‘วารุณี’ เขียนแถลงการณ์แจงเหตุผล ยุติอดอาหารประท้วง รวม 46 วัน เหตุศาลไม่ให้ประกัน – สุขภาพถดถอย

ระหว่างวันที่ 6 – 12 ต.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อเข้าเยี่ยม “น้ำ” วารุณี (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังระหว่างต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ ในคดีมาตรา 112 ซึ่งถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2566 โดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว

คดีนี้ ศาลอาญาพิพากษาว่าการโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัขนั้น เป็นความผิดตามฟ้องในข้อหามาตรา 112 และข้อหาเหยียดหยามศาสนาฯ พิพากษาจำคุก 3 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน เพราะให้การรับสารภาพ โดยไม่รอลงอาญา จากนั้นศาลไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา

ก่อนหน้าวารุณีจะอดอาหารประท้วงนั้น ทนายความได้ยื่นประกันตัววารุณีถึง 4 ครั้ง พร้อมกับอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวอีก 1 ครั้ง แต่ศาลยังยืนยันไม่ให้ประกันตัว โดยอ้างเหตุเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จากนั้นในวันที่ 21 ส.ค. 2566 วารุณีจึงตัดสินใจ ‘อดอาหารประท้วง’ เพื่อทวงสิทธิประกันตัว จากนั้นเพียง 2 วันถัดมา ในวันที่ 23 ส.ค. วารุณียกระดับการประท้วง ‘จำกัดการดื่มน้ำ’ ร่วมด้วย

การประท้วงทำให้วารุณีได้รับผลข้างเคียงหลายประการ ความรุนแรงมีแนวโน้มมากขึ้นตามระยะเวลา เช่น อาการปวดท้อง ริมฝีปากแห้ง เวียนศีรษะ ปัสสาวะสีเข้ม รู้สึกเหนื่อย รู้สึกกระหายน้ำมาก รู้สึกหิวกระหายอาหารมาก ร่างกายซูบผอม มีภาวะขาดสารอาหารและวิตามิน ชีพจรเต้นเร็วกว่าปกติ ร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ และมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เป็นต้น


ระหว่างการอดอาหารและจำกัดการดื่มน้ำประท้วง วารุณีเผชิญผลข้างเคียงที่รุนแรงจนถูกส่งตัวอยู่ใต้การดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์นาน 1 สัปดาห์ (30 ส.ค. – 5 ก.ย. 2566) ก่อนถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นเวลา 8 วัน (5 ก.ย. – 12 ก.ย. 2566) จากนั้นจึงถูกส่งตัวกลับมาอยู่ยัง รพ.ราชทัณฑ์ ดังเดิมตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. จนถึงปัจจุบัน

แม้วารุณีจะอดอาหารและจำกัดการดื่มน้ำมานานเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ศาลก็ยังยืนยันคำสั่งไม่ให้ประกันตัว

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 46 ของวารุณี เธอตัดสินใจยุติการประท้วงลงและจะกลับมารับประทานอาหารเพื่อฟื้นฟูร่างกายต่อไปตามลำดับ โดยมีเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะสภาพร่างกายที่ถดถอยไปทุกวัน ประกอบกับยังคงมีผู้ถูกดำเนินคดีการเมืองต้องถูกคุมขังในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 2566 เป็นต้นมา ศาลไม่มีคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองแม้แต่คนเดียว

วารุณีได้เขียนถ้อยคำอธิบายถึงเหตุผลในการตัดสินใจยุติการอาหารและจำกัดการดื่มน้ำประท้วงไว้ผ่านแถลงการณ์ของเธอ และส่งมอบให้กับทนายความให้นำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

12 ตุลาคม 2566

วารุณีมีท่าทีเข้มแข็งกว่าทุกวัน เธอนั่งรอเราอยู่ในห้องเข้าพบทนายความพร้อมกับกระดาษแถลงการณ์ที่เขียนและพับไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ซ่อนไว้ใต้เสื้อ เมื่อเรานั่งลงเธอจึงคลี่กระดาษออกอ่านให้เราฟัง มันเป็นกระดาษที่ฉีกมาจากสมุดจำนวน 2 แผ่น ถูกเขียนตัวอักษรเรียงกันอยู่เต็มหน้า เป็นแถลงการณ์เหตุผลของการตัดสินใจยุติการอดอาหารประท้วงเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา  


แถลงการณ์จากวารุณี


หลังจากอดอาหารมาระยะหนึ่ง แต่ศาลก็ยังคงยืนยันคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ตลอดการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำให้เราได้เห็นผู้ต้องขังหลายคนเสียชีวิตในขณะที่ยังเป็น ‘นักโทษ’ อยู่ แม้แต่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตพวกเขาก็ยังคงไร้ซึ่งอิสรภาพ

การได้เห็นญาติของคนที่จากไปร้องไห้เสียใจจนใจแทบขาด ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าเราตายไปตอนนี้จะเท่ากับว่าเราลาจากครอบครัวและคนที่เรารักไปตลอดกาล สิ่งที่ได้กลับมาคงจะมีแต่ความโศกเศร้าของคนที่รักเรา เราคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นประชาธิปไตยเต็มใบ คงหมดโอกาสได้เห็นประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

เพื่อน ๆ ผู้ต้องขังทางการเมืองหลายคนให้กำลังใจและบอกกับเราว่าไม่ควรเอาชีวิตมาแลกกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำแบบนี้

เราเคยบอกว่าคงทนถูกกระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่วันนี้เราพอจะคาดเดาได้ว่า ต่อให้เรายื่นประกันไปอีกสักกี่ร้อยครั้ง คนที่เขาไม่คิดจะปรานีเรา เขาก็ไม่หยุดที่จะทำร้ายเราอยู่ดี ตอนนี้เราอยู่ในเกมที่คนคุมเกมมีสิทธิเหนือเราทุกอย่าง ต่อให้เราสู้ด้วยวิธีไหน มันก็ยากมากที่จะชนะ หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะชนะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่มีทางออกเลยซะทีเดียว 

เราคิดว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดตอนนี้ คือ ‘ต้องเข้มแข็งและอดทน’ อยู่ในคุกให้มีความสุขที่สุด สิ่งเดียวที่ศาลอยากได้จากเรา คือ ‘ความทุกข์ทรมาน’ ใช่ ในเดือนแรก ๆ เราทุกข์มาก แต่นี่เดือนที่ 3 ได้ผ่านไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งทรมานอีกแล้ว เราจะอยู่ให้มีความสุข กินให้อิ่ม นอนให้หลับ รักษาตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อที่ในวันที่เราได้ออกไปกอดคนที่เรารัก จะได้กอดได้ครบทุกคน

เราขอตัดสินใจอีกครั้ง ขอแจ้งยุติการอดอาหารและจำกัดการดื่มน้ำประท้วง นับตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. เป็นต้นไป เราขอยืนยันว่าไม่ได้ละทิ้งอุดมการณ์หรือจุดยืนที่เคยมี เพียงแต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนไปเล่นเกมนี้อย่างมีความสุขก็เท่านั้น 

‘ความสุข’ คือ เกราะป้องกันความชั่วร้ายได้ ยิ่งเรามีความสุขได้มากเท่าไหร่ ความชั่วร้ายก็จะไม่มีวันทำอะไรได้อีก

แล้วพบกันนะ อิสรภาพของฉัน

เหตุผลประกอบการตัดสินใจ

  1. ศาลยังคงยืนยันคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา แม้จะยื่นประกันตัวไปถึง 7 ครั้งแล้ว
  2. สถานการณ์การเมืองไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ยังคงมีคนต้องเข้าเรือนจำเพราะคดีมาตรา 112 เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเข้าเรือนจำแล้วก็มีแนวโน้มไม่ได้ประกันตัวเลย
  3. ครอบครัวเราสูญเสียแม่ไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทุกคนยังบอบช้ำและยังไม่พร้อมกับความสูญเสียอีกครั้ง โดยเฉพาะน้องสาวกับน้องชาย
  4. เราคิดว่าตอนนี้เราเข้มแข็งมากพอที่จะใช้ชีวิตในเรือนจำได้แล้ว ต่อจากนี้ศาลจะไม่มีอำนาจเหนือเราอีกต่อไป
  5. ชีวิตคนเราคงจะมีบ้างที่สะดุดล้ม แต่เราจะลุกยืนขึ้นและก้าวเดินต่อไปได้อย่างระมัดระวังอีกครั้งเสมอ

น้ำฝากข้อความถึงทุกคนด้วยแววตากังวลใจว่า “ที่ไม่ได้บอกทุกคนตั้งแต่วันแรกว่าน้ำยุติอดอาหารประท้วงแล้ว เพราะต้องคิดและทบทวนกับตัวเองหลายอย่างค่ะ ต้องขอโทษที่ทำไม่สำเร็จ แต่ถ้าอ่านแถลงการณ์แล้วหวังว่าจะคงเข้าใจน้ำมากขึ้น

“น้ำรู้สึกผิดค่ะ ที่สุดท้ายการอดอาหารมันก็สูญเปล่า ทั้งที่มีคนให้กำลังใจเรามากมาย แต่พอมาคำนวณวันเวลาที่ต้องติดจริง ๆ และความเป็นไปได้ของการประกันตัว มันทำให้น้ำรู้ว่าถึงทรมานตัวเองไปขนาดไหน ศาลก็คงไม่ให้ประกันอยู่ดี”

ต่อจากนี้วารุณีจะต้องเข้าสู่กระบวนฟื้นฟูร่างกายอยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ระยะเวลาหนึ่ง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นเธอจะถูกส่งตัวกลับทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป 

X