‘วารุณี’ ปัสสาวะสีเข้มเหมือนโค้ก เริ่มอดอาหาร 100% อีกครั้ง หลังทานยาฆ่าเชื้อจนครบโดส

เมื่อวันที่ 20-21 ก.ย. 2566 ทนายความเดินทางไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อเข้าเยี่ยม “น้ำ” วารุณี ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี และผู้ต้องขังระหว่างต่อสู้คดี ในคดี มาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข

วันที่ทนายเข้าเยี่ยมนี้นับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 31 และ 32 ของวารุณี และจำกัดการดื่มน้ำเป็นวันที่ 28 และ 29 แล้ว การแสดงออกดังกล่าวดำเนินมาตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค. 2566 มีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและประท้วงต่อศาลที่มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา โดยได้ถูกยกระดับเป็นการอดอาหารและน้ำ มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. เป็นต้นมา โดยจะจำกัดการดื่มน้ำเฉพาะเวลารับประทานยารักษาโรคเท่านั้น

โดยตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นมา วารุณียอมทานข้าวต้มครั้งละ 10 ช้อน 3 เวลาต่อวัน ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อจะได้รับประทานยารักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย และทานยาจนครบแล้วในวันที่ 21 ก.ย. หลังจากนี้วารุณีแจ้งว่าจะกลับมาอดอาหารและจำกัดการดื่มน้ำดังเดิม

บันทึกเยี่ยม 20 กันยายน

รูปที่ทุกคนถือสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ ‘โทรม’ จนไม่อยากเปิดแมสก์

น้ำนั่งรอพบทนายอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเราบอกว่าวันนี้จะปริ้นรูปบรรยากาศงานเป่าเค้ก – ทวงสิทธิประกันตัว ในวันเกิดของเธอที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมาให้ได้ดู และรวบรวมนำภาพถ่ายบรรยากาศงาน บทความ และบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับวารุณีที่ถูกเผยแพร่ในวันเกิดของเธอให้ได้ดู น้ำดูไปยิ้มไป และขอให้เราถามเจ้าหน้าที่ให้หน่อยว่า อนุญาตให้เธอเก็บภาพถ่ายและบทความเหล่านี้ไว้กับตัวได้ไหม แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่อนุญาต น้ำก็มีสีหน้าดูเศร้าลงทันที

“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ น่ารักทุกรูปเลย ขอบคุณที่จัดงานวันเกิดให้ เลือกมาแต่รูปสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ตอนนี้โทรมจนไม่อยากเปิดแมสก์ (หัวเราะ) เห็นแล้วอยากจะร้องไห้, พูดจริง ๆ นะ! ตอนนี้หนูหมดหนทางแล้ว ขอบคุณคนข้างนอกที่ยังไม่ทิ้งกัน”

สภาพร่างกายยังทรงตัว แต่ปัสสาวะสีเข้มเหมือน ‘โค้ก’

สำหรับสภาพร่างกาย น้ำบอกว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนมาก แต่ปัสสาวะมีสีเข้มมากจนน่าตกใจ “ยังไม่ได้เจาะเลือดเลยค่ะ เลยไม่รู้ว่าค่าเลือดเป็นยังไง แต่เมื่อเช้านี้ ‘ฉี่เป็นสีโค้ก’ รู้สึกตกใจมากค่ะ ตั้งใจว่าจะไปถามพยาบาลอยู่ว่า มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับไตรึเปล่า เพราะฉี่ของคนปกติคงไม่เข้มจัดขนาดนี้

“กำลังใจยังดีอยู่ค่ะ ช่วงนี้พบนักจิต (จิตแพทย์) บ่อย เขาก็ให้ทำแบบทดสอบสภาพจิตใจหลายอย่าง มันต้องใช้สติพอสมควร เราก็เลยรีบทำตอนที่ยังมีแรง (หัวเราะ)

“พอกลับไปอดอาหารแบบ 100% คงทรมานมากกว่าเดิม แล้วก็จะตามมาด้วยความรู้สึกกระหายน้ำ ยังจำตอนที่อดอาหารในเรือนจำไปสักอาทิตย์หนึ่งแล้วเบลอได้อยู่เลย ตอนนั้นนับวันนับคืนผิด ๆ ถูก ๆ ก็เลยคิดว่าต้องรีบทำแบบทดสอบไว้ก่อนจะกลับไปเป็นแบบเดิมค่ะ”

น้ำบอกว่า อีกไม่ถึง 10 วัน จะครบ 3 เดือนแล้วที่เธอถูกคุมขัง “สิทธิประกันตัวมันเป็นอะไรที่ต้องเรียกร้องเหรอ ต้องอดน้ำ อดอาหารเพื่อเรียกร้องเหรอ ถามจริง ๆ ว่าศาลต้องการขนาดไหน ต้องการให้คนจบชีวิตเลยมั้ยถึงจะยอมทำในสิ่งที่ควรทำสักที…”

ฝากถึงกระทรวงยุติธรรม ของ ครม.ชุดใหม่

“จริง ๆ พวกเราที่เป็นนักโทษทางการเมือง ‘ไม่ใช่’ คนเลวร้าย ถ้าย้อนกลับไปดูแต่ละเคส บางเคสไม่ควรต้องติดคุกด้วยซ้ำ การคุมขังและตัดขาดพวกเขาออกจากโลกภายนอกแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเหรอ
หลายคนเป็นเสาหลักของครอบครัว มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแล นอกจากทำให้ครอบครัวเดือดร้อนแล้ว รัฐบาลได้อะไร ประเทศไทยได้อะไรจากการเอาพวกเรามาคุมขังไว้ …”

น้ำฝากบอกน้องสาวให้ช่วยจัดการขนของออกจากคอนโดหลายอย่าง หลังจากประเมินแล้วเห็นว่า ไม่มีหวังที่จะได้ประกันตัวเร็ว ๆ นี้ “รู้สึกไม่ค่อยดีที่ต้องออกจากคอนโดที่เราอยู่มาปีกว่าแล้ว มีความทรงจำร่วมกับที่นั่นเยอะมาก แต่ตอนนี้มันไม่มีความหวังเลย เลยตัดสินใจออกจากคอนโดก่อนดีกว่า

“เสียใจค่ะ …”

บันทึกเยี่ยม 21 กันยายน

เห็นมั้ย! ศาลไม่เคยอยู่ข้างประชาชน

น้ำโบกมือให้เราทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องคนไข้มา เราเล่าข่าวให้น้ำฟังถึงกรณี ‘ช่อ-พรรณิการ์’ ถูกศาลฎีกาสั่งห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งอีกตลอดชีวิต เพราะศาลเห็นว่า ข้อความที่เธอเคยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาทำงานการเมือง มีลักษณะไม่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันฯ อีกแล้ว เธอตาโตและตกใจมาก

น้ำตอบกลับทันทีว่า “เห็นมั้ย, ว่าแล้ว ศาลไม่เคยอยู่ข้างประชาชนเลย แต่ยังไงเพชรก็เป็นเพชรค่ะ จะได้เป็น สส. หรือไม่ได้เป็น สส. คุณช่อก็สามารถเป็นกระบอกเสียงและให้ความรู้แก่ประชาชนได้ เขาเป็นคนเก่ง น้ำเชื่อว่าเขาจะทำหน้าที่อื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ”

วันสุดท้ายของการกินยาฆ่าเชื้อ หลังจากนี้ตั้งใจอดอาหาร 100%

สภาพร่างกาย น้ำบอกว่ายังทรงตัว “เชื้อแบคทีเรียก็ดีขึ้นมาก ๆ ยาที่กินอยู่เหลือ ‘เม็ดสุดท้าย’ แล้วค่ะ ต้องกินในตอนเที่ยงวันนี้ จะได้หยุดยาแล้ว ดีใจมาก เพราะยามันทำให้คลื่นไส้มากจริง ๆ ตอนนี้ก็ยังคลื่นไส้อยู่นะคะ” เธอพูดแล้วก็ยกมือกุมหัว

“อยากอดอาหารจนได้รับสิทธิประกันตัวค่ะ แม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกว่าร่างกายมันเริ่มแปลกไป อย่างการ ‘ฉี่เป็นสีโค้ก’ เข้มมากจนพยาบาลตกใจ ขอให้กินน้ำเพิ่มหน่อย แต่หนูปฏิเสธไปค่ะ แล้วก็มีอาการปวดท้องลึก ๆ ปวดแบบตอนที่เราปวดฉี่มาก ๆ แล้วได้ไปฉี่ พอฉี่เสร็จจะปวดท้องหน่อย ๆ นั่นแหละที่น้ำปวดอยู่ตอนนี้

“กังวลเรื่อง ‘ไต’ ค่ะ แล้วก็ไม่อยากกลับไปอดอาหารในเรือนจำ มันมีวันหนึ่งที่หนูปวดท้องมาก ๆ ปวดจนเหงื่อแตกพลั่ก ขอให้เขาเรียกพยาบาลให้มา แต่นานมากกว่าพยาบาลจะมา นานเป็นชั่วโมง จนหนูหายปวดไปเองเลยอะค่ะ แต่ก็เข้าใจเพราะมีพยาบาลแค่ 2 คน ต้องดูแลผู้ต้องขังพันกว่าคน หนูกลัวอาการทรุดแล้วพยาบาลมาไม่ทัน”

ครั้งนี้ใจสู้กว่าเดิม

“ตอนอดอาหาร ‘ครั้งแรก’ น้ำไม่ได้เข้มแข็งมากค่ะ ที่ตัดสินใจทำก็แค่รู้สึกว่า ‘เราต้องสู้แล้วแหละ’ ‘ต้องเอาชีวิตตัวเองแลกสิทธิประกันตัว’ ทีนี้แฟนมาร้องไห้ต่อหน้า น้องมาร้องไห้ต่อหน้า สภาพจิตใจเราก็ย่ำแย่ ตีคู่ไปกับอาการทางกายเลย ทรมานมาก

“แต่ครั้งนี้ น้ำรู้สึกว่าสภาพจิตใจดีขึ้นค่ะ คงเพราะได้กำลังใจจากทุกคนด้วย น้ำเลยเข้มแข็งและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น สภาพร่างกายอาจจะแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ แต่จิตใจคงไม่ทรุดตาม”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

อดอาหาร – จำกัดดื่มน้ำ 1 เดือนแล้ว! ผอมลงจนเห็นกระดูกซี่โครง แต่ ‘วารุณี’ ยังไร้แววได้ประกันตัว