ตรวจพบ ‘ก้อนเนื้อ’ 11X8 ซม. ในช่องท้อง ‘เอกชัย’ หลังป่วยตัวเหลือง-ตาเหลือง ยังไม่ชัดเป็นโรคใด ต้องรอผลตรวจอีกหลายขั้นตอน

วันนี้ (13 ก.ย. 2566) เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมืองและผู้ต้องขังคดีสิ้นสุดแล้ว วัย 48 ปี ถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มาศาลอาญา เพื่อร่วมการพิจารณาคดี ‘คนอยากเลือกตั้ง’ ที่หน้าองค์กรสหประชาชาติ หรือคดี UN62 เมื่อปี 2561 ที่เขาตกเป็นจำเลย 

เอกชัยได้บอกเล่าถึงคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยตัวเหลืองและตาเหลือง จนถูกแอดมิทอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 2566 ว่าล่าสุดตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 11X8 ซม. อยู่ที่ท้องด้านขวา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเนื้อร้ายหรือดี และจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบผลตรวจเลือด

ภาพจาก ไข่แมวชีส

บันทึกจากห้องพิจารณา : เอกชัยอ่อนแรง ต้องนั่งรถเข็น พบตามแขนมีแต่รอยเข็ม เท้าบวม ตัวดูเหลืองน้อยลงแล้ว แต่ตายังดูเหลืองมากกว่าอยู่

เวลาประมาณ 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 913 เอกชัยต้องนั่ง ‘รถเข็น’ เข้ามาโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยเข็นให้ เนื่องจากเขารู้สึกอ่อนแรงมาก หากเดินจะก้าวได้อย่างช้าๆ เท่านั้น บริเวณเท้าถูกใส่กุญแจเท้าไว้ สวมชุดผู้ต้องขังเป็นเสื้อคอกลม สีน้ำตาลอ่อน แขนเสื้อข้างซ้ายมีสัญลักษณ์ ‘+’ สีเขียวสรีนอยู่ และสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้มกว่าเสื้อ 

เราสังเกตว่า เอกชัยดู ‘ตัวซีด’ ซูบผอมลงเล็กน้อย ตัวเนื้อตัวร่างกายดู ‘ซีดเหลือง’ เล็กน้อย เอกชัยบอกว่าอาการตัวเหลืองดีขึ้นกว่าหลายวันก่อนแล้ว คาดว่าเป็นเพราะได้รับน้ำเกลือตลอดเวลา ส่วนพื้นที่สีขาวของดวงตาไม่ค่อยดูเหลืองมากเท่าไหร่แล้วเช่นกัน แต่เขายืนยันว่า ‘ยังเหลืองมากนะ’ แล้วทำท่ากลอกตามองลงด้านล่างและด้านบน พร้อมกับดึงเปลือกตาล่างและบนให้ดูตามๆ กัน เราจึงสังเกตเห็นว่าตาขาวที่อยู่บริเวณใต้เปลือกตาจะดูเหลือง ‘มากกว่า’   

ส่วนบริเวณหลังแขน ตรงข้อมือข้างซ้ายมี ‘เข็มเจาะเลือด’ ปักคาอยู่ ซึ่งมีไว้สำหรับให้น้ำเกลือและยารักษาทางหลอดเลือด ข้าง ๆ เข็มเจาะเลือดมีกระดาษสติกเกอร์เล็กๆ เขียนติดไว้ว่า ‘เริ่ม : 11/9/23’ และ ‘Exp : 14/9/23’ เนื่องจากต้องเปลี่ยนเข็มสลับไปเจาะที่ข้อแขนอีกฟากหนึ่งทุก ๆ 3 วัน 

เมื่อมองแขนข้างขวาจะยังปรากฏให้เห็น ‘จุดสีดำ’ รอยเข็มรอยเดิมอยู่ ส่วนข้อพับแขนข้างขวามีสำลีติดเทปกาวอยู่ เอกชัยบอกว่าเป็นรอยเข็มเจาะเลือดที่แพทย์นำไปตรวจหาเซลล์มะเร็งเมื่อเช้านี้ เขาบอกเราแล้วค่อย ๆ แกะสำลีปิดรอยเข็มออก ปรากฏให้เห็นเป็นรอยจ้ำสีเขียวช้ำอยู่ที่บริเวณรอยเจาะนั้น ซึ่งเอกชัยเห็นแล้วก็รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกัน

ตลอดการรักษา เอกชัยได้รับการเจาะเลือดอยู่บ่อย ๆ วันละประมาณ 2-3 ครั้ง และได้รับการให้น้ำเกลือตลอดเวลา เอกชัยสังเกตก่อนหน้านี้ ตลอดการรับน้ำเกลือร่างกายของเขาดูบวมมากขึ้น โดยเฉพาะเท้า แขน และมือ โดยแพทย์เพิ่งหยุดให้น้ำเกลือเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) วันนี้มือและแขนจึงยังดูไม่ค่อยบวมเท่าไหร่แล้ว แต่เท้าทั้งสองข้างยังบวมมากอยู่

ตลอดการอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เอกชัยจะได้รับยาส่วนใหญ่ผ่านทางหลอดเลือดโดยตรง มีเพียงยาบางอย่างเท่านั้นที่ต้องรับประทาน เช่น ยาระบาย ยาลดกรด ปัจจุบันเอกชัยยังกินอาหารและน้ำได้ แต่กินได้น้อย เพราะไม่รู้สึกอยากอาหาร 

ล่าสุด ตรวจพบ ‘ก้อนเนื้อ’ ที่ท้องด้านขวา แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นเนื้อร้ายหรือดี รอตรวจอีกหลายขั้นตอน

ก่อนหน้านี้ เอกชัยได้รับการเจาะเลือดไปตรวจหาโรคและหาเซลล์มะเร็งแล้ว คาดว่าจะทราบผลตรวจภายใน 1 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น และเมื่อวันอังคารที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการตรวจช่องท้องด้วยการอัลตราซาวน์แล้ว พบว่า เจอ ‘ก้อนเนื้อ’ ขนาด 11X8 เซนติเมตร อยู่ที่บริเวณช่องท้องด้านล่างข้างขวา เอกชัยบอกว่า เป็นตำแหน่งใกล้กับ ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ จุดเดิมซึ่งอยู่ติดกับตับที่เคยเป็นเมื่อปี 2548 แต่ได้รับการรักษาและผ่าตัดออกไปแล้วในปีนั้น ครั้งนั้นเขาใช้เวลารักษาและผ่าตัดรวมทั้งสิ้นเพียง 8 วันเท่านั้น 

การตรวจหาโรคขั้นตอนต่อไปจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) แพทย์ได้นัดตรวจร่างกายด้วยการ CT Scan เพื่อตรวจดูก้อนเนื้อที่พบว่า อยู่ตรงจุดไหนของร่างกายกันแน่ และมีรูปร่างเป็นอย่างไร เมื่อได้ผลที่แน่ชัดแล้ว คาดว่าจะเป็นขั้นตอนของการนำตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย

ปัจจุบันเอกชัยรักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. เป็นต้นมา เอกชัยนอนรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยรวม ในห้องดังกล่าวมีผู้ป่วยประมาณ 30 เตียง ส่วนใหญ่เป็นนักโทษผู้ป่วยที่มีอายุมากแล้ว ป่วยหลายโรค อาทิ น้ำท่วมปอด โรคเกี่ยวกับอายุรกรรม โรคทางต่อมไร้ท่อ เป็นต้น

ต้องการผ่าตัดก้อนเนื้อออกที่ รพ.มธ. เพราะเห็นว่า รพ.ราชทัณฑ์ไม่มีความพร้อมเรื่องการผ่าตัด

เอกชัยแจ้งความประสงค์เกี่ยวกับการรักษาในอนาคตว่า ต้องการจะผ่าตัดนำก้อนเนื้อออก ไม่ว่าผลตรวจจะออกเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย และต้องการเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพราะเขาคิดว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีความพร้อมเกี่ยวกับการผ่าตัดเท่ากับโรงพยาบาลภายนอก 

และหากแพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องผ่าตัดก้อนเนื้อ เอกชัยประสงค์จะไม่รับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจอย่างเด็ดขาด เขาบอกว่านักโทษส่วนใหญ่ที่ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพราะเจ็บป่วยมากและมีเหตุที่ต้องรับการผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งเขาก็ยังสงสัยว่า กรณีทักษิณถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจนั้นเป็นความเจ็บป่วยรุนแรงมากเพียงใด

การพิจารณาคดีในวันนี้ ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 24 ต.ค. 2566 เวลา 09.00 น. เนื่องจากวันนี้นั้นศาลนัดหมายพิจารณาทับซ้อนกับคดีอื่น เอกชัยจึงถูกพาตัวออกจากห้องพิจารณาคดีในเวลาประมาณ 11.00 น. และจะถูกนำตัวไปคุมขังที่ห้องขังใต้ถุนศาล จากนั้นจะถูกพาตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ 

เอกชัยฝากบอกประชาชนที่ให้มาให้กำลังใจและต้องการซื้ออาหารมื้อเที่ยงฝากเข้าไปในห้องขังใต้ถุนศาลวันนี้ว่า ขอเมนูข้าวกะเพราไข่ดาวก็ได้ และไม่ต้องซื้อขนมหรือนมอะไรฝากเข้าไป เพราะรู้สึกไม่อยากอาหารเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข็นรถเข็นที่เอกชัยนั่งอยู่ห้องจากห้องพิจารณาคดีไป โดยมีประชาชนที่มาให้กำลังใจ 5-6 คน เดินติดตามไปจนสุดทางเดิน

ภาพจาก ประชาไท

ไทม์ไลน์อาการป่วยตัวเหลือง – ตาเหลือง ของ ‘เอกชัย’ ก่อนพบเป็นก้อนเนื้อ

1 ก.ย. 2566 – เริ่มมีอาการป่วย กินอาหารได้น้อย รู้สึกไม่อยากอาหาร และได้กินยารักษาอาการปวดไม่ทราบชนิดจากเพื่อนผู้ต้องขัง ต่อมามีไข้ขึ้นสูง หนาวสั่น และมีเหงื่อออกตลอด 2 ชั่วโมง

2 ก.ย. 2566 – ตั้งแต่เวลาเช้าพบว่า เริ่มมีอาการตัวเหลืองและตาเหลือง 

4 ก.ย. 2566 – เอกชัยลงชื่อขอพบแพทย์ในเรือนจำ

5 ก.ย. 2566 – เอกชัยได้พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเบื้องต้น

8 ก.ย. 2566 – ถูกส่งตัวมาตรวจโรคและเจาะเลือดที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต่อมาแพทย์บอกว่า ค่าตับของเอกชัยผิดปกติมากและเลือดมีความเป็นกรดสูง จึงให้แอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยและรักษาโรคต่อไป

10 ก.ย. 2566 – แพทย์แจ้งกับทนายความว่า อาการไข้ของเอกชัยลดลงแล้ว จากการตรวจเลือดพบว่า เอกชัยมีค่าตับผิดปกติ โดยมีค่าสูงกว่าปกติ และเม็ดเลือดขาวมีจำนวนมากผิดปกติด้วย 

11 ก.ย. 2566 – ขับถ่ายครั้งแรกในรอบ 7 วัน เพราะแพทย์ได้จ่ายยาระบายให้ทาน 

12 ก.ย. 2566 – อัลตราซาวน์ช่องท้องของเอกชัย พบว่า มีก้อนเนื้อขนาด 11X8 ซม. อยู่ที่ช่องท้องด้านขวาล่าง บริเวณเหนือหัวหน่าวขึ้นมาเล็กน้อย แต่เมื่อกดไม่ได้รู้เจ็บแต่อย่างใด  

13 ก.ย. 2566 – ได้รับการเจาะเลือดอีกครั้งเพื่อนำไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง

14 ก.ย. 2566 – แพทย์นัดหมายตรวจหาตำแหน่งและรูปร่างที่ชัดเจนของก้อนเนื้อด้วยการ CT Scan และจะนัดหมายนำตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ต่อไป

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

บันทึกเยี่ยม ‘เอกชัย’ ป่วยตัวเหลือง-ตาเหลือง จนต้องแอดมิต เจ้าตัวชี้คล้าย ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ ที่เป็นเมื่อปี 48

X