เมื่อลูกของประชาชนคืนสู่อิสรภาพ (ชั่วคราว): สามวัน-สองคืน ในเรือนจำของ “นิว จตุพร”

13 ก.ย. 2565 เราเยี่ยม “นิว” จตุพร เป็นวันแรกหลังจากศาลอาญกรุงเทพใต้ตัดสินว่า นิวกระทำความผิดตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นการล้อเลียนเสียดสีราชินี ลงโทษจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากศาลเห็นว่านิวให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือ 2 ปี แต่นิวต้องเข้าเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งประกันชั้นอุทธรณ์

.

หนูรู้สึกโกรธความไม่ยุติธรรมของประเทศนี้

นิวออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอห่วงแฟนที่อยู่ข้างนอก  เราเลยอ่านจดหมายจากแฟนของนิวให้ฟัง เพื่อให้เธอคลายกังวล ตอนท้ายจดหมายแจ้งชื่อจริงของญาติและเพื่อนนิวมาให้ นิวต้องการจดชื่อเหล่านั้นเพื่อนำไปใส่ใน 10 รายชื่อที่สามารถเข้าเยี่ยมเธอได้ แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าจดไม่ได้   “เขาห้ามจดน่ะพี่” 

เราค่อนข้างงงกับเรื่องนี้ แต่คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่สำคัญเพราะห้าวันแรก นิวยังต้องอยู่ในแดนแรกรับ และตอนนี้ยังรอผลประกันตัว เราเลยข้ามเรื่องนี้ไปก่อนเพื่อใช้เวลาคุยกับนิว

เรากลับมาคุยกับนิวเรื่องการยื่นประกัน เธอถามว่า ทนายความได้ขอยื่นติด EM ไปหรือเปล่า เราแจ้งว่าไม่ได้เขียนเรื่องนี้ไป เธอกลัวว่าจะไม่ได้ประกัน หากไม่ยินยอมติด EM  เราเลยแจ้งว่ารอฟังคำสั่งประกันของศาลอุทธรณ์ก่อน หากศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต เราสามารยื่นขอประกันใหม่ หรืออุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาได้

“หนูอยู่ในนี้ หนูอยู่ได้ หนูแค่เป็นห่วงแฟนไม่รู้เขาจะอยู่อย่างไร กินอะไร เพราะเมื่อวานเราไม่ได้ลากันเลย”

“เมื่อวานไปด้วยความมั่นใจว่าหนูไม่ผิดแน่นอน เลยใส่ชุดไทยไป เพื่อยืนยันว่าหนูไม่ผิด มันเป็นความรู้สึกของคนอื่น เป็นการตีความของคนอื่นเอง แต่สุดท้ายแล้วหนูเข้าไป แม้กระทั่งญาติมาจากบุรีรัมย์ ชลบุรี โคราช มาจากหลายจังหวัด ก็ไม่มีสิทธิเข้าไปฟังคำพิพากษา หนูเลยยกมือ แถลงขอหนึ่งคน ให้แฟนเข้าได้คนเดียว หลังจากนั้นเขาอ่านคำพิพากษา บอกว่าหนูผิดจริง ซึ่งหนูก็งงไปพักหนึ่ง แต่ก็ยกมือแถลงกับศาลว่าที่แต่งตัวมาแบบนี้วันนี้เพราะหนูยังยืนยันว่าหนูไม่ผิด รู้สึกเสียใจกับกระบวนการยุติธรรมไทย ถึงแม้ว่าหนูไม่ได้หวังกับกระบวนการ แต่รู้สึกแย่มาก”

“อีกอย่างหนึ่ง หนูรู้สึกแย่ที่ไม่ได้เจอญาติก่อนกลับ เพราะเขาแยกหนูออกมา ขึ้นรถ Ambulance เรือนจำแยกมาคนเดียว หนูมองตามรถ ถามผู้คุมว่า มีใครบอกพวกเขาหรือยังว่าหนูออกมาแล้ว ตอนนี้ฝนตกพวกเขาจะได้ไม่ลำบากนั่งรอ”

“หนูร้องไห้ หนูไม่ได้ร้องที่หนูติดคุกนะ แต่ร้องไห้ที่เขาเอาหนูออกมาเลย หนูรู้สึกโกรธความไม่ยุติธรรมของประเทศนี้”

“เมื่อคืนหนูนอนหลับได้ดี แต่หนูไม่ได้ทานยาซึมเศร้าที่ได้มา เพราะกลัว effect ยา วันศุกร์มีนัดกับจิตแพทย์ที่นี่”

“ตอนนี้นอนในห้องแปดคน ก็ลำบากเหมือนกัน หนูไม่เคย ไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรยังไง แต่มีคนดูแล ให้กำลังใจ  หนูกินข้าวไม่ลง เป็นห่วงแฟนและเป็นห่วงแม่ น้ำหนูก็ไม่มีมาซักขวด ต้องกินน้ำก๊อกไปก่อน เพราะเงินที่ติดตัวมายังใช้ไม่ได้ น้ำก๊อกรสชาติแย่มาก”

.

หนูจะสู้จนชั้นสุดท้าย ถ้าหนูจะผิดก็ให้ไปผิดชั้นสุดท้าย

นิวกลับมาถามเราเรื่องคดีและเรื่องการประกัน เราอธิบายขั้นตอนในคดี เธอบอกว่า “มันไวจริงๆ มันเกิดขึ้นไวมาก”

“ตอนแรกหนูวางแผนว่าจะไม่อุทธรณ์ เพราะเมื่อศาลมองว่าหนูผิด หนูก็จะติดให้ แต่ตอนนี้หนูเปลี่ยนความผิด หนูรู้ตัวเองว่าหนูไม่ผิด หนูรู้ตัวเองอยู่เต็มอก หนูจะสู้จนชั้นสุดท้าย ถ้าหนูจะผิดก็ให้ไปผิดชั้นสุดท้าย (ชั้นฎีกา)”

เธอยังถามถึงความเคลื่อนไหวนอกเรือนจำ เราเล่าให้ฟังว่าข่าวคำพิพากษาของเธอลงทุกสำนักข่าว นิวยังฝากถึงคนข้างนอกว่า “ฝากถึง แม่ๆ พี่ๆ ให้สู้ต่อไป หนูอยู่ข้างใน หนูอยู่ได้ ขอโทษที่ไม่ได้ลาใครเลย ถูกเอาตัวออกมาเลย”  

“หนูเอาแต่นอน อยากให้ผ่านไปแต่ละวัน เมื่อเช้ากระวนกระวายใจ เป็นห่วงแฟนเพราะเราตั้งใจมาหาหอพักในกรุงเทพฯ เพราะคิดว่าติดแน่ๆ แต่ยังหาไม่ได้ หนูติดสัมภาษณ์หลายที เลยเป็นห่วงว่าเขาจะอยู่ยังไง ปกติหนูอยู่บุรีรัมย์ อยู่ด้วยกันสองคน อยู่ที่บ้าน ช่วยแม่ ดูแลบ้าน เลี้ยงหมา เพราะไม่สามารถทำงานได้”

“หนูมีคดีกับผู้ใหญ่ที่นั่นด้วย คดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เขาเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท สืบเสร็จแล้วรอตัดสิน หนูมีคดี 6 คดี 3 จังหวัด บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ ขอนแก่น”

“หนูเริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่กรกฎาคม 2563 แต่จริงๆ หนูสนใจตั้งแต่เลือกตั้งแล้ว หนูว่ามันแปลกๆ พอปี 2563 มีโควิดหนูเป็นผู้ช่วยเชฟ โรงแรมไม่มีรายได้ เจ้านายเรียกเข้าไป เขาต้องเอาคนออก คนที่ทำงานได้น้อย หนูเลยเสนอตัวเพราะมีเพื่อนที่ท้องทำงานอยู่ด้วย เพื่อให้เพื่อนได้ทำงานต่อ เราไม่เดือดร้อนอะไร ที่นี่มีสวัสดิการ มีประกันสังคม”

“ก่อนหน้านั้นหนูทำงานร้านกาแฟ  หลังออกจากโรงแรม ก็ไปสมัครที่อื่น บุรีรัมย์ไม่ได้เจริญขนาดนั้น บางที่ค่าแรงต่ำ แม้ค่าแรงขั้นต่ำจะ 300 บาท แต่ความเป็นจริงได้ไม่ถึง บางช่วงหนูต้องทำงานสองที่เพื่อให้พอใช้ หนูเลยเริ่มสนใจการเมือง”

“หนูรออยู่ไม่มีใครจัดม็อบสักที หนูเลยจัดเองเลย เลยยาวเลย คิดว่านักกิจกรรมก็มีความเสี่ยง ก็เคยคิดว่าอาจจะมีคดีชุมนุม แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงขั้นนี้ หมายแรกมาก็คดี 112 เลย หนูตัดขาดจากพ่อแม่ เพราะผลกระทบมันถึงเขา มีผลกระทบกับงานเขา จนปีนี้หนูคิดว่ามันใกล้เวลาแล้ว หนูเรียกตัวเองว่าเป็นลูกของประชาชน หนูทิ้งพ่อแม่มาอยู่กับประชาชนนานแล้ว หนูเลยกลับไปอยู่กับเขา เพราะเหลือเวลาไม่นาน ไปกอด ไปใช้ชีวิตแบบที่เคยใช้มา”

“หนูรู้สึกว่าเป็นซึมเศร้ามานานแล้ว แต่ด้วยความสดใส หนูไม่อยากให้ใครเครียดด้วย หนูเลยยิ้มตลอด หลังเดินแบบ คอมเมนต์เชิงลบเยอะมาก ขู่ทำร้ายร่างกาย มันเกิดความระแวง ความกลัว แต่หนูเพิ่งตัดสินใจหาหมอสองเดือนมานี้เอง เพราะหนูนอนไม่หลับเลยสองปีที่ผ่านมา นอนหลับได้น้อย และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ หมอบอกว่าเป็นซึมเศร้าขั้นรุนแรง หนูเพิ่งให้น้ำเกลือมาเพราะกินนอนไม่ได้ น้ำหนักลงไป 5 กิโลกรัม”

“ใจหนึ่งก็คิดว่าต้องมีความยุติธรรม แต่ใจหนึ่งก็ค้านว่ามึงหวังอะไรกับประเทศนี้ มันไม่พื้นที่ให้คนคิดต่าง”

.

อยากทำ food truck ขายกะเพราจานละ 25 บาท

เราถามนิวว่าหากไม่มีคดี นิวอยากทำอะไร  “หนูคิดว่าถ้าได้ออกไป จะไปเรียนทำอาหารเอาใบประกาศ เพราะว่าหนูมีความฝันอยากเป็นเชฟ แต่ติดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ก็อาจจะซื้อ food truck ทำอาหารขายในกรุงเทพฯ กับแฟนสองคน”

“หนูอยากขายกะเพราะจานละ 25 บาท เพราะว่าบ้านหนูปลูกข้าว มีข้าวเยอะมากกินไม่ทัน อยากขายกะเพรา 25 บาท กาแฟแก้วละ 20 บาท เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ เผื่อคนไม่มี คนจะได้อิ่มท้อง จะได้แจกคนไร้บ้านด้วย แจกด้วยขายด้วย เพราะหนูชอบทำอาหารไปแจกคนไร้บ้าน”

เราแซวนิวว่าความฝันคือการขายด้วยแจกด้วยหรือ นิวบอกว่า “ไม่ได้คิดเรื่องกำไรขาดทุน ที่บ้านมีนา มีข้าว มันยังมีคนอื่นที่ไม่มีกิน จริงๆ หนูไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหวก็ได้ เพราะหนูไม่ได้ลำบาก แต่บางอย่างที่เรารู้สึกไม่ถูกต้องมันเลยต้องพูด บางอย่างมันเงียบไม่ได้”

“เมื่อก่อนตอนเด็กๆ บ้านหนูไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ต้องปั่นจักรยานไปเรียน ถ้าอยากได้ของสักชิ้น หนูก็ต้องขนขี้ไก่ได้ถุงละบาทเอง หนูต้องทำงานมาตลอด และหนูขี้เห็นใจคนด้วย เวลาเห็นคนที่เขาลำบาก”

.

หนูไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่เลย หนูรู้สึกดีที่ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งหนึ่ง

เราถามนิวว่ารู้สึกอย่างไร “รู้สึกดีใจที่เจอทนาย และรู้ว่าแฟนอยู่ยังไง ส่วนเรื่องคดีหนูรู้สึกแย่กับเรื่องคดีมาก มันแย่จริงๆ หนูยังหาคำตอบไม่ได้เลย มันเข้าองค์ประกอบยังไง เมื่อคืนหนูนอนคิดว่าสืบยังไงว่าหนูกับสายน้ำซักซ้อมกันมา  ทั้งที่หนูไม่รู้จักสายน้ำเลย แม้กระทั่งคนที่ตะโกนหนูไม่รู้จักใครเลย แต่ศาลบอกซักซ้อมกันมา จริงๆ มันไม่มีการซักซ้อมอะไรเลย”

“ชุดเมื่อวานหนูเช่ามา 700 บาท ซื้อรองเท้ามา 400 บาท และเตรียมชุดมาเปลี่ยนเพราะคิดว่ายังไงก็โดน หนูก็เปลี่ยนด้านล่าง (ศาล)  หนูอยากให้แฟนไปซื้อชุดร้านนั้น อยากมีเก็บไว้บ้าง”

เราถามนิวว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดที่จะใส่ชุดไทยอีกใช่ไหม “หนูไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่เลย หนูรู้สึกดีที่ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งหนึ่ง”

“หนูมีหลักฐาน หนูมั่นใจ แต่พอถึงชั้นศาลหนูรู้ตัวว่าเราแพ้แน่ๆ ขั้นสืบพยานที่หนูตัดสินใจจะสู้ แล้วศาลพูดว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรขึ้นกับการตัดสินใจของเรา เราเลยรู้ว่าเราโดนแน่ๆ”

“มันยังเหลืออีกสองศาลใช่ไหมพี่ หนูจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง จะเอาการตีความของคนอื่นมาตัดสินเจตนาเรา มันไม่ถูกต้อง มันไม่ยุติธรรมสำหรับเรา เอาอะไรมาพูดว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ ซักซ้อมมา ตัวหนูรู้ตัวหนูดี”

.

ศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว

วันนี้ (14 ก.ย. 2565) เราแจ้งข่าวว่าศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ประกัน นิวดีใจมาก เราถามความรู้สึกของเธอเรื่องประกัน เธอบอกว่า “มันไม่ควรลงโทษหนูตั้งแต่แรก หนูรู้ตัวดีว่าไม่ผิด หนูรู้เจตนาตัวเองดี” 

นิวเล่าว่าเธอกินข้าวได้แล้ว ทุกคนในนี้ดูแลเธอดี  “วันนี้หนูกินข้าวมันไก่ ได้เยอะมาก สิ่งที่แฟนซื้อเข้ามามีแต่ของชอบหนูเลยกินได้ พี่ๆ ในนี้ดูแลดี แต่อยู่ในนี้สิวขึ้นเยอะมาก อยู่กับคนหมู่มากทำตัวไม่ถูก แต่ข้างในอยู่ได้ แค่กระบวนการบางอย่างที่ไม่โอเค เหมือนอยู่ในเรือนจำที่ไม่มีอะไร”

เราอัพเดทข่าวข้างนอกให้เธอฟัง “ฝากขอบคุณพี่ๆ ประชาชนทุกคนที่ช่วยติดตามข่าวหนู และทำให้เรื่องไม่เงียบ เดี๋ยวหนูจะกลับออกไปเป็นลูกของประชาชนเหมือนเดิม”

ก่อนเธอจะรีบไปอาบน้ำ เธอโชว์บัตรนักโทษให้เราดู เป็นบัตรที่มีภาพนิว ฐานความผิด ระยะเวลาที่เริ่มถูกขังและระยะเวลาที่จะได้ออก 12 ก.ย. 2567 คือวันที่ในอนาคตที่นิวจะพ้นโทษหากถูกควบคุมตัวต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับสิทธิประกัน แต่บัตรที่นิวได้รับมาวันนี้เป็นวันแรก หากก็เป็นวันสุดท้าย เพราะนิวได้ประกันตัวและยังยืนยันจะสู้คดีต่อไป

เราถามว่าภาพเรือนจำก่อนเข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้วสำหรับนิวต่างกันหรือเปล่า “ไม่ต่าง แต่มีมิตรภาพดี เพื่อนที่อยู่ข้างในดี นอกนั้นไม่ดี” เป็นบทสรุปของนิวในห้วงเวลาสองวันสามคืนในเรือนจำ

.

X