นับเป็นปีที่ 6 ที่ “อัญชัญ” ผู้ต้องขังสูงวัยต้องฉลองวันเกิดในระหว่างถูกคุมขังจากการที่ศาลพิพากษาให้จำคุกคดีตามมาตรา 112 กรณีถูกกล่าวหาอัปโหลดคลิปของ “บรรพต” ที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองและระบอบกษัตริย์ เมื่อปี 2557-2558 เป็นจำนวน 29 ครั้ง รวมเป็น 29 กรรม เป็นโทษมากถึงจำคุก 87 ปี แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกราว 43 ปี 6 เดือน
ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. 2558 อัญชัญเคยถูกคุมขัง ระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดีที่ศาลทหารมาแล้ว 3 ปี 9 เดือน 9 วัน กระทั่งช่วงเดือน พ.ย. 2561 เธอได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท ทั้งต่อมาคดีถูกโอนย้ายจากศาลทหารมายังศาลอาญา
กระทั่งนัดสืบพยานเมื่อปลายปี 2563 เธอตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ ไม่กี่เดือนต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 2564 ศาลอาญาตัดสินลงโทษสูงเป็นประวัติการณ์ (ในขณะนั้น) อันเป็นเหตุให้เธอต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง หากรวมการเข้าเรือนจำทั้ง 2 ครั้ง ขณะตอนนี้อัญชัญใช้ชีวิตภายใต้การจองจำมาแล้ว 7 ปี เศษ
.
วันที่ 20 พ.ย. 2567 เป็นวันเกิดอายุครบ 69 ปี ของอัญชัญ
ทนายความเดินทางไปทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเข้าเยี่ยมอัญชัญ นอกจากการได้เข้าไปอวยพรวันเกิดแล้ว การพบกันครั้งนี้ทั้งอัญชัญและทนายยังคงไม่ทิ้งความหวังที่เธอจะได้ออกไปใช้ชีวิตอิสรภาพข้างนอก ยังมีการพูดถึงจดหมายจากเรือนจำที่ยังส่งไปไม่ถึงมือผู้รับ และการเกณฑ์การพักโทษที่ขณะนี้อัญชัญเข้าใจว่าเป็นเรื่องยาก และต้องทำใจในระหว่างที่สิ่ง ๆ นั้นยังมาไม่ถึง
_______________________
หลังยกหูโทรศัพท์ขึ้น ทนายพูดกับอัญชัญว่า “Happy Birthday นะคะ” อัญชัญยิ้มขอบใจที่มาเยี่ยมเธอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา อัญชัญให้ข้อมูลว่าเธอฉลองวันเกิดในเรือนจำตั้งแต่ปี 2564-2567 ไม่นับที่เคยติดคุกก่อนหน้านั้นอีก 3 ปี ที่ต้องฉลองวันเกิดในนี้ตลอด
“วันที่ 19 ม.ค. 2568 ก็จะครบ 4 ปีที่ป้าติดคุกรอบนี้แล้ว ย่าง 70 แล้ว (หัวเราะ) ยังไม่ได้ออกเลย” เธอกล่าวไว้อีกตอน
เมื่อถามถึงการฉลองวันเกิดปีนี้ เธอยิ้มพลันเล่าว่า มีเลี้ยงอาหารเพื่อน 5-6 คน โดยซื้อตำซั่ว ไก่ย่าง 2 ชิ้น เค้กมะพร้าว กินด้วยกันหน้าห้องน้ำ เธอหัวเราะ พลางบอกต่อว่าเพราะในเรือนจำไม่มีที่นั่งกินดี ๆ เลย
อัญชัญยังกล่าวถึงสภาพอาหารในเรือนจำอีกครั้ง ว่าค่อนข้างแพงและไม่คุ้มค่าราคา เธอเล่าว่าเคยมีคนซื้อข้าวไก่เทอริยากิให้กิน ได้น้อยมาก กับข้าวเดี๋ยวนี้ 60-70 บาท ได้แค่ก้นถุงนิดเดียว
ก่อนบทสนทนานำมาสู่คำถามที่ว่าขณะนี้ อยากพูดอะไรกับคนข้างนอกบ้าง เธอนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนบอกว่าผู้ต้องขังคดีการเมืองไม่ได้ไปฆ่าใครตาย และต่างรู้สึกว่าถูกกีดกันทุกอย่าง ถูกจับจ้อง คอยเฝ้าดู เหมือนผู้มีอำนาจกลัวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
“ป้าก็แก่มากแล้วจะทำอะไรได้ คนรุ่นใหม่ก็ต้องรับช่วงต่อ ถ้าได้ออกไปใช้ชีวิตมีอิสรภาพข้างนอกป้าจะคอยติดตามอยู่เบื้องหลัง ป้าอยากออกไปตายข้างนอกลูก”
จากนั้นอัญชัญพูดคุยถึงจดหมายเรื่องขอให้ช่วยดูเรื่องพักโทษที่ส่งออกมาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2567 ที่ควรจะถึงมือปลายทางตั้งนานแล้ว เธอตั้งคำถามว่าทำไมยังไม่ได้รับ ทั้งที่ไม่ได้เขียนอะไรสุ่มเสี่ยง อัญชัญอยากให้ช่วยติดตามสาเหตุว่าทำไมจดหมายถึงส่งออกไปไม่ถึง
บทสนทนาท้าย ๆ ทนายแจ้งว่าได้สอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำเรื่องเกณฑ์การพักโทษ ปรากฎว่าอัญชัญไม่เข้าเกณฑ์ไหนเลย เพราะพักโทษพักได้แค่ 2 ปี หมายความว่าจากโทษที่ได้รับ อัญชัญต้องติดคุกอย่างน้อยถึงปี 2572 จึงจะเข้าเกณฑ์นี้ แล้วอายุต้องมากกว่า 70 ปี และต้องเป็นโรคร้ายแรงที่ต้องรักษาทุกวัน เช่น ฟอกไต ซึ่งอัญชัญแม้จะเป็นผู้ต้องขังสูงวัย (69 ปี) แต่ก็ยังไม่เข้าเกณฑ์นี้
เมื่อบอกถึงตรงนี้ เธอถอนหายใจยาว ก่อนจบการสนทนาครั้งนี้ว่า “ป้ารู้แล้วลูก มีคนบอกรู้สึกว่ามันยาก ป้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน มันก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจ”
จนถึงปัจจุบัน (25 พ.ย. 2567) อัญชัญถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 3 ปี กับ 10 เดือน 9 วัน ก่อนหน้านั้นเธอถูกคุมขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดีมาแล้ว 3 ปี 9 เดือน 9 วัน หากนับจากโทษเต็มของเธอคือประมาณ 43 ปี 6 เดือน ซึ่งหลังการลดหย่อนโทษในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้อัญชัญมีกำหนดพ้นโทษในวันที่ 24 ก.ย. 2574 หรืออีกเกือบ 7 ปีข้างหน้า ถึงวันนั้นเธอจะอายุเกือบ 76 ปีแล้ว
.
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ครบ 3 ปี วันพิพากษาจำคุก ‘112’ อัญชัญ : ขอให้อดทนกันไว้ อยู่กับปัจจุบันให้ได้