วันที่ 4 ของการทวงความยุติธรรมให้ตัวเองของ “วารุณี” ยกระดับการอดอาหารเป็นการอดน้ำ

24 ส.ค. 2566 วันที่ 4 ของการอดอาหารเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว วันนี้เราเยี่ยมวารุณี (น้ำ) ทางไลน์ เพราะเห็นว่าการเยี่ยมเช่นนี้น่าจะใช้พลังงานน้อยกว่าการให้เธอต้องใช้พละกำลังเดินออกไปแดนหน้า แต่ก็ทำให้พบว่าการพูดคุยผ่านอุปกรณ์สื่อสารเป็นอุปสรรคอยู่พอสมควร 

น้ำเป็นผู้หญิงร่างเล็ก เวลานั่งแล้วพูดเสียงจะไกลไมค์พอสมควร จนเธอต้องยืนคุยกับเรา เพื่อให้ปากอยู่ใกล้ไมค์และสื่อสารกันแบบพอได้ยิน

น้ำบอกว่าเธองดน้ำมาตั้งแต่ 15.40 น. ของเมื่อวานหลังทานยานอนหลับ เธอตั้งใจงดทั้งอาหารและน้ำ ยอมเพียงจิบน้ำเพื่อทานยานอนหลับที่เธอยังต้องทานทุกวัน เพราะโรคที่เธอเผชิญอยู่ทำให้นอนได้ลำบาก หากไม่ได้กินยาจะนอนหลับไม่ได้เลย

วันนี้น้ำมีอาการปากแห้ง คอแห้ง น้ำลายเหนียว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องร้องตลอดเวลา และกระหายน้ำตลอดเวลา 

น้ำบอกว่า น้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ 37.2 กิโลกรัม ก่อนหน้านี้เธอน้ำหนักลงไปหลายกิโลกรัม แต่ก็พยายามกินให้มากขึ้นจนน้ำหนักขึ้นแล้ว ก่อนที่เธอจะเริ่มอดอาหาร

หนูกำลังเรียกร้องอิสรภาพ หนูจะทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง

เราชวนคุยทวนถึงความต้องการของเธอ “ชีวิตที่มันติดอยู่ในนี้โดยไม่ได้รับความยุติธรรมหนูไม่ชอบ หนูกำลังเรียกร้องอิสรภาพ หนูเหนื่อย อยู่ในนี้คิดถึงบ้าน คิดถึงหมา มันไม่ใช่ความขี้ขลาดเลยนะ” 

น้ำเล่าว่า น้องสาวของเธอมาเยี่ยมและขอร้องให้กินข้าว “หนูสงสารน้อง ตั้งแต่แม่เสีย น้องก็มีแต่หนู ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปถึงขั้นไหน ต้องตายหรือเปล่า แต่หนูก็บอกให้น้องลองมาติดดู เหมือนไร้น้ำใจนะ แต่มันเป็นสิ่งที่หนูเผชิญอยู่”

“ตอนนี้หนูไม่รู้จะจบที่ตรงไหน แต่สำหรับใจหนู หนูคิดไปถึงกรณีที่แย่ที่สุดแล้ว ความยุติธรรมจากศาล ศาลแทบไม่ต้องทำอะไรเลย (ในการให้ประกัน) เขายังไม่ทำเลย หนูจะทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง หนูไม่รู้ว่าจะตายหรือเปล่า เคสหนูมันไม่น่าจะต้องเลยเถิด หนูทำผิดครั้งแรกและหนูยอมทุกอย่าง ยื่นประกันมา 5 ครั้งแล้ว (รวมการอุทธรณ์)”

“หนูรู้ว่าพี่ (ทนาย) ยื่นทุกเงื่อนไขแล้ว หนูไม่มีทางเลือกจริงๆ หนูคิดว่าไม่น่าเกินวันอังคารหน้าร่างกายหนูคงเปลี่ยนแปลงไปมากๆ ทุกคนพยายามให้หนูกินน้ำ เพื่อนก็เขียนจดหมายมาว่าไม่เห็นด้วย แต่เคารพการตัดสินใจ”

“หนูคิดว่าร่างกายหนูคงไปไว หนูไม่คิดว่าต้องม็อบ หรือต้องมีสื่อไปกดดันศาลอะไร ศาลควรรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ใช่ต้องมีม็อบหรือมีนักข่าว ศาลถึงจะให้ประกัน”

“หนูไม่ได้มีความสุขอยู่ในนี้นะ หนูรู้ว่าจะมีผลกระทบกับร่างกายยังไง มีคนถามว่าหนูไม่รักตัวเองเหรอ แต่หนูถามกลับว่า ถ้ารักตัวเองจะปล่อยให้ตัวเองถูกรังแกอยู่แบบนี้เหรอ”

“หนูไม่ได้ฆ่าใครตาย ปล่อยหนูออกไปเป็นภัยสังคมขนาดนั้นเลยเหรอ หนูเข้าใจว่ามีคดีที่คนอาจจะไปก่ออันตราย ศาลเลยไม่ให้ประกัน หรือต้องติดกำไล EM หรือเรียกหลักประกันสูงๆ แต่คดีหนูไม่ได้ไปทำให้ใครเจ็บตัว หนูสำนึกผิด หนูรับสารภาพ หนูต้องตัดขาดจากพ่อ จากน้องจากโลกภายนอก จากหมา หนูสำนึกผิดแล้ว แต่เขาไม่ให้หนูออกเพราะอะไร”

ก่อนจากลากัน เราถามน้ำว่าควรเยี่ยมทางไลน์หรือเยี่ยมแบบเจอกันที่เรือนจำ เราเกรงว่าหลายวันต่อจากนี้เรี่ยวแรงเธอจะลดลงเรื่อยๆ น้ำอยากเธอทนายความที่เรือนจำมากกว่า 

“ไปแดนหน้าต้องผ่านสถานพยาบาล ถ้าหนูเป็นลมก็อยู่ตรงสถานพยาบาลเลย”

บันทึกทนายความ

วันที่ 58 ของการคุมขัง  วันที่ 4 ของการอดอาหาร 

คดีอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งอุทธรณ์การประกันตัวจากศาลฎีกา

X