บันทึกเยี่ยม “เก็ท” โมกหลวง: ความในใจถึงคำพิพากษา “สิทธิประกันตัว โคตรพื้นฐาน”

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง สมาชิกกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษในคดีมาตรา 112 จำคุก 3 ปี 6 เดือน จากกรณีที่ถูกฟ้องจากคำปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565

ก่อนหน้านี้ เก็ทเคยถูกศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขังนานร่วม 4 ผัด หลังถูกจับกุมตัวในชั้นสอบสวน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565 และภายหลังได้รับการประกันตัวพร้อมถูกกำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 

ในคดีเดียวกันนี้ เขายังเคยถูกศาลสั่งถอนประกันตัวพร้อมกับใบปอ สมาชิกทะลุวัง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 หลังไปร่วมกิจกรรมชุมนุมประท้วง APEC2022 เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 จนทำให้เก็ทตัดสินใจปฏิบัติการอดนอนเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับตนเองและเพื่อนผู้ต้องขังคดีการเมือง เป็นระยะเวลากว่า 15 วัน ก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง พร้อมกับใบปอ และพรพจน์ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566

โดยสรุปแล้ว ในคดีทัวร์มูล่าผัวนี้ เก็ทต้องเข้าเรือนจำเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ตั้งแต่ในชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณาคดี ตลอดจนภายหลังศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2566 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์

ขอโทษพ่อกับแม่ ถ้าไม่เหลืออด จะไม่อดอาหาร

วันนี้ทนายเข้าเยี่ยมเก็ทเป็นครั้งแรก หลังจากศาลมีคำพิพากษาและไม่อนุญาตให้ประกันตัว การเจอหน้ากันในเรือนจำอีกครั้ง คำถามแรกที่เก็ทถามคือเขาอยากรู้ว่า ‘น้ำ วารุณี’ กับ ‘เวหา’ เป็นอย่างไรบ้าง และจะได้ประกันตัวในเร็วๆ นี้หรือไม่ แต่น่าเสียดายทนายก็ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้เหมือนกัน 

จากนั้น ทนายได้อ่านคำสั่งประกันตัวให้เขาฟังอีกครั้ง แต่เก็ทไม่ได้มีท่าทีตกใจ เขาอาจชินชาจนกล่าวตอบกลับมาว่า “จริงๆ ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว ยิ่งการเมืองเป็นแบบนี้ด้วย” และเมื่อทนายเล่าถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เศรษฐา นายกรัฐมนตรีเข้าไปพบประยุทธ์ จันโอชา ที่ทำเนียบรัฐบาลให้ฟัง โดยเห็นว่ามีภาพถ่ายยกมือไหว้ประยุทธ์ด้วย ก็ทำให้เก็ทรู้สึกตกใจ และแสดงความคิดเห็นว่าต้องขนาดนี้เชียวหรือ

ชีวิตที่เข้าๆ ออกๆ คุกไม่ใช่เรื่องปกติ อีกทั้งการผ่านวิธีการอารยะขัดขืนด้วยการอดอาหาร และอดนอนมาตลอด สร้างความกังวลใจให้กับครอบครัวของเขามาก  แต่เก็ทก็บอกว่าอาหารในเรือนจำ ก็ไม่ได้ทำให้เขาเจริญอาหารอยู่แล้ว 

“ตอนนี้กินได้แต่น้ำ ชา นม ก็เริ่มมีอาการเบลอๆ นิดหน่อย” เก็ทเล่าอีกว่าตอนนี้พยายามอ่านหนังสือด้านรัฐศาสตร์อยู่ แต่อาการเบลอทำให้เขาไม่สามารถโฟกัสตัวเองให้อ่านหนังสือได้เท่าที่ควร

“ตอนที่เข้ามาตอนแรกมันก็พออยู่ได้ แต่พออยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมไม่ให้ลงมาข้างล่างเลย มันก็จิตตก” เก็ทเล่าว่าในช่วงนี้เขาถูกกักตัวอยู่แต่บนห้อง เรือนจำคุมเข้มมาก จึงอยากจะพบจิตแพทย์ เพราะรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาทางสุขภาพจิตขึ้นมาแล้ว และอาจเป็นเพราะสิ่งนี้จึงทำให้เขารับประทานอาหารไม่ค่อยลงด้วยอาการเครียดลงท้องก็เป็นได้

“แต่ผมยังกินข้าวที่คนส่งเข้ามาอยู่ มีพ่อคอยส่งข้าวเข้ามาให้ ผมก็พยายามกินบ้าง เพราะเห็นแล้วก็คิดถึงหน้าพ่อ”

สิทธิประกันตัว สิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ยังแลกด้วยการประท้วงที่เสี่ยงถึงชีวิต

พอพูดถึงเรื่องการประกันตัวเก็ทเผยความรู้สึกว่าเขายังหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่าผู้ต้องขังคดีการเมืองยังคงไม่ได้ประกันตัวอยู่ซ้ำๆ ด้วยเหตุผลเดิมๆ ว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม 

“มันน่าหงุดหงิดมาก ทำไมเราต้องพูดเรื่องซ้ำๆ เรื่อยๆ ว่าสิทธิประกันตัวเป็นเรื่องพื้นฐาน ทำไมต้องผ่านการประท้วงถึงจะได้ประกันตัว” และในส่วนคดีของตัวเอง เขาก็ไม่ได้หวังว่าจะได้รับการประกันตัวในเร็วๆ นี้

ดีใจที่การเข้าชื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงเป้า

เมื่อเล่าให้เก็ทฟังว่า ในช่วงนี้ มีการรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยื่นเสนอคำถามประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำโดย iLaw และตอนนี้ได้เกินสองแสนรายชื่อแล้ว เขารู้สึกตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น เพราะก่อนที่จะเข้ามาในเรือนจำก็ไม่คิดว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ทัน 

นอกจากนี้ เก็ทได้ฝากข้อความบอกกับทุกคนข้างนอกว่า หากอยากทำกิจกรรมใดๆ ของกลุ่มโมกหลวงฯ ต่อก็ขอให้ทำได้เลย “ตอนนี้ เรามาไกลกันมากแล้ว ได้รายชื่อมาขนาดนี้ อยากให้ทุกคนไปกันต่อ” เก็ททิ้งท้ายไว้ถึงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเอาไว้เพียงเท่านี้

สุดท้ายเก็ทได้ฝากบอกกับมวลชนข้างนอกถึงสถานการณ์การเมืองที่เข้มข้นนี้ว่า “อย่าตีกันเลย เรามีกันอยู่เท่านี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน”

X