‘เวหา’ เล่าประสบการณ์การถูกย้ายไปเรือนจำพิษณุโลก ต้องใส่ตรวน-ปลอกแขนสีแดงตลอดเวลา

วันที่ 4 ส.ค. 2566 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยม “เวหา” ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 18 เดือน ในคดีมาตรา 112 กรณีถูกกล่าวหาจากทวิตเตอร์ “ฟ้าฝา ver.เกรี้ยวกราด” และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกัน โดยในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เวหาถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลกเพื่อไปสืบพยานในคดีส่วนตัว ก่อนจะถูกย้ายกลับมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปัจจุบัน (7 ส.ค.) เขาถูกคุมขังมาแล้ว 81 วัน  

ทนายความสังเกตผ่านทางหน้าจอคอนเฟอเรนซ์ว่าเวหาดูผอมลง ผิวคล้ำ และโทรมขึ้น เขาทักทายอย่างดีใจ สิ่งแรกที่เขาพูดถึงคือเรื่องความเป็นอยู่ในเรือนจำพิษณุโลก

“จำได้ว่าวันเดียวกับที่คดีพี่เอกชัยตัดสิน น่าจะวันที่ 11 ก.ค. มั้ง ผมถูกเบิกตัวไปศาลอาญา เจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าศาลจังหวัดพิษณุโลกขอเบิกตัวผมไปสืบพยานคดีส่วนตัว ซึ่งวันที่ 18 ก.ค. ผมมีนัดสืบพยานคดี ม.112 ที่ศาลอาญา กรุงเทพ เขาพิจารณาแล้วเห็นว่าด้วยระยะเวลาเท่านั้น ผมสามารถไปสืบพยานที่นู่น แล้วก็กลับมาทันสืบพยานต่อที่กรุงเทพได้ ก็เลยส่งผมไปที่เรือนจำพิษณุโลก

“ผมไม่โอเคมาก ที่เรือนจำพิษณุโลกปฏิบัติกับผมแย่ยิ่งกว่าที่เรือนจำพิเศษนี่อีก คือตอนผมอยู่เรือนจำนี้ ผมต้องใส่ปลอกแขนสีแดง ซึ่งมันหมายถึงผู้ต้องขังคดีสำคัญ ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ต้องตามถ่ายรูป แต่ไม่ได้มีแค่ผมที่ใส่ คนดังหลายคนที่เข้าเรือนจำก็ใส่เหมือนกัน คือเค้าแค่จะดูว่าคุณอยู่ตรงไหนแค่นั้นแหละ 

“แต่ที่เรือนจำพิษณุโลก การใส่ปลอกแขนแดง มันคือนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง ผมถูกส่งตัวไปนอนห้องเดียวกับนักโทษคดีฆ่าบุพการี ฆ่าทุกรูปแบบเลย แถมยังต้องใส่ตรวนตลอดเวลา ออกไปศาลก็ต้องเดินลากตรวนไป 

“ผมเองก็ไม่เคยใส่ตรวนมาก่อน มันหนักและรบกวนการใช้ชีวิตมาก ผมทักท้วงเจ้าหน้าที่แล้วว่าคดีของผมมันเป็นคดีการเมือง แต่เขาก็บอกว่า มันเป็นคดีร้ายแรง ต้องใส่

“เรือนจำพิษณุโลกเป็นเรือนจำใหญ่ ผู้ต้องขังทุกคดีมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นคดีฆ่า ค้ายา ฉัอโกง อยู่ที่เดียวกันหมด ผมต้องออกไปฝึกวินัย ยืนตากแดดจนตัวลอกไปหมด อาหารก็ซื้อไม่ได้ ผมต้องกินข้าวหลวงทุกมื้อ น้ำที่ใช้ในเรือนจำก็สูบมาจากคลอง ไม่มีการกรองอะไรเลย สุขอนามัยแย่กว่าที่นี่มาก แล้วเขายังยึดของจำเป็นที่ผมเอาไปด้วยทั้งหมดเลย พอกลับมาผมก็เลยต้องหาซื้อใหม่”

“ ผมได้กลับมาก็ดีใจนะ คือถ้าคุณภาพชีวิตที่เรือนจำนี้มันต่ำมากแล้ว ที่เรือนจำพิษณุโลกคือติดลบอะ”

การถูกขังที่เรือนจำพิษณุโลก ยังทำให้เวหาถูกนำตัวกลับมาสืบพยานคดี ม.112 ที่กรุงเทพฯ ไม่ทัน คดีของเขาจึงถูกเลื่อนไปสืบพยานช่วงปลายปีแทน

“วันที่ 18 ก.ค. ศาลอาญาคอนเฟอเรนซ์มาที่เรือนจำพิษณุโลกเลยนะ ถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมส่งตัวผมมาไม่ทัน ตอนที่เขาต้องการให้ส่งตัวผมไปสืบที่พิษณุโลก เรือนจำกรุงเทพยังส่งตัวให้ทันตามกำหนดเวลาเลย คือผมรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิษณุโลกไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอไปสืบไม่ได้ ศาลก็เลื่อนไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. ตอนนี้เขาจะไม่เบิกตัวผมไปที่เรือนจำพิษณุโลกแล้วครับ แต่จะตอนเฟอร์เรนซ์มาแทน”

นอกจากนั้นเวหาได้แจ้งว่าเขาได้ขอถอนประกันตัวเองในคดีอื่นๆ ซึ่งค้างอยู่แล้ว โดยเวหาถูกกล่าวหาคดีมาตรา 112 รวมทั้งหมด 3 คดี โดยที่อีก 2 คดี ยังอยู่ระหว่างรอการสืบพยานในศาล

“อยากให้มันมีวันจำครับ แต่เรื่องยื่นอุทธรณ์คดี ให้ทนายยื่นได้เลย ส่วนเรื่องยื่นประกันก็ยื่นได้เลยครับ ตามความเหมาะสม ผมไม่ได้คาดหวังเรื่องอภัยโทษ คดีเลยไม่ต้องเด็ดขาดอะไร

“พูดถึงเรื่องอภัยโทษ วันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ไม่มีการอภัยโทษเลย ผู้ต้องขังก็เลยสงสัยกัน ผมเลยได้โอกาสอธิบายว่า การอภัยโทษถึงแม้จะทำในนามกษัตริย์ก็จริง แต่กษัตริย์ไม่ได้สั่งมาโดยตรง ครม. จะเป็นคนส่งให้เซ็น แต่ตอนนี้ เรายังไม่ได้รัฐบาลไง เลือกนายกฯ ยังไม่ได้เลย เรื่องอภัยโทษเลยไม่มี เขาก็ถามกันใหญ่ว่า เออ แล้วทำไมล่ะ”

เวหายังได้สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองและการตั้งรัฐบาล เขาเล่าว่า “สิ่งที่ซีเรียสตอนนี้ คือทุกคนมาถามผมเรื่องข้างนอก (หัวเราะ) มันมีข่าวลือว่า เพื่อไทยผลักก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน … อ่าว เรื่องจริงเหรอครับ ผมอยากเข้าใจว่าทำไมเพื่อไทยถึงตัดสินใจแบบนี้”

เมื่อรู้ว่า มาตรา 112 เป็นหนึ่งในข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้เพื่อขัดขวางการตั้งรัฐบาลจากเสียงประชาชน เวหาฝากข้อความถึง สส. พรรคต่างๆ ว่า

“ฝากบอก สส. ทุกพรรคเลย พรรคไหนก็ได้ ถ้าว่าง มาเยี่ยมผู้ต้องขังมาตรา 112 ในเรือนจำหน่อย กล้ามารึเปล่า ผมจะแต่งตัวหล่อๆ รอเลย อยากอธิบายให้ฟังว่ามาตรา 112 มันมีปัญหายังไง”

“สิ่งที่ผมประมวลได้ ณ เวลานี้ คือมาตรา 112 ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการทำลายระบบรัฐสภาด้วย ไร้สาระมาก มันมีคนที่ถูกจองจำด้วยมาตรา 112 อยู่ เขา (สส. – สว.) ไม่ได้อยู่ในศาลเหมือนผม มาตรานี้ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงหรือเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น แค่พิสูจน์ว่าเป็นคนโพสต์จริงก็มีความผิดแล้ว ผมจึงต้องรับสารภาพเพื่อที่จะได้ลดโทษ แล้วจะเอาคนอย่างผม คนอย่างน้ำ หรือคนที่โดนมาตรา 112 คนอื่นมาคุมขังในเรือนจำจริงๆ เหรอ 

“ผมไม่ได้มีอิสรภาพในการเรียกร้องอะไรแล้ว ผมเลยมอบอำนาจให้พวกคุณไปช่วยเรียกร้องให้ ตอนนี้เหมือนทุกคนปกป้องมาตรา 112 มาก ประเทศชาติติดหล่มขนาดนี้ ยังมองไม่เห็นปัญหากันอีกเหรอ

เวหาขอทิ้งท้ายถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ข้างนอกว่า “อยากให้เข้ามาเยี่ยม มาพูดคุยกัน ถ้ามีอะไรที่คนข้างในสามารถเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับคนข้างนอกได้ ผมก็ยินดีทำ แล้วก็ขอฝากถึงคุณทักษิณว่า พวกผมรอคุณทักษิณอยู่นะครับ ทุกคนอยากเจอ (หัวเราะ)”

X