เก็ท โสภณ:  นิรโทษกรรม ‘112’ ที่ยังอยู่ยาวไกล กับคดีตากใบก็จะหมดอายุความ

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ทนายความเข้าเยี่ยม  ‘เก็ท’ โสภณ นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ครั้งนี้เก็ทพูดคุยเรื่องนิรโทษกรรมที่ยังมีข้อถกเถียงถึงเงื่อนไขการจะรวมเอาคดีมาตรา 112 เข้ามาด้วยหรือไม่ หรือมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เขาดูแล้วหนทางนิรโทษกรรมกับมาตรา 112 ยังดูเป็นเรื่องยาวไกล   ทั้งนี้ในวันที่ 24 ต.ค. 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดหารือร่วมกันในเรื่อง รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกครั้ง

อีกประเด็นท่ามกลางกระแสต่อต้านวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดของคดีสลายชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิาวาส จนมีผู้เสียชีวิตรวม 85 ศพ เมื่อปี 2547  การเข้าเยี่ยมครั้งนี้เก็ทยังพูดถึงการที่เจ้าหน้าที่รัฐสมควรเอาผู้กระทำผิดทั้ง 14 ราย มาเข้ากระบวนการพิจารณาคดีก่อนจะสิ้นอายุความ ในวันที่ 25 ต.ค. 2567 อีกด้วย

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เก็ทเริ่มบทสนทนาว่า ได้ดูเรื่องนิรโทษกรรมและอ่านสรุปของคณะกรรมมาธิการศึกษาการนิรโทษกรรม ข้อเสนอแนะหนึ่งที่เขาไม่เห็นด้วยคือ การให้ผู้ต้องหาสารภาพว่ามีความผิดในมาตรา 112 เพื่อให้ได้รับการนิรโทษกรรม  เก็ทมองว่ามันย้อนแย้งกันในตัว  เขาให้ความเห็นว่าหากมีนิรโทษกรรมแล้ว ผู้นั้นสมควรจะไม่มีความผิดติดตัวอีกต่อไป แต่ในระหว่างกระบวนการนิรโทษกรรมกลับมีส่วนหนึ่งเสนอให้ผู้ต้องหาต้องรับสารภาพว่าตนเองมีความผิดในมาตรา 112 แล้วปลายทางมันจะขัดกันไปหมด 

เก็ทมองเรื่องนี้ว่าผู้เสนอแนวทางนี้หวังผลไกลกว่าการนิรโทษกรรม ต้องการสร้างบรรทัดฐานใหม่ว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้นเป็นสิ่งผิดและห้ามใครกระทำอีก  เก็ทฝากถึงคนในสภาลองคิดแบบใจกว้างดูกว่านี้ 

เก็ทตั้งคำถามถึงการนิรโทษกรรมกับมาตรา 112 อีกว่า หากไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ พฤติการณ์เช่นนี้ถือว่ารุนแรงหรือไม่ และอีกอย่างที่ยังรู้สึกกังขา คือระหว่างที่รัฐสภาเสนออภิปรายอย่างดุเดือดว่ามาตรา 112 ควรได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ หรือนิรโทษกรรมจะผ่านไหม เขาคิดว่ากระบวนการพวกนี้ต่อจากนี้ ควรได้รับฟังความคิดเห็นของผู้ต้องหา หรือผู้ต้องขังมาตรา 112 ประกอบด้วย เพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป

ก่อนถึงบทสนทนาท้าย ๆ เก็ทกล่าวถึงกรณีตากใบ ที่กำลังจะหมดอายุความลงไปในไม่กี่วันนี้  เขาหวังอยากให้ตำรวจเร่งทำงานเอาคนผิดมาลงโทษเหมือนกับที่ทำคดี “ดิ ไอคอน” เก็ทเห็นว่าตอนนี้หากเจ้าหน้าที่รัฐจะแก้ไข ก็ยังทำได้ แต่รัฐบาลต้องให้สนใจจริงจัง ไม่เล็งแต่จะปล่อยผ่านไปเฉย ๆ   

เก็ทย้ำความเห็นเรื่องนี้ว่าก่อนหน้านี้หากจะจับกุมผู้กระทำผิดก็คงทำได้ตั้งนานแล้ว แล้วอย่างนี้จะให้ประชาชนไว้ใจรัฐบาลนี้ได้อย่างไร

ปัจจุบัน (24 ต.ค. 2567) เป็นระยะเวลา 1 ปี กับอีก 2 เดือน 1 วัน แล้วที่ “เก็ท โสภณ” ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากกรณีปราศรัยในการชุมนุม #ทัวร์มูล่าผัว ต่อมาเก็ทยังถูกศาลอาญาธนบุรีพิพากษาลงโทษจำคุกอีก 3 ปี ในคดีปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ทำให้รวมโทษจำคุกของเขาอยู่ที่ 6 ปี 6 เดือน  

ทั้งนี้เก็ทกำลังรอคอยฟังพิพากษาคดีมาตรา 112 ในอีก 1 คดี ได้แก่ คดีปราศรัยเนื่องในวันแรงงานสากล เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565 ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาวันที่ 29 ต.ค. 2567 นี้

X