ศาลยกฟ้องทุกข้อหา 1 ในจำเลยคดีปาระเบิดสามย่านมิตรทาวน์ แต่ลงโทษอีก 2 คนจำคุก 3 ปี 6 เดือน ข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน-ครอบครองระเบิด ให้ประกันตัวสู้คดีชั้นอุทธรณ์

1 พ.ย. 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้อ่านคำพิพากษาในคดีที่ณัฐสุต (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี, พรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี และ วีรยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ตกเป็นจำเลยจากเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างการชมุนุม #ม็อบ16มกรา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ม.ค. 2564 

การชุมนุมที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 เป็นการชุมนุมที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ #ปล่อยเพื่อนเรา “การ์ดปลดแอก” 2 ราย ที่ถูกจับกุมระหว่างการจัดกิจกรรม “เขียนป้ายผ้า 112 เมตร” ในช่วงเที่ยง ซึ่งตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้เข้าควบคุมพื้นที่ และจับกุมผู้ร่วมชุมนุมเพิ่มอีก 4 ราย ในระหว่างที่ชุดควบคุมฝูงชนกำลังเดินบนถนนเพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ มีรายงานข่าวว่า มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นหน้าจามจุรีสแควร์ เกิดควันและประกายไฟ ผู้ร่วมชุมนุมและผู้สื่อข่าวต่างวิ่งเข้าหาที่ปลอดภัย 

คดีนี้มีการสืบพยานจำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ 16-19 ส.ค. และ 1 ก.ย. 2565 โดยมีพยานโจทก์ขึ้นเบิกความทั้งสิ้น 28 ปาก และมีพยานโจทก์ที่โจทก์และจำเลยรับข้อเท็จจริงกันได้ 12 ปาก 

>> จับตา! คำพิพากษาคดีปาระเบิดหน้าจามจุรีสแควร์ หลัง 3 จำเลยถูกฟ้อง “พยายามฆ่า จพง.” ทั้งที่ ตร.-ปชช.บาดเจ็บเล็กน้อย
.
คดีนี้โจทก์ฟ้องณัฐสุต, พรชัยและวีรยุทธ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2564 ใน 6 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด, พาอาวุธไปในเมือง, ร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต

เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณา 503 ศาลอ่านคำพิพากษาโดยสรุประบุว่า ผู้เสียหายทั้งห้าเบิกความ ในทำนองเดียวกันว่ามีการชุมนุมที่สามย่าน มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบ ขณะทำหน้าที่อยู่บริเวณหน้าห้างจามจุรีสแควร์มีคนปาระเบิดลงมา

พยานปากชูชีพ วงษ์บุญเพ็ง ตรวจสอบหาตัวผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดพบจำเลยทั้งสาม โดย ณัฐสุต (จำเลยที่1) ไปรับพรชัย (จำเลยที่ 2) จากบ้านเพื่อไปชุมนุมบริเวณเขตพญาไท มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพจำเลยที่1-2 ไว้ชัดเจน และย้ายไปชุมนุมที่สามย่านก่อนที่ พรชัยจะย้ายไปซ้อนรถจักรยานยนต์ วีรยุทธ (จำเลยที่ 3) ซึ่งไม่มีป้ายทะเบียนและเคลื่อนที่ไปปาระเบิดและหลบหนีไปตามบรรยายฟ้อง โดยมีชัยชนะ ศิริ เบิกความเกี่ยวกับเส้นทางหลบหนี อาณัต เข็มทอง , นิทัส มีทอง เบิกความเกี่ยวกับการจับกุมจำเลยทั้งสาม

พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันว่า จำเลยทั้งสามได้ไปร่วมชุมนุมที่สน.พญาไท ก่อนจะไปชุมนถมที่สามย่าน ประกอบกับการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลยังมีประวัติการใช้โทรศัพท์ใกล้ที่ชุมนุมและตามเสาสัญญาณตามเส้นทางการเคลื่อนที่ จำเลยไม่นำสืบและไม่สามารถนำสืบหักล้างข้อเท็จจริงข้อนี้ทำให้เห็นว่ามีการร่วมกันชุมนุมจนเหตุบานปลาย

การชุมนุมไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการปลุกระดม กิจกรรมที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเรียกร้องโดยทั่วไปเจือสมกับที่ณัฐสุตให้การในชั้นสอบสวนว่ารู้จักพรชัยเพราะมีแนวคิดทางการเมืองเดียวกัน และไม่ทราบว่ามีระเบิด โจทก์ไม่มีพยานนำสืบว่าณัฐสุต เกี่ยวข้องกับการปาระเบิดแต่อย่างใด

ส่วนพรชัยและวีรยุทธนั้น ระหว่างมีการสลายการชุมนุมที่สามย่าน มีการเปลี่ยนจากรถจักรยานยนต์ของณัฐสุตมารถของวีรยุทธ์เพื่อขับขึ้นไปบนสะพานวนไปมา ก่อนทำการปาจึงน่าเชื่อได้ว่าเจตนาต้องการขัดขวางการสลายการชุมนุมตามคำให้การที่ไว้ในชั้นสอบสวนของพรชัยและวีรยุทธ  วีรยุทธให้การว่าพรชัยพูดกับตนว่า “ผมไม่ไหวแล้วพี่” วีรยุทธเข้าใจอย่างดีว่าจะใช้ระเบิด จึงฟังได้ว่ามีการร่วมกันจะใช้ระเบิดทำอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่อยู่ล่างสะพาน เป็นการเล็งเห็นผล รับผิดฐานตัวการร่วม

สำหรับความผิดฐานฆ่าโดยไตรตรองนั้น ศาลเห็นว่า พยานโจทก์ปากสมพร สุขสะอาดเบิกความว่ามีแรงระเบิดสามารถทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้พยานโจทก์ปากนี้ยังตอบคำถ้ามค้านทนายจำเลยเรื่องสารที่ใช้ในการทำระเบิดที่สัมพันธ์กับแรงระเบิด

นอกจากนี้ผู้เสียหายที่ 1 2 4 5 โดยเฉพาะ ผู้เสียหายที่ 4 ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่ระเบิดตกที่สุดได้รับบาดแผลไม่รุนแรง ศาลเห็นว่าเจตนาของพรชัยกับวีรยุทธมีเพียงทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ไม่มีเจตนาฆ่า เพราะพยานโจทก์สืบไม่ถึงว่าพรชัยกับวีรยุทธร่วมกันมีระเบิดทำร้ายร่างกายตำรวจควบคุมฝูงชนแต่อย่างใด การที่พรชัยมีระเบิดไว้ศาลเห็นว่าเป็นเจตนาส่วนตัวและมีโอกาสทำได้หลายครั้งแล้วแต่ไม่ทำ จึงน่าเชื่อว่าเหตุการณ์ปาระเบิดเกิดขึ้นหลังเรียกร้องให้ปล่อยตัวเป็นการกระทำเฉพาะหน้า

พิพากษายกฟ้องณัฐสุต (จำเลยที่ 1) ทุกข้อหาส่วนพรชัยและวีรยุทธ (จำเลยที่ 2 และ3) ศาลพิพากษายกฟ้องข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทําการตามหน้าที่ และผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (2), (4) แต่ลงโทษตามข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 4, 38, 55, 74, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ มาตรา 7,15 วรรคหนึ่ง 42 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 มีวัตถุระเบิดนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาต และร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท พิพากษาลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี 

ข้อหาตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221 ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นอันตรายต่อผู้อื่น และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ประกอบ 296 ฐานร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน 

และข้อหาตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ฐานร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ลงโทษปรับคนละ 1,000 บาท 
.

รวมทั้งหมดจำคุกทั้งสองคน คนละ 3 ปี 6 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท ทั้งนี้จำเลยที่ 2 และ 3 ให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างในชั้นสอบสวน จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 16 เดือน ปรับ 500 บาท (หรือประมาณ 2 ปี 4 เดือน)

ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา ทนายความได้ยื่นประกันพรชัยและวีรยุทธโดยใช้หลักทรัพย์เดิมในชั้นพิจารณาคือ คนละ 400,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ 

ต่อมาเวลา 14.00 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 2 คน เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา! คำพิพากษาคดีปาระเบิดหน้าจามจุรีสแควร์ หลัง 3 จำเลยถูกฟ้อง “พยายามฆ่า จพง.” ทั้งที่ ตร.-ปชช.บาดเจ็บเล็กน้อย

อัยการยื่นฟ้อง 6 ข้อหากับ 3 นศ.-ปชช. คดีปาระเบิดสามย่านมิตรทาวน์ โทษถึงประหารชีวิต ศาลให้ประกันวงเงิน 400,000 ไม่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม

ตร.แจ้งข้อหา “พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” 3 ปชช-นศ. คดีปาระเบิดสามย่านมิตรทาวน์ 

X