“บุ้ง” เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวคดี ม.112
ขณะยังมีผู้ต้องขังการเมืองอีก 43 คน เป็น ม.112 ถึง 25 คน
ผู้ต้องขังระหว่างสู้คดี 27 คน ยังรอคอยสิทธิประกันตัว
14 พ.ค. 2567 ในเรือนจำทั่วประเทศยังคงมีผู้ถูกคุมขังในคดีการเมือง อย่างน้อย 43 คน เป็นตัวเลขที่ยังคงมากทำลายสถิติอย่างน้อยในรอบ 4 ปีต่อไป ในจำนวนผู้ต้องขังการเมือง 43 คนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง คือ 25 คน โดยทั้งปี 2567 นี้ยังไม่มีผู้ต้องขังได้รับอนุญาตให้ประกันตัวจากศาลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แล้ว (ยกเว้นกรณีที่ถูกคุมขังที่เรือนจำเพื่อรอฟังคำสั่งประกันครั้งแรก)
โดยล่าสุดผู้ต้องขังคดีการเมืองในคดีมาตรา 112 อย่าง #บุ้งทะลุวัง ซึ่งถูกพรากอิสรภาพไปนานถึง 110 วัน ปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว ภายหลังอดอาหารประท้วงเป็นระยะเวลาหนึ่งมาตั้งแต่ 27 ม.ค. 2567 พร้อมกับ 2 ข้อเรียกร้องที่ดูเหมือนว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า ได้แก่ ข้อที่ 1 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และข้อที่ 2 ต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก
ขณะที่ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ที่อยู่ในเรือนจำขณะนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ชีวิตที่ยากลำบากจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย บางรายยังคงทุกข์ทนกับโรคประจำตัวและความเจ็บป่วย อีกทั้งยังมีผู้ต้องขังการเมืองอีกจำนวนหนึ่งต้องเผชิญกับความรู้สึกไม่ปลอดภัยจากการถูกข่มขู่ คุกคามจากผู้ต้องขังร่วมเรือนจำ เพียงเพราะแสดงออกทางการเมืองในเรือนจำ
ผู้ต้องขังการเมือง อย่างน้อย 43 คน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
การถูกคุมขังระหว่างสู้คดี 27 คน
คดีมาตรา 112 จำนวน 18 คน
คดีมาตรา 116 จำนวน 2 คน
คดีอื่น ๆ จำนวน 7 คน
ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ถูกคุมขังระหว่างสู้คดีเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ได้แก่ “พรชัย วิมลศุภวงศ์” ที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ ในคดีมาตรา 112 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 4 ข้อความ เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2567 หลังศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุก 12 ปี และศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา
ส่วนกรณีของ ภัทรชัย (นามสมมติ) ซึ่งเคยถูกควบคุมตัวอยู่ในคดีมาตรา 112 ที่บ้านเมตตา ได้ถูกควบคุมตัวจนครบโทษแล้วเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากบ้านเมตตา เนื่องจากยังมีคดีส่วนตัวอีก 1 คดี ทำให้ภัทรชัยจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 24 พย. 2567
และล่าสุดจำนวนผู้ต้องขังระหว่างสู้คดีได้ปรับลดลงอีก จากกรณีที่ “บุ้ง” เนติพร หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 ระหว่างถูกควบคุมตัวในคดีมาตรา 112 อยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ เบื้องต้นทราบว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้นแพทย์จะชันสูตรพลิกศพต่อไปภายในวันที่ 15 พ.ค. นี้
การถูกคุมขังในคดีสิ้นสุดแล้ว 16 คน
คดีมาตรา 112 จำนวน 7 คน
คดีสหพันธรัฐไท (ข้อหาเป็นอั้งยี่) จำนวน 2 คน
คดีอื่น ๆ จำนวน 7 คน
เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ในวันที่ 9 เม.ย. มีผู้ถูกคุมขังในคดีสิ้นสุดได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ 1 คน ได้แก่ “ปริทัศน์” (นามสมมติ) วัย 33 ปี เนื่องจากถูกคุมขังตั้งแต่ 12 ต.ค. 2565 จนครบกำหนดโทษตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ในคดีมาตรา 112 เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนแล้ว
ส่วนเดือน พ.ค. นี้ ไม่พบว่ามีผู้ต้องขังทางการเมืองที่คดีถึงที่สุดคนใดมีกำหนดปล่อยตัวอีก แต่ในเดือน มิ.ย. ที่จะถึงนี้ มีผู้ต้องขังที่มีกำหนดปล่อยตัวหลังถูกขังครบโทษ 1 คน นั่นคือ “โย่ง” (สงวนชื่อสกุล) วัย 51 ปี เขาถูกคุมขังจากคดีมาตรา 112 มาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ด้วยคำพิพากษาจำคุก 6 ปี ของศาลชั้นต้น จากเหตุคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กที่มีภาพสมาชิกราชวงศ์
ลุงโย่งนับเป็นผู้ต้องขังการเมืองคดีถึงที่สุดชุดปัจจุบันที่ถูกคุมขัง ‘นานที่สุด’ เป็นอันดับที่ 2 ด้วยระยะเวลากว่า 1,260 วัน หรือเกือบ 3 ปีครึ่ง เป็นรองให้เพียง ‘ป้าอัญชัญ’ ที่จะพ้นโทษในปี 2574 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า
สถานการณ์น่าจับตาของผู้ต้องขังคดีการเมือง
ผู้ต้องขังแดน 6 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รู้สึกไม่ปลอดภัยจากการถูกข่มขู่ – คุกคาม
ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองที่แดน 6 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งมีอย่างน้อย 5 คน ได้แก่ “ก้อง” อุกฤษฏ์, “มาย” ชัยพร, “บุ๊ค” ธนายุทธ, จิรวัฒน์ และ “ขนุน” สิรภพ กำลังเผชิญกับความรู้สึกไม่ปลอดภัย ภายหลังจากถูกข่มขู่และคุกคามจากผู้ต้องขังร่วมแดน เนื่องจากการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชู 3 นิ้ว ขณะเรือนจำเปิดเพลงชาติ
แม้ทั้ง 5 คน จะร้องเรียนต่อเรือนจำแล้วว่า ขอให้ย้ายกลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุข่มขู่และคุกคาม ทว่าเรือนจำยังไม่มีการตอบรับหรือมีมาตรการความปลอดภัยให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองแต่อย่างใด
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ทนายความได้ยื่นหนังสือต่อเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อร้องขอให้ย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองทั้ง 5 คน ไปยังแดนอื่น เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน (14 พ.ค.) เรือนจำยังไม่มีการตอบกลับว่าจะมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่ อย่างไร
ความเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในเรือนจำ
2.1 การระบาดของโควิดที่เชียงใหม่
ที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง “พรชัย” ถูกคุมขังอยู่ในตอนนี้กำลังเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 มีผู้ต้องขังติดเชื้อหลายคน พรชัยเองก็มีอาการไอ แต่ไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือยัง
ก่อนหน้านี้ในการถูกคุมขังครั้งแรกเมื่อช่วงปี 2564 พรชัยก็ติดโควิดจากเรือนจำเชียงใหม่แห่งนี้ โดยเป็นการพบว่าติดเชื้อหลังได้รับการประกันตัวไม่กี่วัน ทำให้ต้องทำการกักตัวในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงดังกล่าว ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ได้
เช่นเดียวกับที่บ้านเมตตา ภูมิซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั่นเล่าว่า ที่บ้านเมตตามีผู้ติดเชื้อโควิด แต่ไม่ทราบจำนวนว่ามากน้อยแค่ไหน ทำให้ภูมิยังคงต้องเฝ้าระวังและถูกกักกันโรคพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ ในบ้านเมตตา
2.2 ภูมิยังไม่ได้ผ่าตัดหัวไหล่ แม้ผ่านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
“ภูมิ” นักกิจกรรมวัย 20 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในคดีมาตรา 112 ที่บ้านเมตตา ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บจนหัวไหล่ด้านขวา ‘หลุด’ มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ทว่าภูมิยังคงไม่ได้รับการผ่าตัดรักษาหัวไหล่ เนื่องด้วยคิวผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เต็ม และไม่มีห้องผ่าตัดว่างสำหรับภูมิเลย
อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แจ้งว่าจะต้องรีบผ่าตัดให้เร็วที่สุด แพทย์จึงได้ทำบันทึกไปถึงโรงพยาบาลสิรินธรซึ่งเป็นโรงพยาบาลต้นสังกัด เพื่อให้จัดเตรียมห้องผ่าตัด โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาฯ จะไปทำการผ่าตัดให้ภูมิที่นั่น
2.3 กัลยา ‘วูบ’ ขณะอาบน้ำ
กัลยา ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งป่วยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันมาตั้งแต่ก่อนถูกคุมขังนั้น ปัจจุบันยังคงติดตาม เฝ้าระวัง และเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นระยะ ๆ ครั้งล่าสุด เธอมีปัญหาบริเวณเส้นหลอดเลือดที่ขา แต่หมอที่โรงพยาบาลนราธิวาสแจ้งให้ทราบเพียงผลเลือด ซึ่งกัลยามีค่าเลือดปกติทุกอย่าง แต่เธอไม่ได้ทำ TC แสกน หรืออัลตร้าซาวด์อย่างที่คิด
อีกทั้ง จากอาการร้อนในช่วงนี้ทำให้กัลยามีอาการปวดหัว ปวดตา โดยก่อนหน้านี้เธอมีอาการความดันสูง ขณะอาบน้ำเกิดอาการวูบ แต่โชคดีมีเพื่อนอยู่ด้วยช่วยกันประคอง และเมื่อได้พักประมาณ 10 นาที อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ