ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาคดี ‘ดนัย’ โพสต์ไม่เจอจนท.ตรวจคัดกรองที่สุวรรณภูมิ เห็นว่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ผิด พ.ร.บ.คอมฯ เตรียมสู้ฎีกาต่อ

17 ม.ค. 2566 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีของดนัย อุศมา ศิลปินกราฟฟิตี้จากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกกล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (2) จากกรณีใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ “Zen Wide” โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 ว่าได้เดินทางกลับจากเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เข้าประเทศไทยโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ

คดีนี้ ดนัยได้ถูกจับกุมที่แกลเลอรี่ส่วนตัวในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2563 ก่อนนำตัวมาแจ้งข้อหาที่ บก.ปอท. ในกรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี โดยอ้างว่าสิ่งที่ดนัยโพสต์ไม่เป็นความจริง และทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก เสียความเชื่อมั่นต่อสนามบินสุวรรณภูมิ ดนัยได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี โดยใช้หลักทรัพย์ 100,000 บาท

จนเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีนี้ โดยเห็นว่าการลงข้อความของจำเลย เป็นการลงไปตามความเป็นจริง ไม่ได้มีเจตนาทำให้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน หรือเจตนาโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา จึงพิพากษายกฟ้องและให้คืนของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ให้กับจำเลย

.

.

ต่อมา พีระศักดิ์ มหาวัฒนางกูล พนักงานอัยการ ได้ยื่นอุทธรณ์คดี โดยสรุปแย้งว่าข้อความที่จำเลยโพสต์นั้นเป็นเท็จ เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนเป็นกล้องจับภาพวัดอุณหภูมิในร่างกายบริเวณที่ผู้โดยสารผ่าน แม้จะมีพยานปากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเบิกความว่าจำเลยยน่าจะไม่เห็นจุดคัดกรองดังกล่าว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คัดกรองของสนามบินเบิกความว่ามีเจ้าหน้าที่คอยบอกให้ผู้โดยสารให้เข้ามายังจุดตรวจคัดกรอง

ประกอบกับข้อเท็จจริงที่รู้กันทั่วไป ว่าท่าอากาศยานเป็นช่องทางคมนาคมสำคัญของประเทศ ย่อมมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ จึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยจะไม่พบเจ้าหน้าที่คนใดเลยตามที่อ้าง  การที่จำเลยโพสต์ภาพ และข้อความย่อมทำให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่มีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ย่อมส่งผลให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความตื่นตระหนกได้ จำเลยกระทำโดยสำนึกรู้ในการกระทำว่าภาพดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง มิใช่เข้าใจโดยสุจริตและเชื่อเช่นนั้น

ขณะที่ฝ่ายจำเลยก็ได้โต้แย้งอุทธรณ์ดังกล่าวของโจทก์เช่นกัน โดยยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ จำเลยไม่เห็นว่ามีจุดคัดกรองและไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งหรือดำเนินการตรวจสุขภาพจำเลยแต่อย่างใด ปรากฏตามภาพในกล้องวงจรปิดในคดี ที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็ไม่พบว่ามีใครให้ไปมองหรือหยุดให้ตรวจอุณหภูมิ ทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้ไปตรวจอุณหภูมิ สอดรับกับคำเบิกความของพยานโจทก์หลายปาก จำเลยจึงได้โพสต์ข้อความตามความเป็นจริง

ทั้งเนื่องจากจำเลยได้เดินทางกลับมาจากประเทศสเปน ที่ขณะนั้นมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สูง และพบว่าที่สนามบินทั้งที่สเปนและอาบูดาบีซึ่งแวะเปลี่ยนเครื่องบิน มีการคัดกรองเกี่ยวกับโควิดอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังได้รับทราบจากประกาศของสถานทูต ณ กรุงมาดริด ว่าผู้เดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องมีการตรวจสุขภาพ กรอกแบบสอบถาม และถูกกักตัว แต่เมื่อไม่พบเห็น จำเลยจึงได้โพสต์บอกเล่าประสบการณ์ ไม่ได้มีเจตนาโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ แต่เป็นการกระทำโดยเข้าใจโดยสุจริต

.

ต่อมาศาลได้กำหนดนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในวันนี้

ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อย่างรวดเร็ว โดยสรุปได้พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เห็นว่าจำเลยไม่สามารถอนุมานได้เองว่าไม่มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิและจุดคัดกรอง และหากจำเลยไม่เห็นก็ควรสอบถามในเบื้องต้น

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อความที่จำเลยโพสต์ หาใช่มีลักษณะเป็นไปเพื่อการบอกเล่าเหตุการณ์ของการเดินทางของจำเลยจากต่างประเทศสู่ประเทศไทยเท่านั้น การที่จำเลยโพสต์ข้อความโดยเปิดเป็นสาธารณะ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกได้ ยิ่งในสถานการณ์ที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดหนัก และมีผู้คนล้มตายจากโรคดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลย ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นลงโทษจำคุก 1 ปี และ ปรับ 50,000 บาท เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ส่วนโทรศัพท์ที่ใช้โพสต์ข้อความ ศาลเห็นว่าเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด ให้ริบไว้

หลังฟังคำพิพากษา ทนายความและดนัยได้หารือว่าจะเตรียมฎีกาคำพิพากษานี้ต่อไป

.

สำหรับดนัย หรือ Mr.Zen ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นศิลปินกราฟิตี้ที่จัดแสดงและส่งงานไปจำหน่ายในต่างประเทศอยู่เสมอ ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ดนัยก็เดินทางไปแสดงงานศิลปะที่เมืองบาร์เซโลนา การถูกดำเนินคดีทำให้เขาได้รับผลกระทบ ต้องเปลี่ยนที่อยู่ และครอบครัวต้องปรับตัวใหม่ ทั้งเขายังมีอาการหวาดระแวงจากการถูกเจ้าหน้าที่ไปจับกุมถึงบ้านด้วย

“ผมนอนสะดุ้งอยู่หลายเดือน เนื่องจากไม่เคยถูกดำเนินคดี”

“ปกติใครทำดีผมก็อวยอยู่แล้ว ใครทำไม่ดีผมก็ด่า มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าที่เราจะวิพากษ์วิจารณ์ ถึงเป็นพ่อผม ถ้าทำอะไรไม่ดี ผมก็พูด” ดนัยเคยให้สัมภาษณ์กับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

.

ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์ดนัย และบันทึกการสืบพยานในคดีนี้

คดีความเปลี่ยนชีวิตของ ‘ดนัย’ ศิลปินกราฟิตี้ ผู้โพสต์ไม่พบ จนท. คัดกรองที่สุวรรณภูมิ

เปิดบันทึกการสืบพยานคดี พ.ร.บ.คอมฯ “ดนัย” ศิลปินโพสต์สุวรรณภูมิไม่มีจนท.คัดกรองโควิด ก่อนศาลพิพากษา

ผู้รายงานพิเศษ UN รับเรื่องร้องเรียน ‘ดนัย’ ศิลปินโพสต์ติงการคัดกรองโควิด สุวรรณภูมิ

.

X