ศาลเยาวชนฯ พิพากษาปรับคนละ 4 พัน คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของ 3 เยาวชนร่วม Rainbow Carmob ปี 64

วันที่ 28 มิ.ย. 2566 เวลา 9.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของ 3 เยาวชนนักกิจกรรม ได้แก่ “โมโม่” ขณะเกิดเหตุอายุ 16 ปี สังกัดกลุ่ม Secure ranger (จำเลยที่ 1),  “ต้นอ้อ” ขณะเกิดเหตุอายุ 16 ปี สังกัดกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกและกลุ่มภาคี save บางกลอย (จำเลยที่ 2) และ “ปิง” (นามสมมติ) ขณะเกิดเหตุอายุ 15 ปี สังกัดกลุ่ม Secure ranger (จำเลยที่ 3) เหตุจากการเข้าร่วมกิจกรรม Rainbow Carmob #ขบวนกีv.1 #แหกกีไปไล่คนจัญไร จัดโดยกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564

ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2564 พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะโดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385 และนำรถเข้าขบวนแห่ไปตามทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ กับเยาวชนทั้งสามคน โดยทั้งสามคนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมาในวันที่ 30 มี.ค. 2565 วีระยุทธ เหลืองประเสริฐ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 4) ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

คดีนี้ “โมโม่-ต้นอ้อ-ปิง” ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และศาลได้สืบพยานโจทก์ไปตั้งแต่วันที่ 24-25 พ.ค. 2566 ขณะที่นัดสืบพยานจำเลยไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

วันนี้ (28 มิ.ย. 2566) เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 1 ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีและอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้

พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พยานโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสามอยู่ในที่เกิดเหตุ และจำเลยก็เบิกความรับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง โดยรวมตัวกันเกินกว่า 5 คน 

เห็นว่า แม้มีการรับรองการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 แต่เสรีภาพดังกล่าวก็มีข้อยกเว้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อยังไม่มีกฎหมายยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในขณะนั้น จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับคนละ 4,000 บาท

ในความผิดตาม ป.อ. มาตรา 385 วางสิ่งกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเพียงจำเลยที่ 3 ที่มีภาพปรากฏชัดว่า ได้ร่วมปูผ้ากีดขวางทางจราจร ลงโทษปรับจำเลยที่ 3 จำนวน 400 บาท ส่วนจำเลยที่ 1 และ 2 ให้ยกฟ้องข้อหานี้

ในความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ยกฟ้องข้อหานี้

รวมทั้งสามคนต้องชำระค่าปรับต่อศาลเป็นเงิน 12,400 บาท

ทั้งนี้ ในกิจกรรมคาร์ม็อบ #ขบวนกีv.1เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 นอกจากเยาวชนทั้งสามคนแล้ว ยังมีสมาชิกกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกอีก 3 คน ถูกกล่าวหาในลักษณะเดียวกัน และถูกสั่งฟ้องคดีที่ศาลแขวงพระนครใต้ โดยคดีมีกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 14, 19-21, 26-27 ก.ค. 2566 

ขณะเดียวกันกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในช่วงปี 2564 ซึ่งมีรวมกันทั้งหมด 4 ครั้ง ตำรวจยังมีการดำเนินคดีต่อผู้จัดและผู้เข้าร่วมในลักษณะนี้ทุกครั้งอีกด้วย

X