เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “นารา” หรือ อนิวัต ประทุมถิ่น อีกครั้ง และรับได้แจ้งว่าจนถึงปัจจุบันเธอและเพื่อนผู้ต้องขังหญิงข้ามเพศคนอื่น ๆ ในสถานที่คุมขังแห่งนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ให้สวมใส่ ‘เสื้อชั้นใน’ แม้ว่าจะมีหน้าอกแล้วก็ตาม
ย้อนกลับไปในช่วงเดือนกันยายน ปี 2566 นาราได้สะท้อนปัญหาความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของ LGBTQIAN+ ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หนึ่งในหลายปัญหาที่นาราพบเจอ นั่นคือ การที่หญิงข้ามเพศซึ่งมีหน้าอกแล้วถูก ‘สั่งห้าม’ ไม่ให้ใส่เสื้อชั้นใน
เสื้อชั้นในจึงกลายเป็น ‘ของต้องห้าม’ ในเรือนจำไปโดยปริยาย
ภายหลังจากปัญหานี้ถูกเผยแพร่สาธารณะออกไปในครั้งนั้น ในเวลาต่อมาประมาณ 1-2 เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2566 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เริ่มผ่อนปรนกฎเกณฑ์บางอย่างเพื่อให้ ผู้ต้องขัง LGBTQIAN+ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสอดคล้องกับเพศวิถี อาทิ เปิดให้เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาขอเทคฮอร์โมนเพศหญิงได้ อนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าตามเพศสภาพได้ในวันเสาร์และอาทิตย์ รวมถึงนาราและเพื่อนได้รับการจัดหาเสื้อชั้นในมาให้ใส่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการเข้าเยี่ยมของทนายความเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา นาราเพิ่งให้ข้อมูลอีกครั้งว่า การที่เธอได้มีเสื้อชั้นในใส่ตอนนั้นเป็นเพราะมีผู้ต้องขังอื่นในเรือนจำนำมาให้ ซึ่งเป็นหนึ่งในของใช้ที่ติดตัวจากการเข้าเรือนจำวันแรก ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำเป็นผู้จัดหามาให้เธอและผู้ต้องขังหญิงข้ามเพศคนอื่น ๆ แต่อย่างใด
นาราย้ำอีกว่าจนถึงตอนนี้นั้น เรือนจำยังคงไม่อนุญาตให้เธอและเพื่อน ๆ ได้สวมใส่เสื้อชั้นใน แม้ว่าจะศัลยกรรมแปลงหน้าอกมาแล้วก็ตาม
ในการสนทนาระหว่างนารากับทนายความที่เข้าเยี่ยม หลังนาราได้เล่าถึงปัญหาการไม่มีเสื้อชั้นในใส่ ช่วงหนึ่งเธอซึ่งได้นั่งไหล่ห่อมาตั้งแต่ต้นได้พยายามยืดหลังตรงขึ้น ทำให้หน้าอกแอ่นอยู่ในระดับปกติ เผยให้เห็นลักษณะหน้าอกของเธอไม่มีเสื้อชั้นในใส่ปิดทับอยู่
“นมหนูมันเป็นซิลิโคนมันก็เป็นทรงชัดอ่ะแม่ หนูรู้สึกกังวล” นารากล่าว
ผลกระทบจากระเบียบห้ามไม่ให้ใส่เสื้อชั้นในมีอะไรบ้าง?
- สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนพยายามห่อไหล่เพื่อไม่ให้เห็นหัวนม
- เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและละเมิดทางเพศ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย
- ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะเสื้อชั้นในสามารถพยุงรองรับหน้าอกตามสรีระ เพิ่มความกระชับให้หน้าอกไม่เคลื่อนที่ และช่วยคงรูปสวย การไม่สวมใส่เสื้อชั้นในเป็นระยะเวลานานโดยเฉพาะกับผู้ผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจทำให้มีปัญหาต่อสรีระได้ ไม่ว่าเป็นอาการปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความไม่คล่องตัวเวลาออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมโลดโผน เป็นต้น
นี่เป็นเพียงหนึ่งปัญหา ‘ความทุกข์ทน’ ของผู้ต้องขัง LGBTQIAN+ เรือนจำไทยยังต้องปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกหลายอย่างให้บรรทัดฐานเดียวทั่วทั้งประเทศ เช่น การสั่งให้หญิงข้ามเพศถอดเสื้อเปลือยกายต่อหน้าผู้ต้องขังอื่นจำนวนมากระหว่างการสุ่มตรวจเรือนจำประจำปี การไม่อนุญาตให้เทคฮอร์โมนเพศหญิง การถูกตัดผมจนสั้นเกรียน เป็นต้น