วันที่ 31 ก.ค. 2567 เวลา 09.30 น. ศาลแขวงปทุมวันนัดฟังคำพิพากษาคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของประชาชน – นักกิจกรรม 5 ราย กรณีการชุมนุมที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 เรียกร้องให้ #ปล่อยเพื่อนเรา “การ์ดปลดแอก” 2 ราย ที่ถูกจับกุมระหว่างการจัดกิจกรรม “เขียนป้ายผ้า 112 เมตร”
ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับคนละ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับคนละ 2,500 บาท
.
ก่อนเกิดคดีนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 เวลาประมาณ 12.30 น. ตำรวจ สน.พญาไท และตำรวจควบคุมฝูงชนได้จับกุมการ์ดปลดแอก จำนวน 2 คน ที่ทำกิจกรรมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล “เขียนป้ายผ้า 112 เมตร” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 14.56 น. จึงมีการนัดหมายทำกิจกรรมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม บริเวณหน้าศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ แต่ต้องเผชิญกับการสลายการชุมนุม โดยมีประชาชนถูกจับกุม 4 ราย ได้แก่ สถาพร (สงวนนามสกุล), อภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล), กฤษณา (สงวนนามสกุล), จารุณี (สงวนนามสกุล) ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกําหนดออกตามความ ในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34(6)
ภายหลังกิจกรรม พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยังออกหมายเรียกนักกิจกรรมและประชาชนอีก 3 ราย ได้แก่ “จัสติน” ชูเกียรติ แสงวงค์, “ลุงศักดิ์” วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล และ “เจมส์” ศักดิ์สิทธิ์ เผือกผ่องศรี เข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหาดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 11 ต.ค. 2566 นรภัทร นาควิจิตร พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 ได้ยื่นฟ้องประชาชนทั้ง 7 ราย ต่อศาลแขวงปทุมวัน พนักงานอัยการบรรยายฟ้องโดยสรุปว่า จำเลยทั้งเจ็ดและพวกได้ร่วมกันชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก ประมาณ 300 คน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับ
จำเลยทั้งเจ็ดกับพวกได้รวมกลุ่มด้วยการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ และยืนรวมกลุ่มกันจำนวนมากปิดถนนพญาไท บริเวณปากซอยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 42 (หน้าคณะนิติศาสตร์) ซึ่งเป็นทางสาธารณะ จนประชาชนไม่สามารถใช้เส้นทางจราจรได้ตามปกติ อันเป็นการชุมนุม ทำกิจกรรม ที่มีความแออัด
ชั้นสอบสวนและชั้นศาลทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้เดิมมีนัดสืบพยานในระหว่างวันที่ 4 – 7 มี.ค. และ 4 – 5 มิ.ย. 2567 อย่างไรก็ตาม ในวันสืบพยานวันแรก สถาพร, อภิสิทธิ์, จารุณี, วีรวิชญ์ และศักดิ์สิทธิ์ จำเลยที่ 1, 2, 4 , 6 และ 7 ตามลำดับ ตัดสินใจขอถอนคำให้การเดิมที่ให้ปฏิเสธเป็นรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลจึงนัดพิพากษาจำเลยทั้ง 5 คนในวันนี้ (31 ก.ค. 2567)
เวลา 09.52 น. ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีและอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้
เห็นว่า จำเลยที่ 1, 2, 4, 6 และ 7 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามฟ้องของโจทก์ พิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับคนละ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับคนละ 2,500 บาท
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ได้แก่ สุรวุฒิ อนุกูลกิจ
ทั้งนี้ ในส่วนของกฤษณา จำเลยที่ 3 ซึ่งยืนยันให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และชูเกียรติ จำเลยที่ 5 ซึ่งศาลออกหมายจับ เนื่องจากไม่ได้เดินทางมาตามนัดศาล และยังจับตัวมาไม่ได้ ก่อนหน้านี้ ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีในส่วนนี้ออกจากสารบบความ และให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ โดยอัยการได้ยื่นฟ้องแล้วเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 และศาลจะดำเนินการนัดหมายสืบพยานต่อไป