ศาลแขวงดุสิตพิพากษาปรับ “วีรวิชญ์-โชคดี” คนละ 30,000 ร่วมคาร์ม็อบ10กรกฎา อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้ ชุมนุมได้เฉพาะสถานการณ์ปกติ

วันที่ 13 มี.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล และ ‘อาเล็ก’ โชคดี ร่มพฤกษ์ ศิลปินราษฎร จากกรณีร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ (Carmob) เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยทั้งสองถูกฟ้องในข้อหา “ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 133 นํารถเข้าขบวนแห่ต่างๆ ไปตามทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานจราจร”

ย้อนอ่านคำฟ้อง>> อัยการฟ้อง 6 คดี การเมือง: โพสต์หมิ่นประยุทธ์-การ์ดวีโว่ ถูกกล่าวหาว่าเป็นอั้งยี่ซ่องโจร-คาร์ม็อบ10กรกฎาคม 

ที่ห้องพิจารณา 510 เวลาประมาณ 10.00 น. ศาลออกนั่งอ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า ขณะเกิดเหตุมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ พร้อมกับมีข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองเข้าร่วมชุมนุมจริง และในการเดินทางเข้าร่วมชุมนุม จำเลยได้มีการร้องเพลงปราศรัยขี้นรถแห่ในสถานที่มีลักษณะแออัด

โดยการชุมนุมดังกล่าว ผู้ชุมนุมอาจไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมชุมนุมโดยการขับรถแต่อย่างใด และในระหว่างที่ชุมนุมไม่ได้มีการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัดหรือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินปะปนกันไปมาระหว่างทำกิจกรรม ไม่ได้อยู่ในรถยนต์ตลอดเวลา ตามที่ “สมบัติ บุญงามอนงค์” ประกาศโพสต์เชิญชวนร่วมคาร์ม็อบ

แม้จะมีคดีคาร์ม็อบที่ยกฟ้องและสั่งไม่ฟ้องหลายคดี แต่ศาลเห็นดังนี้ว่า การชุมนุมนั้นสามารถทำได้ เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นในสถานการณ์ปกติ หากการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าวมีการกระทำส่วนใดส่วนหนึ่งที่ละเมิดต่อกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองประโยชน์สาธารณะด้านอื่น หรือเสรีภาพของประชาชนโดยทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ผู้กระทำผิดย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

.

พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงโทษปรับคนละ 30,000 บาท และวีรวิชญ์มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 133 ฐานนํารถเข้าขบวนแห่ไปตามทางโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย ลงโทษปรับ 500 บาท รวมปรับวีรวิชญ์ 30,500 บาท และปรับโชคดี 30,000 บาท

ทั้งนี้ ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท และ พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 133 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

กิจกรรมคาร์ม็อบ 10 ก.ค. 2564 มี  “บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นแกนนำจัดกิจกรรมคาร์ม็อบและเชิญชวนให้คนมาเข้าร่วมการชุมนุม โดยพฤติการณ์ที่โชคดีถูกกล่าวหาคือ แสดงดนตรีร้องเพลงในกิจกรรมชื่อว่า “ยืนยัน ดันเพดาน พูดด้วยหัวใจ ด้วยเสียงเพลง” ที่บริเวณริมทางเท้าข้างร้านแมคโดนัลด์ ขณะที่วีรวิชญ์ถูกกล่าวหาว่าได้นํารถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลเข้าร่วมขบวนแห่ โดยมีการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ติดตามกันไปเป็นขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร บีบแตรรถส่งเสียงดัง มุ่งไปจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ จนสิ้นสุดที่สี่แยกราชประสงค์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร 

X