ำขวดเล็กที่พกไว้ข้างตัวตลอด

ขนุนอัปเดตอาการว่า วันนี้น้ำหนัก 68.5 กิโลกรัม ค่าน้ำตาล 76 มก./ดล. เพิ่มขึ้นจากวันก่อน อาจเพราะตอนนี้ร่างกายกำลังดึงไขมันมาใช้ ส่วนความดันยังคงปกติ  รู้สึกว่ามีอาการวิงเวียนมากขึ้น ชาตามตัวมากขึ้น ปัสสาวะวันละ 4-5 ครั้งต่อวัน แต่ตอนนี้ไม่ถ่ายแล้ว

เขาบอกว่า เมื่อคืนนี้นอนหลับปกติ แต่คืนแรกที่ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้นนอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากมียุงและแมลงค่อนข้างเยอะ ดีที่เขามีสเปรย์ฉีดกันยุงจากแดน 4 ด้วย เขาตั้งข้อสังเกตว่าหมอและพยาบาลที่นี่ดูค่อนข้างระมัดระวังเรื่องของเขาพอสมควร เหมือนทุกเช้าจะมีหมอเข้ามาถามอาการเป็นคนแรก ๆ เลย

ขนุนยังเล่าว่า เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา เหมือนตาขวาจะไม่โฟกัส ตาพร่ามัวต้องใช้เวลาสักพักถึงจะสามารถโฟกัสสิ่งรอบตัวได้ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยังไม่มีอาการใจสั่น ไม่มีอาการแสบร้อนตรงหน้าอก จะมีก็แต่อาการท้องร้อง ไม่มีอาการปวดหัว แต่อาจจะเพราะอากาศเปลี่ยนบ่อย เมื่อเช้าเหมือนมีน้ำมูกไหลปนเลือดออกมานิดหน่อย

เขาบอกว่าไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อย แต่รู้สึกแรงไม่ค่อยมีมากกว่า ไม่มีแรงที่จะเดินไปมา ทำให้ต้องนั่งรถเข็น อยู่ที่นี่เขาก็ได้อ่านหนังสือและดูทีวี แต่ที่น่าตลกคือมีหนังสือให้อ่านเป็นคู่มือทำกับข้าว แล้วก็หนังสือประวัติของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ เขาก็แปลกใจว่าหนังสือมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไร ขนุนบอกว่าเขาอ่านวิธีการทำน้ำกีวี่ รู้สึกว่ามันทำยาก คิดว่าไปกินนอกบ้านดีกว่า แล้วเปิดไปเห็นพล่ากุ้ง ปกติที่บ้านไม่กินของสด แต่เขาแหกคอก ก็เลยกินหมด ขนุนเล่าพร้อมยิ้ม

ขนุนเล่าอีกว่าเมื่อวานนี้ มีนักโภชนาการและนักจิตวิทยามาพูดคุย ซึ่งพยายามถามว่าเขาอดอาหารทำไม และมีความเครียดไหม ซึ่งนักจิตวิทยาพยายามบอกว่าการอดอาหารไม่ดี เพราะเป็นการทำร้ายตัวเอง ซึ่งขนุนพยายามอธิบายว่า ว่าไม่ได้รับการประกันตัว แม้พยายามยื่นกว่า 14 ครั้ง และยังต่อสู้คดีอยู่ ไม่เหลือช่องทางให้เขาแสดงออกแล้ว

ขนุนบอกทิ้งท้ายอีกว่า วันนี้เขาไม่อยากออกแถลงการณ์ แต่อยากเล่าเรื่องการเรียน อาจจะเป็นเรื่องส่วนบุคคลหน่อย แต่ก็อยากแชร์ไว้

“ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งแรกที่ออกไปผมจะออกไปเรียน ไม่ธรรมศาสตร์ ก็จุฬา ด้วยหน่วยกิตที่ผมมีอยู่ คิดว่าจะเข้ามหาลัยไหนก็ได้ แต่ตอนนี้หน่วยกิตกำลังจะเสียไปผมทำเกรดค่อนข้างสวยคือ 3.68 มีห่วยแค่วิชาเดียวคือ วิชาสัมมนาการเมืองไทย เพราะตัด A ที่ 100 ผมได้ B มา คิดว่ายังไงต้องออกไปให้ได้ก่อนเดือน สองเดือนนี้ เพราะผมต้องไปเรียน ฝันที่หวังเอาไว้ก็อยากเป็นอาจารย์ให้ได้ก่อนอายุ 30 หรือเป็นนักวิจัย

“พื้นที่ความสนใจของผมเกี่ยวกับการศึกษามี 2 เรื่อง คือหนึ่ง กระบวนการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ในพม่า ประวัติศาสตร์การเมืองพม่า ทั้งก่อนและหลังยุคอาณานิคม สอง เป็นไอเดียที่ได้จากการเริ่มเรียน ป.โท คือได้อ่านงานของ Guy Standing เขาเป็นอาจารย์ที่ London University หัวข้อที่เขาศึกษา คือ “ชนชั้นเสี่ยง” เรารู้จักชนชั้นกลาง ชนชั้นสูง ชนชั้นแรงงาน แต่เคยคิดไหมว่ากำลังมีชนชั้นใหม่เกิดขึ้นในสังคม ชนชั้นที่กำลังถูกกดทับจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน และไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมาย

“ยกตัวอย่างง่ายสุด คือ แก๊ปฟู๊ด คนขับไรเดอร์ เขาไม่ได้มีรายได้ที่แน่นอน ไม่ได้ถูกรองรับโดยสวัสดิการของรัฐ หรือประกันสังคม หรือประกันอุบัติเหตุใด ๆ อาชีพค้าขายออนไลน์ วันหนึ่งคุณอาจจะมั่งมี วันหนึ่งอาจจะแสนยาก สำหรับผมมันน่าสนใจมากที่ต้องศึกษาเรื่องนี้

“ทั้งหมดทั้งมวลเป็นหัวข้อที่ผมสนใจ อนาคตแสนยาวไกลทางด้านการศึกษาและการตอบโจทย์ของคำถามและปัญหาของสังคม ผมเป็นคนหนึ่งที่มีเป้าหมายในชีวิตค่อนข้างแน่นอน พูดในนามปัจเจก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อายุเพิ่ง 24 แต่กลับถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม ผมก็หวังเพียงได้อิสรภาพ ได้เรียนหนังสือ ได้กลับบ้าน ได้อ่านหนังสือในชั้นที่บ้าน ทำอาหารให้ป๊ากับแม่กิน มีชีวิตเช่นคน ๆ หนึ่ง และผมอยากได้มันกลับคืนมา” ขนุนบอก

ทั้งนี้ ในวันที่ 4-5 และ 7 มี.ค. 2568 นี้ ขนุนมีกำหนดนัดสืบพยานในคดีชุมนุม  #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร้ายแรง ที่ศาลแขวงปทุมวัน ยังต้องติดตามว่าเขาจะถูกนำตัวไปศาลได้หรือไม่ อย่างไร

.

ย้อนอ่านข่าวและบทความ

“ขนุน สิรภพ” ประกาศเริ่มอดอาหารในเรือนจำ ประท้วงไม่ได้รับการประกันตัว 333 วัน

บทความจาก “ขนุน สิรภพ”: ย้อนทัศนาปรากฏการณ์อดอาหารและความรุนแรงจากรัฐ

X