บันทึกเยี่ยม ไพฑูรย์-สุขสันต์: แพ้น้ำ-ฝุ่น เริ่มเป็นผื่น หลังเข้าคลองเปรม 2 อาทิตย์ ซ้ำยังไม่มีชื่อญาติ-แฟนเป็นบุคคลเข้าเยี่ยม แม้แจ้งไว้แต่แรก

วันที่ 25 ก.ย. 2566 ทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ยมไพฑูรย์และสุขสันต์ ซึ่งศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา จำคุก 33 ปี 12 เดือน และ 22 ปี 2 เดือน 20 วัน ตามลำดับ จากกรณีถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บจาก #ม็อบ11กันยา2564 โดยทั้งคู่ได้ถูกย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปที่เรือนจำกลางคลองเปรมในวันถัดมาทันที เนื่องจากมีอัตราโทษสูง ทั้ง 2 คนไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ปัจจุบัน (28 ก.ย. 2566) ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมมาแล้ว 14 วัน 

ไพฑูรย์: หลับไม่สนิท เริ่มเป็นผื่น แต่ไม่ไปห้องพยาบาล เพราะรอคิวนาน

ทนายความได้อ่านข้อความจากแฟนให้ไพฑูรย์ฟัง เป็นข้อความบอกเล่าให้กำลังใจง่าย ๆ แต่ไพฑูรย์ก็ค่อย ๆ น้ำตาคลอจนต้องดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา

หลังอ่านจบทนายหนีบกระดาษที่มีข้อความนั้นไว้ที่กระจกกั้น เผื่อว่าไพฑูรย์จะอยากอ่านข้อความจากคนรักซ้ำ ๆ ซึ่งช่วงแรกของบทสนทนา แม้ว่าไพฑูรย์จะยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับทนาย แต่สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับกระดาษแผ่นนั้นเป็นพัก ๆ

เนื่องจากญาติของไพฑูรย์และสุขสันต์อยู่ต่างจังหวัด ทำให้ยังไม่มีใครเข้าเยี่ยมพวกเขานอกจากทนาย ไพฑูรย์บอกว่าเขาใส่ชื่อญาติและแฟนเป็นบุคคลเข้าเยี่ยมไว้ตั้งแต่เข้าเรือนจำแล้ว แต่ทนายพบว่า ในระบบยังไม่มีชื่อของบุคคลที่ผู้ต้องขังอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้เลย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้วตั้งแต่ไพฑูรย์เข้าเรือนจำมา

ไพฑูรย์เล่าว่าเรือนนอนที่พวกเขานอนมีกันอยู่ 24 คน 

“นอนหลับไม่ค่อยสนิทเพราะนอนเบียด ๆ กัน แล้วก็มีฝุ่นเยอะ แต่ที่นี่ดีกว่าที่พิเศษ (เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ) หน่อย ตรงที่มีฟูกปูรอบห้อง ไม่เหมือนที่พิเศษที่ใช้ผ้าห่มมาปูรองนอนเอา”

ไพฑูรย์บอกว่า เริ่มมีผื่นขึ้นบ้างแล้ว เพราะน้ำไม่สะอาด ฝุ่นเยอะ อากาศไม่ระบาย แต่ก็ไม่ได้ไปห้องพยาบาล อาศัยยาทาของเพื่อน เขาแสดงความเห็นว่า ไปห้องพยาบาลก็ได้ยาแบบเดิมแล้วยังต้องรอคิวนานอีก ลงชื่อวันนี้ได้เข้าพรุ่งนี้ จึงใช้ยาของเพื่อนแทน

เขาเล่าถึงชีวิตประจำวันในเรือนจำคลองเปรมว่า 

“ทีวีในเรือนนอนไม่มีรีโมท ถ้าถูกเปิดไว้ช่องไหนก็จะอยู่ช่องนั้นตลอด อย่างของห้องผมเป็นช่อง 3 บางห้องก็ช่อง 7

“ช่วงเวลานอนเรือนจำไม่เคยปิดไฟ ก็ต้องนอนทั้งอย่างนั้น แต่สัก 2 ทุ่ม ผมก็ผลอยหลับไปเอง เหมือนมันชินแล้ว ถึงเวลาได้ยินเสียงกุญแจเจ้าหน้าที่เข้ามาไขประตูตอนเช้า ไม่รู้กี่โมงหรอก แต่ทุกคนก็จะตื่นกัน หลังจากตื่นแล้วก็จะลงมากินข้าวประมาณ 7 โมง พอ 8 โมงก็เข้าแถว แต่พวกผมยังเป็นคนมาใหม่อยู่ สัก 8 โมงครึ่งจะต้องฝึกแถวต่ออีกประมาณสัก 15-20 นาที น่าจะต้องฝึกไปประมาณเดือนนึง”

ไพฑูรย์คิดว่าที่เรือนจำกลางคลองเปรมดูมีพื้นที่เยอะกว่าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขาเล่าถึงบรรยากาศข้างในว่า

“ที่นี่มีหญ้า มีสีเขียว ๆ มากกว่า กำแพงก็เตี้ยกว่า มองขึ้นไปก็เห็นตึกที่อยู่ข้างนอก แต่ที่พิเศษมีแต่ตึกสูง ๆ เบียด ๆ กันเต็มไปหมด แล้วที่นี่นักโทษก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ส่วนใหญ่อยู่ใครอยู่มัน ไม่ค่อยยุ่งกัน

“ช่วงกลางวันอย่างนี้ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรนะ มันไม่มีอะไรทำ จะออกกำลังกายก็ยังไม่มีเงินซื้อรองเท้าผ้าใบ กลัวได้แผล เพราะรักษาในนี้ลำบาก แต่มองคนอื่นเค้าก็จับกลุ่มคุยกันเหมือนมีอะไรทำนะ ผมไม่รู้เหมือนกันเค้าทำอะไร

“บางครั้งก็จะมีนักโทษเล่นกีตาร์ ผมก็นอนฟังเพลง รู้สึกเหมือนเป็นพระเอก MV ที่ชีวิตเศร้า ๆ”

เขาบอกว่าได้อ่านหนังสืออยู่บ้างโดยได้อ่านแฮรี่พอตเตอร์เล่ม 2 “ไม่รู้เล่ม 1 ใครยืมไป เดี๋ยวค่อยกลับไปอ่านทีหลัง”

‘ดั๊ก’ สุขสันต์: เพิ่งหายไอ น่าจะแพ้ฝุ่น – เริ่มเป็นผื่นที่หลังเหมือน “หยก”

พอทนายคุยกับไพฑูรย์เสร็จ เขาก็ส่งโทรศัพท์ให้สุขสันต์ ทนายให้สุขสันต์อ่านข้อความจากญาติ และทนายอ่านให้สุขสันต์ฟังอีกรอบหนึ่ง แม้ว่าสุขสันต์จะได้อ่านข้อความเหล่านั้นแล้ว แต่เมื่อได้ฟังทนายอ่านอีกครั้ง เขาก็น้ำตาคลอนิด ๆ


สุขสันต์เล่าว่า เพิ่งหายจากไข้ แต่ก็ยังไม่หายดี พอขึ้นเรือนนอนทีไรก็จะเริ่มรู้สึกคันและเจ็บคอ ถ้าลงมาอยู่ข้างล่างก็ดีหน่อย 

“เป็นเองหายเอง ไม่ได้กินยา เพราะถ้าไปขอยาก็ได้แต่พารา ช่วงที่เป็นก็มีไอ เจ็บคอ เข้าใจว่าน่าจะแพ้อากาศเพราะฝุ่นเยอะ ในเรือนนอนก็มีช่องระบายอากาศเล็ก ๆ เหมือนสร้างห้องมาเพื่อติดแอร์แต่ไม่ได้ติดแอร์” 

นอกจากนี้ สุขสันต์ยังเป็นผื่นแบบเดียวกับไพฑูรย์ เขาบอกว่าลักษณะแบบเดียวกับที่หยกเป็นตอนถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านปรานี 

“พี่เคยเห็นข่าวหยกมั้ยครับ ที่เป็นผื่นขึ้นที่หลัง ผมเป็นแบบนั้นเลย ตอนนี้มันเริ่มขึ้นตามหลัง ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ผมไม่ได้ทายาแต่ผมก็พยายามไม่เกานะ ตอนที่เข้ามาอยู่ที่พิเศษรอบที่แล้ว ผมเป็นทั้งหลังแบบหยกเลย พอออกไปก็หาย”

เมื่อทนายถามว่า การกินการนอนเป็นไงบ้าง สุขสันต์ก็บอกว่าผมเป็นคนตื่นง่ายหลับยาก “พอมีคนลุกไปเข้าห้องน้ำหรือขยับตัวนิดหน่อยผมก็ตื่นแล้ว นอนหลับไม่ค่อยสนิทเหมือนกัน ส่วนเรื่องกินผมไม่กินมื้อกลางวันเพราะมันยังไม่หิว แล้วเวลานี้ตอนก่อนเข้ามาก็เป็นช่วงทำงาน ยังไม่ใช่เวลากิน”

สุขสันต์เล่าว่าเขาเคยเรียน กศน. มาถึง 3 รอบแล้วแต่ก็ยังเรียนไม่จบเสียที

“ปกติมันต้องเรียนให้ครบ 3 ปีถึงจะได้เลื่อนชั้น แต่ผมเรียนไม่ครบสักทีเพราะต้องย้ายงานก่อน พอต้องเลือกระหว่างเรียนกับทำงาน ผมก็ต้องเลือกงานก่อน เพราะไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน พอไม่มีเงินก็ไปเรียนไม่ได้อีก ถ้ามีโอกาสก็อยากเรียนอีกนะ รอบล่าสุดผมก็สมัครเรียนไปเมื่อปี 63 แต่ก็ไม่จบอีกเพราะต้องย้ายงาน”

ช่วงเวลาว่างข้างในสุขสันต์บอกว่าเขาชอบอ่านหนังสือไม่ก็นอนเล่นตามสนามหญ้า พอทนายถามว่าแล้วปกติอ่านหนังสือแนวไหน สุขสันต์บอกว่า “ตอนอยู่ข้างนอกผมอ่านในแอพในมือถือ ชอบอ่านเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ the Ghost Radio ก็ชอบฟัง” 

ทนายจึงถามว่า “อยู่ในเรือนจำกลัวผีมั้ย” สุขสันต์ตอบว่า “ในนี้คนน่ากลัวกว่าผี คนอื่น ๆ ก็บอกตลอดว่า ถ้ามีอะไรให้คุยดี ๆ คุยตรง ๆ ไปเลย อย่าไปมีเรื่อง ไม่งั้นจะโดน ‘ซอย’ ซึ่ง ‘ซอย’ เป็นคำที่คนข้างในใช้กัน มันคือการขังเดี่ยว”

นอกจากนี้สุขสันต์บอกว่าเขามีความตั้งใจจะเริ่มออกกำลังกาย 

“ผมอยากออกกำลังกายนะ แต่รอมีรองเท้าผ้าใบก่อน ผมไม่อยากให้วิ่ง ๆ ไปแล้วเล็บฉีกเท้าเปิดในนี้ เพราะการรักษาข้างในก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่” เขาเล่าด้วยว่า ในแดนที่อยู่เหมือนจะมีแต่ผู้ช่วยที่ซื้อรองเท้าผ้าใบได้ ถ้าอยากได้ต้องฝากผู้ช่วยซื้อ ซึ่งก็จะโดน ‘หักค่าหัวคิว’ 

เขาขยายความว่า ‘ผู้ช่วย’ เป็นนักโทษที่จะมีหน้าที่ต่าง ๆ แบ่งกันไป ต้องสมัครเอา แต่ก็ดูจะมีอภิสิทธิ์มากกว่านักโทษคนอื่น

X