บันทึกเยี่ยมเวหา: ผมจะเป็นกำลังใจให้ สส. ที่อยู่ข้างประชาชนหลังกำแพงนี้

วันที่ 17 ส.ค. 2566 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยม “เวหา” ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 18 เดือน ในคดีมาตรา 112 กรณีใช้บัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝา ver.เกรี้ยวกราด” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคุกวังทวีวัฒนา และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกัน โดยในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เวหาถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลกเพื่อไปสืบพยานในคดีส่วนตัว ก่อนจะถูกย้ายกลับมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปัจจุบัน (21 ส.ค.) เขาถูกคุมขังมาแล้ว 96 วัน

.

เวหาบอกกับทนายความว่าสภาพร่างกายของเขายังโอเคอยู่ แต่รู้สึกแปลกๆ กับฟันของตัวเอง จึงลงชื่อหาหมอไปพักใหญ่แล้ว แต่ยังไม่ได้พบทันตแพทย์

เขาบอกกับทนายความว่าต้องการอ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อนำไปอธิบายกับคนในเรือนจำ แต่เรือนจำไม่อนุญาต

“เมื่อวันที่ 11 แม่กับน้ามาเยี่ยม ผมบอกเขาให้ฝากหนังสือรัฐธรรมนูญ 2560 มาให้หน่อย เพราะมีข้อมูลที่อยากนำไปใช้อ้างอิง โดยเฉพาะเรื่องบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับ สว. ที่ทุกคนให้ข้อมูลไม่เหมือนกัน ผมอยากรู้ว่า สว. ชุดนี้หมดวาระแล้วจะยังไงต่อ จะมีการเลือกชุดใหม่อีกมั้ย ยังไง เพราะทุกคนในเรือนจำมาถามผม ซึ่งรัฐธรรมนูญเนี่ย ผมว่ามันเป็นหนังสือความรู้ขั้นพื้นฐานเลยก็ว่าได้นะ แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้ส่งหนังสือเล่มนั้นมาให้ผมครับ เขาอ้างว่า มันเกี่ยวกับกฎหมาย จึงให้ส่งมาไม่ได้ ทั้งที่ญาติส่งพวกแมกกาซีนมาให้ผมทุกเดือนได้”

“หนังสือกฎหมายในแดนที่มีคือหนังสือกฎหมายตราสามดวง และพวก พ.ร.บ.ต่างๆ เช่น ควบคุมอาคาร กิจการพลเรือน การบริหารงาน แม้กระทั่งเรื่องเหมืองแร่ แต่อะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังอย่างกฎหมายแพ่งหรือกฎหมายอาญา ไม่มีเลย ผมทำงานในห้องสมุดแท้ๆ ยังไม่เคยเห็น”

“ผมเขียนคำร้องถามเลยนะ ว่าหนังสือเล่มนั้นมันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ก็บอกแค่ว่า มันเกี่ยวข้องกับกฎหมายเลยไม่ผ่าน แค่นั้นเลย”

เวหายังได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง จากนั้นได้แสดงความเห็นว่า

“ส่วนตัวผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับสถานการณ์ข้างนอกดี”

“เท่าที่ฟังยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่อย่างน้อย ผมก็เห็นนะว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนทางการเมืองที่หนักแน่นมาก เกิดมา 39 ปี ผ่านการเมืองมาก็เยอะ ผมยังไม่เคยเจอพรรคการเมืองที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสหรืออะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรไป เขาก็ยังยืนยันที่จะรักษาจุดยืนเอาไว้

“ผมเลยรู้สึกว่า การเมืองมันเริ่มเปลี่ยน อาจจะไม่ทันเห็นความเปลี่ยนแปลงในวันนี้ แต่ผมอยากให้ประชาชนจดจำความรู้สึกแย่ โกรธ หดหู่ ในวันนี้เอาไว้ เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ก็จัดให้หนักไปเลยครับ

“คือถ้าอำนาจมันเป็นแบบนี้ ก็อาจจะต้องยอมไปก่อน แต่สุดท้ายมันจะเปลี่ยน เพราะอำนาจที่แท้จริงเป็นของประชาชน ผมจะเป็นกำลังใจให้ สส. ที่อยู่ข้างประชาชนหลังกำแพงนี้ครับ (ยิ้ม) ต่อให้อยู่ข้างนอกก็อาจจะทำอะไรมากไม่ได้ เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจ เพื่อไทยก็แทบจะระเบิดตัวเองทิ้ง หวังว่าข้างนอกจะโกรธกันมากกว่าเดิม เลือกตั้งครั้งหน้าขอให้ลงโทษพวกเขามากกว่านี้นะครับ

“ขอให้เพื่อไทยสนุกกับการทำลายระบอบประชาธิปไตยก็แล้วกัน”

นอกจากนั้น เวหายังฝากข้อความถึงนักเคลื่อนไหวข้างนอกว่า

“ไม่ได้อยากให้หยุดสู้นะ แต่อยากให้หาวิธีต่อสู้ที่ไม่ต้องสูญเสียอิสรภาพ คือผมก็คิดไม่ออกหรอกว่าจะต้องทำยังไง แต่ผมเป็นห่วง หลายคนอยู่ข้างใน สภาพจิตใจก็ไม่เหมือนข้างนอก ข้างในก็จะพยายามเยียวยาสภาพจิตใจกันไปด้วย”

เขายังพยายามเชิญชวน สส. ให้เข้ามาเยี่ยมและรับฟังปัญหาของคนในเรือนจำ

“อยากให้สื่อสารไปอีกว่า คนในเรือนจำมีข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้พรรคก้าวไกลพิจารณา เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเหมือนกัน เขาจะเอาไปทำรึเปล่าไม่รู้ แต่อยากให้ สส. ของพรรค เข้ามารับข้อเสนอในเรือนจำได้ไหมครับ พวกเราคือเหยื่อในกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริงเลยนะ อีกอย่างนึงคือถ้ามี สส. เข้ามาหา น่าจะทำให้นักโทษทางการเมืองหลายคนมีกำลังใจมากขึ้นครับ”