‘ไม่อยากให้ไปรับนาย’  ตร. ตามหา-เค้นขอข้อมูล นศ.ม.อุบลฯ ถึงหอพัก ขณะประวิตรไปดูน้ำท่วมศรีสะเกษ

วันที่ 12 ต.ค. 2565  ระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ศรีสะเกษ แต่กลับมีสถานการณ์คุกคามนักศึกษา- นักกิจกรรม ที่ จ.อุบลราชธานี อย่างน้อย 2 ราย

ทราย (นามสมมติ) นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ให้ข้อมูลว่า รปภ.ของหอพักแจ้งว่า พ่อกับแม่ติดต่อเธอไม่ได้ ทำให้ทรายแสดงความสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไร เพราะเธอกับพ่อแม่คุยโทรศัพท์กันตลอด และที่บ้านไม่ได้ยุ่งยากหรือเป็นกังวลกับการอยู่หอพักของทรายด้วย

ก่อน รปภ.จะเปิดเผยความจริงว่า คนที่บอกมาคือช่างซ่อมรถละแวกหอพัก ที่ถูกตำรวจกดดันให้มาถามหาทราย เมื่อสอบถามรายละเอียด ทรายจึงทราบว่า ช่วงเช้ามีตำรวจ 2 นาย มาที่หอพักและถามหาทรายว่าอยู่หรือไม่ จากนั้นได้ขอดูทะเบียนนักศึกษาที่พักในหอ แต่ รปภ.ไม่ให้ข้อมูล เพราะเป็นความปลอดภัยของนักศึกษา ทรายคาดว่า ตำรวจคงไปที่สำนักงานหอพักนักศึกษา เลยทราบว่าทรายอยู่หอพักนี้ 

ทรายได้ข้อมูลจากช่างซ่อมรถด้วยว่า ตำรวจใช้ภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ ไปถามช่างว่า ภาพนี้ใช่ทรายหรือไม่ และตำรวจให้ช่างซ่อมรถโกหก รปภ.ว่าพ่อแม่ติดต่อทรายไม่ได้ เลยให้ขึ้นมาดูว่าทรายยังอยู่หรือไม่ ทรายจึงได้ทราบเรื่องทั้งหมด โดยตำรวจบอกผ่าน รปภ.ไปว่าไม่อยากให้ไปรับนายเขาอีก นายเขาจะมา 

สำหรับเหตุที่เกิด แม้ทรายไม่ได้พบกับตำรวจโดยตรง ไม่ทราบสังกัดตำรวจว่ามาจากหน่วยงานไหน 

เธอเองก็ไม่ได้ตกใจ เพราะเห็นพี่เห็นเพื่อนต่างพบเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนหน้าแล้ว 

“ถ้ารำคาญนี่รำคาญมาก เขาจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับหนูขนาดนั้น” ทรายระบายความรู้สึกไว้ตอนหนึ่ง

ทรายเล่าอีกว่า เธอน่าจะถูกติดตามตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาอุบลฯ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2565 วันดังกล่าวทรายเดินทางไปดูสถานการณ์ ก่อนจะถูกตำรวจบังคับถ่ายภาพบัตรประชาชนของเธอไว้พร้อมกับเพื่อนอีก 3 ราย กับเรื่องที่ถูกตำรวจติดตามครั้งนี้ ทรายทราบดีว่า พล.อ.ประวิตร จะมาลงพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน และไม่ได้สนใจจะไปด้วย เพราะอยู่ในช่วงสอบปลายภาคของมหาวิทยาลัย

ปัจจุบันทรายเรียนอยู่ชั้นปี 2 เริ่มสนใจการเมืองตอนช่วง ม.ปลาย โดยเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว จากเรื่องขนส่งสาธารณะในจังหวัดบ้านเกิด คือ จ.ยโสธร ซึ่งการเดินทางลำบากหากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะหากอยู่ต่างอำเภอ สุดท้ายโยงไปถึงเรื่องการเมืองการบริหารประเทศ และพบว่าทุกสิ่งอย่างข้องเกี่ยวกับการเมืองทั้งหมด เมื่อเข้าเรียนคณะรัฐศาสตร์ทรายจึงเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองในนามกลุ่มคบเพลิง   

ในวันเดียวกัน ฉัตรชัย แก้วคำปอด หรือ ‘ทนายแชมป์’ นักกิจกรรมคณะอุบลปลดแอก แจ้งว่า มีตำรวจ สภ.เดชอุดม โทรศัพท์มาหา จากนั้นนอกเครื่องแบบ 2 นาย ก็มาเฝ้าเขาที่บ้านตั้งแต่ 08.00 น. และติดตามอยู่ตลอดวัน แม้แต่ตอนที่เขาออกไปทานอาหารกลางวัน ยังขอร่วมนั่งโต๊ะด้วย แม้แชมป์จะยืนกรานอยู่ตลอดว่าจะไม่ออกไปทำกิจกรรมที่ไหน เพราะอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการป่วยไข้  อีกทั้งการเดินทางใน จ.อุบลฯ ในช่วงนี้ เป็นไปอย่างยากลำบากจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่นอกเครื่องแบบทั้งสองอ้างว่า ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งมาอีกที จึงอยากติดตามไปจนกว่าจะมีคำสั่งให้ยุติ กระทั่งช่วง 16.00 น. ตำรวจจึงเดินทางกลับ

ทั้ง จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ต่างได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม การเดินทางถูกตัดขาดหลายเส้นทาง ขณะเดียวกันประชาชนและนักกิจกรรมบางรายก็ยังได้ผลกระทบเพิ่มจากการถูกติดตามคุกคามในขณะมีบุคคลระดับประเทศเดินทางไปลงพื้นที่ เป็นที่น่าสงสัยว่าทางหน่วยงานความมั่นคง หรือแม้แต่ตำรวจ  ได้ประเมินสถานการณ์และความจำเป็นที่ต้องส่งกำลังไปติดตามประชาชนในช่วงเวลานี้หรือไม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาให้ลำบากคนอื่นทำไม ? นักกิจกรรมอุบลฯ ตะโกนคำถามคาใจ ก่อนถูก ตร.ล็อคคอ-ปิดปาก อีกหลายคนถูกคุกคาม

X