วันธรรมดาของประชาชนสองคนที่ต้องเดินทางมาศาลแขวงสุรินทร์

ปลายสายรุ้ง 

                                                             Day Breaker Network

นี่คือการเดินทางไปสังเกตการณ์คดีในชั้นศาลครั้งที่ 2 ในชีวิตของเด็กนิเทศศาสตร์อย่างเรา และเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดสุรินทร์ด้วย ก่อนออกเดินทางเราได้มีการอ่านข้อมูลคดีย้อนหลัง วางแผนการเดินทาง และจองที่พัก 

ในที่สุดก็ถึงวันจันทร์ที่ 22 เม.ย. 2567 เวลาประมาณเกือบเที่ยงวัน เราและเพื่อนอีก 1 คนออกเดินทางจาก จ.มหาสารคาม โดยอาศัยรถบัสเพื่อไป จ.สุรินทร์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าด้วยกัน จากนั้นเมื่อรถบัสจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.สุรินทร์ เราก็ต้องเดินทางอีกต่อหนึ่งเพื่อไปยังที่พักที่จองไว้

เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณ 9 โมงเช้าของวันอังคารที่ 23 เม.ย. 2567 เราเดินทางมาถึงยังด้านหน้าศาลแขวงสุรินทร์ ทว่ากระดานแสดงนัดหมายคดีประจำวันที่หน้าศาลไม่ปรากฏข้อมูลของคดีคาร์ม็อบสุรินทร์ที่เราตั้งใจจะมาสังเกตการณ์คดี 

เราได้สอบถามเจ้าหน้าที่ศาลบริเวณนั้นอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ยันยืนว่า “วันนี้ไม่มีคดีคาร์ม็อบที่ศาลแขวงสุรินทร์” ทั้งยังแนะนำให้พวกเราเดินทางไปที่ศาลแห่งอื่นแทนด้วย แต่เรากับเพื่อนยังไม่ยอมแพ้ เราตัดสินใจเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของศาลเป็นคนที่สอง แต่เจ้าหน้าก็ยังยืนยันอีกเสียงว่าวันนี้ไม่มีคดีคาร์ม็อบที่มีประชาชน 2 คนเป็นจำเลย

เพื่อนที่ไปด้วยกันจึงได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนคนหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น พวกเราโชคดีได้เจอกับจำเลยทั้งสองคนในคดีคาร์ม็อบที่เราตั้งใจมาสังเกตการณ์คดีวันนี้ เราจึงเดินตามพวกเขาไปจนถึงห้องพิจารณาคดี 

ทางเดินระหว่างไปห้องพิจารณาคดีจะต้องขึ้นบันไดจากชั้น 1 ไปชั้น 2 เราสังเกตว่าบันไดมีลักษณะสูงชัน ขั้นบันได้มีขนาดเล็ก และมีพื้นที่คับแคบ ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุอย่างยิ่ง จนเมื่อเดินไปถึงหน้าห้องพิจารณาคดี เราเห็นอีกว่าป้ายกระดานหน้าห้องมีการติดป้ายประกาศแสดงข้อมูลของคดีคาร์ม็อบสุรินทร์ไว้อย่างครบถ้วนอีกด้วย

วันธรรมดาของจำเลยทั้งสองคนที่ปกติจะต้องไปทำงานหาเงิน แต่เมื่อมีนัดหมายคดีกลับต้องเดินทางมาศาลบ่อยครั้ง โดยก่อนเดินเข้าห้องพิจารณาคดีเรากับเพื่อนได้พูดคุยกับจำเลยทั้งสองคนสั้น ๆ ด้วยถึงโทษปรับของศาลชั้นต้นที่สูงเกินไป ทั้งที่พวกเขาเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่งที่ได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเท่านั้น แต่กลับต้องกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทางการเมืองและสูญเสียโอกาสในชีวิตหลายอย่าง

ในห้องพิจารณาคดี เราสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างที่นั่งของผู้พิพากษาและจำเลยอย่างชัดเจน เก้าอี้ผู้พิพากษาถูกสร้างไว้เป็นทรงสูง มีพนักพิงที่นั่งสบาย ส่วนของจำเลยเป็นเก้าอี้ไม้แบบธรรมดาและมีความเก่า

เวลา 10.00 น. ผู้พิพากษาได้เข้ามาถึงห้องพิจารณาคดี จากนั้นได้พิจารณาและพิพากษาคดีอื่นในห้องก่อนเป็นรายคดีไป กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบราว 1 ชั่วโมง ผู้พิพากษาเรียกให้จำเลยทั้งสองคนในคดีคาร์ม็อบได้แสดงตัว 

จากนั้นศาลพิพากษาได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ทันที โดยได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดร่วมกัน ในฐานเป็น ‘ผู้จัดงาน’ คาร์ม็อบสุรินทร์ มีทั้งพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายในการร่วมทำกิจกรรม มีการปราศรัยบนท้ายรถกระบะ ใช้เฟซบุ๊กในการเชิญชวนให้คนมาร่วมทำกิจกรรม เปิดรับเงินบริจาคเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรม การถ่ายทอดสดในระหว่างการทำกิจกรรม นำไปสู่ข้อหาการฝ่าฝืนข้อกำหนดประกาศคำสั่งที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกิจกรรมคาร์ม็อบสุรินทร์ สาปแช่งรัฐบาล ขับไล่ประยุทธ์ 

ศาลยืนยันปรับคนละ 30,000 บาท โดยจำเลยที่ 2 ได้ลดโทษเหลือปรับ 20,000 บาท ตามศาลชั้นต้น

หลังศาลอ่านคำพิพากษา คุณวิสณุพร สมนาม ซึ่งได้ดำเนินการชำระค่าปรับทั้งหมดจนครบไปก่อหน้านี้แล้วจึงไม่ได้ถูกควบคุมตัว เหลือแต่คุณนิรันดร์ ลวดเงิน ที่ยังค้างชำระค่าปรับอีก 12,000 บาท โดยวันนี้ได้นำเงินมาชำระเพิ่มเติมอีก 5,000 บาท จึงได้ขออนุญาตศาลขยายเวลาการชำระค่าปรับที่เหลืออีก 7,000 บาท ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องและให้สาบานว่าจะมาชำระค่าปรับภายใน 30 วัน 

หลังจากกลับจากศาลไปที่พัก เราได้วางแผนพักค้างที่ จ.สุรินทร์อีก 1 คืน เนื่องจากวันนี้ไม่มีรอบรถบัสกลับมหาสารคามแล้ว จากนั้นเช้าวันรุ่งนี้ในวันพุธที่ 24 เม.ย. 2567 เราจึงเดินทางกลับ โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าเหมือนกับตอนที่เดินทางขามา

บทความชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค Day Breaker Network ซึ่งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ร่วมมือเพื่อสร้างพื้นที่ของคนที่สนใจการเริ่มต้นเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) ผ่าน #หลักสูตรการสังเกตการณ์คดี (Trial Observation) ตลอดเดือนเมษายน พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา เพื่อยืนหยัดความถูกต้องและตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมไปพร้อม ๆ กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง และเสริมสร้างประสบการณ์เขียนบันทึกเรื่องราวจากเหตุการณ์ละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมไทย

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ปรับ 2 นักกิจกรรมคนละ 30,000 คดี ‘คาร์ม็อบสุรินทร์ 15 ส.ค. 64’ ชี้ โพสต์ชักชวน- ปราศรัยชี้นำขบวน ถือเป็นผู้จัดชุมนุม

X