คดีที่ 8! “เบนจา” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.112 อีกคดี จากการปราศรัยถึงนายทุน ขุนศึก ศักดินา ใน #ม็อบ3กันยา64

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2566 เวลา 16.00 น. ที่ สน.ลุมพินี เบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามหมายเรียก ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการปราศรัยที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ใน #ม็อบราษฎรไม่ไว้วางใจมึง

สืบเนื่องจาก #ม็อบ3กันยา64 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ได้จัดกิจกรรม “ราษฎรไม่ไว้วางใจมึง” ที่แยกราชประสงค์ คู่ขนานไปพร้อมกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร และยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง ได้แก่ 1. ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง 2. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ 

ย้อนอ่านเหตุการณ์ชุมนุม >> #ม็อบ3กันยา : #ราษฎรไม่ไว้วางใจมึง : Mob Data Thailand

ในคดีนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 เบนจาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหามาก่อนแล้ว โดยถูกแจ้งข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกีดขวางทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 ร่วมกับผู้ชุมนุมอื่นอีกรวม 16 คน โดยคดียังอยู่ในชั้นสอบสวนมาเกือบ 2 ปีแล้ว

ต่อมา ตำรวจแจ้งว่าได้ส่งหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้เบนจามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แต่เบนจายังไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าว หลังจากนั้นตำรวจจึงส่งหมายเรียกครั้งที่ 2 เบนจาจึงเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามหมายเรียกที่ได้รับ โดยพบว่ามี ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ สมาชิกกลุ่มสมาชิกศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา 

พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี ได้แจ้งถึงเหตุในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า ภายหลังการแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเกี่ยวกับความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้พิจารณาข้อความที่ได้จากการถอดเทปปราศรัยของเบนจาที่ปราศรัยเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 แล้วมีมติว่า การที่เบนจาขึ้นปราศรัยด้วยข้อความดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้บรรยายพฤติการณ์โดยระบุข้อความจากการถอดเทปคำปราศรัยของเบนจาโดยละเอียด รวม 2 หน้าครึ่งของกระดาษเอสี่ มีใจความสรุปกล่าวถึง ความหวังและความฝันของตนที่จะเห็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากการเป็นนายกฯ จากการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบาน คนทุกคนเท่าเทียมกันและไม่มีใครเหนือกว่าใคร และกล่าวย้ำถึงอำนาจที่แท้จริงว่าเป็นของประชาชนทุกคน มิใช่ ส.ส., ส.ว., นายทุน, ขุนศึก หรือศักดินาแต่อย่างใด และกล่าวถึงความเกี่ยวโยงของ นายทุน ขุนศึก และศักดินา ที่คอยค้ำจุนกันและกัน โดยมีข้อความบางตอนที่กล่าวถึงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10

ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เบนจาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัวไว้ 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 ‘บิ๊ก’ เกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกรายได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติมจากการปราศรัยในการชุมนุมครั้งเดียวกันนี้แล้ว

ปัจจุบัน (17 ส.ค. 2566) จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีผู้ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีมาตรา 112 ในระลอกหลัง จากการแสดงออกทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย 255 คน ใน 275 คดี ซึ่งเบนจาถูกดำเนินคดีในข้อหานี้ถึง 8 คดีแล้ว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊ก’ เกียรติชัย ถูกแจ้งข้อหา ม.112 คดีที่ 4 เหตุปราศรัยถึงสถาบันกษัตริย์ ตั้งแต่ #ม็อบ3กันยา64

สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-66

X