บันทึกเยี่ยมสองผู้ต้องขัง ม.112: ‘ทีปกร’ ยังพยายามยืนหยัด ขณะ ‘วุฒิ’ ตั้งคำถามกรณีทักษิณถึงการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง

เมื่อวันที่ 23-24 ส.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำพิเศษมีนบุรี เพื่อเข้าเยี่ยม “กิ๊ฟ” ทีปกร ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และศาลอุทธรณ์ยังไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์

นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยม “วุฒิ” ที่ถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 จากการโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 12 ข้อความ ศาลอาญามีนบุรีไม่อนุญาตให้ประกันตัวหลังถูกสั่งฟ้องมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2566

ทีปกร: ถ้าเรายังยืนหยัด เราก็ยังคงมีความหวัง

วันนี้ ‘กิ๊ฟ ทีปกร’ ทักทายทนายความตามปกติ เขาเล่าเรื่องชีวิตปัจจุบันในเรือนจำให้ฟังว่ากำลังทำงานอยู่ในกองงานตัดผม ซึ่งเป็นอาชีพที่เขากำลังวางแผนจะเริ่มต้นทำก่อนที่จะต้องเข้าเรือนจำ จึงเป็นตลกร้ายอยู่เหมือนกัน ที่ได้มาเริ่มสิ่งที่อยากทำในระหว่างถูกคุมขังเสียก่อน

“ช่วงนี้ก็ยังออกกำลังกายอยู่เรื่อยๆ และเข้ากองงานตัดผมอยู่ แต่ว่ามีช่างตัดผมจำนวนหนึ่ง วันหนึ่งก็ไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น พอได้ตัดผมบ้าง การอยู่กองงานก็มีข้อดีตรงที่เราสามารถใช้ชีวิตในนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีเวลาพัก เช่น รอบการไปซื้อของในส่วนของกองงานเองเพิ่มขึ้นมา”

กิ๊ฟบอกว่าตอนนี้เขาแทบจะไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำมาคอยติดตามดู หรือถ่ายรูปแล้ว

“เรื่องการถูกติดตามและการถูกถ่ายรูปในตอนนี้แทบจะไม่มีแล้ว โอเคขึ้น แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้จะได้รับการประกันตัวเพื่อออกไปต่อสู้คดีมากกว่า รวมทั้งอยากจะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงการให้กำลังใจ การปรึกษาในเรื่องต่างๆ กับเพื่อนๆ ที่ยังสู้กันอยู่ในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะการอยู่ข้างในนี้มันยากเย็นเหลือเกินในการสื่อสารทุกๆ ด้าน”

เขายังฝากข้อความถึงคนข้างนอกมาว่า “อยากให้กำลังใจคนที่ยังมีความหวังอยู่ แม้ว่ามันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ แต่ถ้าเรายังยืนหยัด เราก็ยังคงมีความหวังอยู่

“ไม่อยากให้ลืมคนที่ต่อสู้และได้รับผลกระทบจนต้องเสียอิสรภาพไป อย่าลืมพวกเขาเลย ทั้งนี้อยากให้ฝ่ายการเมือง สนใจเสียงของประชาชนว่าประชาชนต้องการอะไร และเคยสัญญาอะไรกับประชาชนไว้”

ปัจจุบัน กิ๊ฟถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 71 วัน

วุฒิ: การดูแลทักษิณอย่างดี สะท้อนความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน

วุฒิสนใจติดตามสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับเข้าประเทศไทยแล้ว

วุฒิแสดงความเห็นว่า “ผมมอง 2 แง่นะ แง่บวกอาจจะทำให้เศรษฐกิจดี (มั้ง) แง่ลบ ก็ทำให้ประชาชนผิดหวัง เหมือนประชาชนอยู่ในสภาพจำยอม เหมือนต้องยอมรับไป ก็รอดูว่าเค้าจะทำอะไรให้ประชาชน

“ในฐานะนักโทษการเมืองเหมือนกัน ที่ทักษิณกลับมาได้ก็เพื่อต่อรองผลประโยชน์กับพวกอำมาตย์ แต่ในขณะที่พวกผมคนธรรมดาที่โดนคดีต้องติดคุกจริง ผมและหลายๆ คนต้องติดคุกอยู่ระหว่างพิจารณา ไม่รู้จะได้ออกเมื่อไหร่ สถานะนักโทษการเมืองไม่ต่างกัน แต่ทักษิณมีอำนาจต่อรองเพราะเค้าสามารถให้ประโยชน์ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันได้ แต่พวกผมไม่มี

“ผมรู้สึกดีใจนะที่ทักษิณกลับมาได้ ดีใจที่เค้าจะได้ต่อสู้คดีอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นคน แล้วก็หวังว่าผมและนักโทษการเมืองคนอื่นๆ จะได้รับสิทธิการประกันตัวออกไปต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนทักษิณด้วย

“จากเรื่องที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ ที่ทักษิณได้รับการดูแลจากตำรวจ เรือนจำอย่างดี มันสะท้อนถึงความเลื่อมล้ำชัดเจนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้น ผมสงสัยนะว่าถ้าเป็นคนธรรมดา คงโดนรวบตัว ใส่กุญแจมือ พาขึ้นรถราชทัณฑ์ไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันสะท้อนกระบวนการยุติธรรมที่เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน

“ผมคิดอยู่แล้วล่ะว่าทักษิณคงไม่ได้อยู่เรือนจำหรอก ผมยังพูดกับเพื่อนเลยว่า เดี๋ยวก็คงป่วยขอออกไปรักษาข้างนอก แล้วก็เกิดจริงๆ ไม่มีอะไรผิดเลย

“ผมผิดหวังกับกระบวนการยุติธรรมมากๆ คดีมันอาจจะต่างกัน แต่ก็เป็นนักโทษการเมืองเหมือนกัน แต่พวกผมแค่ประกันยังไม่ได้เลย พวกผมไม่ได้มีพฤติการณ์จะหลบหนีเลย แต่ทักษิณหนีไปแล้ว 17 ปี พวกผมถูกศาลขังมาเป็นเดือนๆ โดยไม่เคยได้รับสิทธิการประกันตัวสักที ตอนไม่ให้ก็อ้างแต่ว่าพวกผมจะหลบหนี ผมจะเอาปัญญาที่ไหนไปหลบหนี”

วุฒิยังได้พูดถึงกรณีการอดอาหารของวารุณีว่า “อยากส่งกำลังใจให้เค้ามากๆ ไม่อยากให้อดอาหารเลย แต่ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นวิธีเดียวที่เราทำได้ในนี้ ผมเป็นกำลังใจให้นะ”

ปัจจุบัน วุฒิถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีมา 155 วัน หรือกว่า 5 เดือนแล้ว