บันทึกเยี่ยม “เมธิน” ผู้ต้องคดี ม.112 เผยถูกตรวนข้อเท้าตลอด 24 ชม. ขณะถูกจองจำในคุกทหาร แม้ศาลจะยังไม่มีคำพิพากษา

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565 ทนายความเดินทางไปเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 จังหวัดนครปฐม เพื่อเข้าเยี่ยม “เมธิน” (นามสมมติ) พลทหาร อายุ 22 ปี เป็นครั้งที่ 2 หลังถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีในคดี ม.112 มาตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2565 จากการถูกกล่าวหาว่าพูดพาดพิงถึงรัชกาลที่ 10 ขณะมีปากเสียงกับคู่กรณีที่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์กลางดึก เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565  คดีของเขา ยังอยู่ระหว่างรอนัดสอบคำให้การที่ศาลทหารกรุงเทพ ในวันที่ 11 ส.ค. 2565 นี้

เวลาประมาณ 12.20 น. ทนายความเดินทางถึงยังเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ เมื่อย่างก้าวเข้ามาเบื้องหลังประตูเรือนจำสีแดงชาด เราพบว่าสถานที่ที่ตั้งอยู่อย่างปลีกวิเวกแห่งนี้เป็นเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไร้ซึ่งความวุ่นวาย เงียบสงบ รอบอาณาบริเวณถูกขึงกั้นด้วยรั้วลวดหนาม

หลังจากผู้คุมตะโกนเรียกเมธินว่ามีทนายมาเยี่ยม ไม่นานเขาปรากฏตัวหลังกรงกั้น สวมเสื้อยืดทหารแขนสั้นสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำ และถูกตรวนที่ข้อเท้า นี่เป็นชุดที่เมธินต้องใส่ทุกวันตลอดการถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำแห่งนี้ 

ลูกกรงเล็กๆ ที่มีไว้ให้ผู้ต้องขังและผู้เยี่ยมได้สื่อสารกันมีขนาดเล็กมาก ประกอบกับมีแผ่นอะคริลิกใสเจาะรูเล็กๆ หลายรูเพื่อให้เสียงลอดผ่านถึงกันได้ ซึ่งเรือนจำติดตั้งไว้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด ทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้กระทั่งสีหน้าและแววตาของคู่สนทนา เราก็มองเห็นกันได้ไม่ชัดนัก 

ผู้ช่วยทนายที่เดินทางไปด้วยกันเล่าว่า พยายามมองแววตาของเมธิน แต่ก็ไม่ปรากฏความเศร้าหรือความกังวลใจใดให้เห็นผ่านแววตาหรือสีหน้าของเขา สิ่งเดียวที่พอจะสังเกตเห็นได้ก็คือ ผิวที่คล้ำขึ้นจากการทำงาน เมธินเล่าว่า เพราะช่วงนี้เขาต้องทำงานในเรือนจำอยู่กองงานเกี่ยวกับเกษตรกรรม มีหน้าที่ดูแลแปลงผัก คอยรดน้ำ ถางหญ้า และอื่นๆ จึงต้องตากแดดแทบจะตลอดทั้งวัน

เมธินยังเล่าอีกว่า ตลอดเวลาที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มทบ.11 แห่งนี้ เขาต้องใช้ชีวิตโดยถูกตรวนที่ข้อเท้าทั้งสองข้างตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ ทำงาน จนกระทั่งตะวันลับฟ้าและขึ้นใหม่ในเช้าอีกวัน 

“เจ็บข้อเท้าไหม” ทนายถาม 

“เจ็บครับ” 

เขาเล่าต่อว่า ได้นำผ้าบางๆ มาพันรอบข้อเท้าไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลและการบาดเจ็บจากตรวนเหล็กที่รัดแน่น ถ่วงน้ำหนักเวลาเดิน และเสียดสีอยู่ตลอดเวลา

แต่ละวันของเมธินผ่านไปเหมือนเคยๆ ทุกวัน เขาตื่นมาช่วงประมาณ 05.30 น. ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็จะเริ่มทำงานในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และจะได้พักเที่ยงในเวลา 11.00 – 13.00 น. จากนั้นก็ต้องกลับไปทำงานต่อ เสร็จงานเวลา 14.30 น. ก็เป็นช่วงเวลาที่เมธินจะได้พัก เพื่อรอกินข้าวเย็นช่วงเวลา 16.00 น. และจะถูกนำตัวขึ้นห้องขังในช่วงเวลา 18.00 น. 

หลังจากเวลา 6 โมงเย็น เป็นช่วงที่เขาพอจะได้พักผ่อนอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้เป็นเวลาที่เป็นส่วนตัวนัก เพราะต้องอยู่รวมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ ด้วย แต่เขาเล่าว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ได้ผ่อนคลายที่สุดหลังจากทำงานมาทั้งวัน

เมธินฝากข้อความทิ้งท้ายว่า พยายามที่จะออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง มีกล้ามเนื้อเหมือนแต่ก่อน แบบที่แม่เคยบอกไว้ในครั้งล่าสุดที่เจอกัน เมื่อตอนที่ถูกเบิกตัวไปที่ศาลทหาร ในนัดสอบคำให้การ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2565 

ทั้งยังบอกอีกว่า “ยังเฝ้ารอวันที่ศาลจะตัดสินคดีโดยเร็ว”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

บันทึกเยี่ยมเมธินครั้งที่ 1 – เผยกรณี “เมธิน” พลทหารถูกธำรงวินัยร่วมเดือน ก่อนถูกส่งขังคุกทหาร คดี  ม.112 เหตุพูดพาดพิง ร.10 ขณะโต้คู่กรณีขับรถเฉี่ยวชน

บันทึกจากศาลทหารกรุงเทพนัดสอบคำให้การ เมธินพบหน้าครอบครัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือนที่ขาดการติดต่อ เพราะถูกลงโทษซ้ำในเรือนจำทหาร

X