หลังจากวานนี้ (19 ก.ค. 2565) ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัว 7 สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีสาดสีหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 ทำให้นักกิจกรรมทั้งเจ็ดคนต้องถูกคุมขังในเรือนจำ โดยส่วนใหญ่เป็นการถูกจองจำเป็นครั้งแรก ยกเว้นทวี เที่ยงวิเศษ หรือ “อาทิตย์ ทะลุฟ้า” ผู้ต้องกลับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นครั้งที่สอง
.
ก่อนหน้านี้ ทวีเคยถูกคุมขังในระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 จนถึงวันที่ 4 มี.ค. 2565 เป็นระยะเวลา 171 วัน หรือ เกือบครึ่งปี ในคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่าทำร้ายเจ้าพนักงาน และหลบหนีการจับกุม หลัง #ม็อบ3กันยา64 โดยระหว่างถูกคุมขัง ยังถูกออกหมายขังในคดีสาดสีหน้า สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 เพิ่มเติมด้วย
ในการถูกคุมขังครั้งดังกล่าว วันที่ 4 มี.ค. 2565 ศาลอาญาได้อนุญาตให้ประกันตัวทวีในทั้งสองคดี ระบุคำสั่งว่า “ศาลเคยไม่อนุญาตด้วยเหตุว่าจำเลยจะก่อเหตุร้าย บัดนี้ สถานการณ์ที่จำเลยอาจก่อเหตุร้ายไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว จึงอนุญาต” โดยให้วางหลักประกันตัวในสองคดี คดีละ 35,000 บาท และให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ด้วย
หลังจากการประกันตัวครั้งดังกล่าว ทวีก็ไม่เคยถูกกล่าวหาดำเนินคดีใหม่เพิ่มเติมอีก และไม่ได้มีรายงานไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในส่วนคดีสาดสีหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนการถูกคุมขังในระลอกดังกล่าวแล้ว
แต่ปรากฏว่าหลังการสั่งฟ้องของพนักงานอัยการในคดีสาดสีพรรคประชาธิปัตย์ ศาลอาญากลับไม่อนุญาตให้ประกันตัวทวี ร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย โดยระบุในคำสั่งว่า จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบท ทั้งการใช้ความรุนแรงเกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยไม่มีเหตุสมควร โดยเฉพาะจำเลยยังเคยถูกดำเนินคดีที่ศาลนี้มาแล้วด้วย จึงน่าเชื่อว่าหากปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยอาจก่อภยันตรายอื่นได้อีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
น่าสังเกตว่าการพิจารณาถึงการ “ก่อเหตุร้าย” หรือ “ก่อภยันตรายอื่น” ของศาลนั้นใช้ดุลยพินิจจากเรื่องใด คำสั่งการประกันตัวในสองครั้งของศาลเดียวกัน มีความแตกต่างในการมองประเด็นดังกล่าวต่อจำเลยคนเดียวกัน ไปคนละทิศทางอย่างชัดเจน จนทำให้เกิดคำถามต่อมาตรฐานการทำคำสั่งในการประกันตัวของศาลตามมา
ทั้งยังไม่ต้องพูดถึงการ “ตัดสิน” ล่วงหน้าไปก่อนแล้วว่าจำเลยมีการใช้ความรุนแรงเกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยไม่มีเหตุอันควร โดยยังไม่ได้มีการนำสืบพยานและเปิดโอกาสให้ฝ่ายจำเลยต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม
.
สำหรับ ทวี ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี เคยทำงานเป็นช่างเชื่อมที่โรงงานในจังหวัดสระบุรี ต่อมาเมื่อตกงานจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนได้ร่วมทำกิจกรรม #เดินทะลุฟ้า จากจังหวัดนครราชสีมาสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับกลุ่มทะลุฟ้า เป็นระยะทางกว่า 247.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 15 วัน เพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออก ทั้งทวียังร่วมปักหลักนอนชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลา 16 วัน ระหว่างกิจกรรม #หมู่บ้านทะลุฟ้า ด้วย หลังจากนั้น ทวียังคงยืนหยัดอยู่ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้าจนถึงทุกวันนี้
หลังการร่วมเคลื่อนไหว ทำให้ทวีถูกกล่าวหาดำเนินคดีทั้งหมด 7 คดี โดยมี 5 คดีที่ถูกสั่งฟ้องถึงชั้นศาล ในการถูกคุมขังระลอกแรก ทวียังติดเชื้อโควิดในเรือนจำ ทำให้ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์นานร่วมเดือนด้วย
ย้อนดูบันทึกเยี่ยมที่เล่าถึงประวัติของทวีในการถูกคุมขังก่อนหน้านี้ บันทึกเยี่ยม ‘อาทิตย์ ทะลุฟ้า’ : “ยังคงแบ่งปันยิ้มให้ทุกคนในทุกวัน แม้ตัวฉันใกล้จะถูกลืม”
.