6 มิ.ย. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดสืบพยานในคดีของ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ผู้ถูกฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการโพสต์ข้อความถึงสถาบันกษัตริย์ในการเคลื่อนไหว “ราษฎรสาส์น” เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563
สำหรับการสืบพยานนัดนี้เป็นการสืบพยานจำเลย ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 1-2 มิ.ย. 2566 ศาลอาญาได้ทำการสืบพยานโจทก์ หลังเลื่อนนัดคดีให้เร็วขึ้นเอง โดยจำเลยไม่มีทนายความเข้าร่วมในกระบวนการพิจารณา และไม่อนุญาตให้เลื่อนนัดคดีออกไป ขณะที่ชลธิชาได้ปฏิเสธกระบวนการดังกล่าว ไม่ลงนามในเอกสารใดๆ
วันนี้ ช่วงเช้าที่ห้องพิจารณา 905 มีประชาชนจำนวนหนึ่งมาร่วมให้กำลังใจชลธิชา และมีเจ้าหน้าที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์เข้าร่วมสังเกตการณ์คดี
เวลา 11.00 น. ศาลออกนั่งพิจาณาคดี ก่อนเริ่มการสืบพยานศาลได้อ่านคำร้องที่ทางจำเลยยื่นเข้ามาว่า ในคดีนี้ทนายจำเลยทั้งสองติดว่าความที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดีอื่น จึงไม่สามารถมาตามนัดหมายได้ อีกทั้งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลยไม่สามารถสืบพยานได้โดยไม่มีทนายความ จึงขอให้เลื่อนคดีออกไปพร้อมกับกำหนดวันนัดหมายใหม่
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากการตรวจสอบในระบบบริการข้อมูลคดีศาลยุติธรรม ปรากฎว่าทนายจำเลยทั้งสองติดว่าความในคดีมาตรา 112 กรณีทำกิจกรรมสวมครอบท็อปเดินสยามพารากอน ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ในช่วงเวลาดังกล่าวจริง ซึ่งเป็นคดีที่นัดไว้ก่อนแล้ว กรณีจึงมีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนนัดวันนี้ได้ รวมทั้งนัดในวันที่ 8-10 ส.ค. 2566 ซึ่งทนายความจำเลยมีนัดคดีที่ศาลอาญาตลิ่งชัน แต่การสืบพยานจำเลยในวันที่ 11 ส.ค. 2566 ตามที่นัดไว้ใหม่ ไม่ปรากฎว่าทนายจำเลยทั้งสองมีเหตุขัดข้องแต่อย่างใด จึงให้คงนัดตามเดิมไว้
ทั้งนี้ ในส่วนที่จำเลยขอให้ออกหมายเรียกพยานโจทก์มาเบิกความใหม่นั้น ศาลเห็นว่า การพิจารณาคดีในวันที่ 1-2 มิ.ย. เป็นไปโดยชอบโดยกฎหมาย ไม่อนุญาตให้พยานโจทก์มาเบิกความใหม่ แต่จะอนุญาตให้ทนายจำเลยถามค้านพยานโจทก์เหล่านั้นทั้งหมด โดยศาลอ้างว่า หลักฐานที่ทนายจำเลยทั้งสองติดว่าความในคดีนี้เพิ่งปรากฎข้อเท็จจริงในสำนวน จึงไม่มีเหตุให้พยานโจทก์มาเบิกความใหม่
ด้านชลธิชาแถลงต่อศาลยืนยันว่า หลักฐานทุกอย่างได้ปรากฎตามสำนวนตั้งแต่สืบพยานวันแรก โดยแจ้งทุกอย่างไปแล้ว เหตุใดแจ้งไปแล้ว ศาลยังนัดสืบพยานในวันดังกล่าว ตนไม่ได้มีเจตนาจะเลื่อนคดี เพียงแค่ต้องการยืนยันในหลักการเท่านั้น เพราะถ้ามันเกิดข้อผิดพลาดในคดีของเรา ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคดีอื่น
ต่อมา ศาลได้ให้ออกหมายเรียกพยานโจทก์ทั้งหมด 4 ปาก มาให้ฝ่ายจำเลยถามค้านใหม่ในนัดวันที่ 11 ส.ค. 2566
ทั้งนี้ ศาลได้แจ้งกับผู้รับมอบฉันทะเพิ่มเติมว่า กรณีนี้ศาลได้บันทึกการพิจารณาคดีเป็นระบบวิดีโอ ซึ่งสามารถยื่นคำร้องขอดูบันทึกสืบพยานและนำไปศึกษาเพื่อใช้ถามค้านได้ในนัดต่อไปได้
.