เยาวชนอายุ 17 ปี โดน ตร.นอกเครื่องแบบ ตามคุกคามถึงบ้านต่อเนื่องกว่า 8 ครั้ง ตลอดอาทิตย์

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งจาก “พอช” เยาวชน อายุ 17 ปี นักกิจกรรมอิสระ ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามคุกคามต่อเนื่องถึงบ้านมากกว่า 8 ครั้ง หลังเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองในฐานะมวลชน เมื่อปี 2563 – 2564 โดยการตามคุกคามครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 – 9 พ.ค. 2565 พอชเปิดเผยว่าการตามคุกคามของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมีพฤติการณ์ที่สร้างความกังวลและหวาดกลัวให้กับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก และเป็นครั้งแรกที่ถูกติดตามแบบนี้ ซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกหวาดระแวงและรู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัวในชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดตามถ่ายรูปและคลิปวิดีโอ ตลอดจนการสอดส่องและเฝ้าบ้านที่ตนอยู่กับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีดังนี้

  • 1 พ.ค. 2565 พอชได้เข้าร่วมกิจกรรมวันแรงงาน #ม็อบ1พฤษภา65 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ซึ่งในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้าน พอชเล่าว่าตนเองถูกติดตามจากบุคคลคล้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาถึงสถานีรถไฟฟ้าสยาม จนถึงสถานีอุดมสุข ถึงแม้จะพยายามเปลี่ยนสถานีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกติดตาม แต่บุคคลดังกล่าวก็ยังคงตามอย่างต่อเนื่องโดยมีการพยายามถ่ายภาพและวิดีโออยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในขบวนรถไฟ
  • 2 พ.ค. 2565 ในช่วงเช้า พอชได้เล่าว่ามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเดินถือเอกสารและรูปถ่ายของตนมาที่หน้าบ้าน พร้อมกับถามคุณยายว่าพอชได้อยู่ที่บ้านหรือไม่ รวมถึงได้เดินสืบเสาะจากเพื่อนบ้าน ถามว่ารู้จักตนหรือไม่ด้วย แต่ไม่ได้บอกวัตถุประสงค์การสอบถามแน่ชัด 
  • 3 พ.ค. 2565 พอชระบุว่ามีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำขับมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน และไม่มีใครลงมาจากรถในตลอดช่วงเช้าของวันดังกล่าว ในขณะที่ช่วงเย็นขณะพอชเดินทางออกจากบ้าน พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางนา พร้อมกับเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้ขับขี่มอเตอร์ไซน์ตามมา จำนวน 2 นาย
  • 4 พ.ค. 2565 ในช่วงเวลา 05.00 น.  – 07.00 น. พอชระบุว่ามีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำคันเดิมกับเมื่อวันที่ 3 พ.ค. มาจอดในบริเวณหน้าบ้าน โดยในครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ลงมาพูดคุยกับยายของพอช ซึ่งยายได้ถามกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่ามีธุระอะไรหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ตอบปฏิเสธว่าไม่มีอะไร ก่อนจะถ่ายรูปบริเวณบ้านไป
  • 5 พ.ค. 2565 พอชได้เดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรม “มูล่าเธอ” ซึ่งในระหว่างที่กำลังเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาถามว่าเขาจะไปไหน พร้อมกับถือโทรศัพท์ถ่ายวิดีโออยู่ตลอดเวลา เมื่อพอร์ชขึ้นรถเมล์ ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบขี่รถจักรยานยนต์ตามติดอยู่ตลอด
  • 6 พ.ค. 2565 ในช่วงเวลากลางคืน มีรถกระบะสีเทา ไม่ทราบป้ายทะเบียนได้มาจอดในบริเวณหน้าบ้าน โดยในวันนี้พอชได้เดินเข้าไปที่รถ เพื่อที่จะสอบถามว่าต้องการอะไรจากตนหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครยอมลงมาจากรถ โดยพอชอธิบายว่าไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มบุคคลบนรถยนต์คันดังกล่าวได้ทั้งหมด แต่เห็นว่าในฝั่งคนขับมีบุคคลถือโทรศัพท์ถ่ายมาที่ตนอยู่ตลอดระยะเวลาขณะยืนอยู่ข้างกระจกรถ
  • 7 พ.ค. 2565 ในช่วงเย็น ได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาสอบถามคนในซอยบ้าน
    พร้อมกับถือรูปถ่ายของพอช และถามเพื่อนบ้านว่ารู้จักตนหรือไม่ ตลอดจนได้ฝากเพื่อนบ้านให้บอกกับพอชว่า ขอให้หยุดการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ
  • 8 พ.ค. 2565 ในวันนี้ พอชได้ระบุว่าตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยจากการคุกคามของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ จนทำให้ต้องหลบออกจากบ้านไปอยู่กับญาติชั่วคราว อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าว ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาติดตามสอดส่องที่บริเวณบ้านเช่นเดิม ในวันนี้ พอชได้เล่าว่าตนต้องไปมอบตัวเพื่อเตรียมเปิดเทอมที่โรงเรียนด้วย ซึ่งพบว่าก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ติดตามไปเฝ้าที่หน้าโรงเรียนเช่นเดียวกัน
  • 9 พ.ค. 2565 ในช่วงเวลา 07.00 น. – 08.00 น.  พอชได้ระบุว่าวันนี้เป็นการคุกคามที่หนักที่สุดตั้งแต่ที่เจอมา โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินมาที่บริเวณหน้าบ้าน พร้อมกับใช้วาจาข่มขู่ครอบครัวของตนหลังจากที่ยายของพอชถามว่าเมื่อไหร่จะเลิกติดตามพอชเสียที  โดยเจ้าหน้าที่ได้กล่าวกับยายของตนว่า “ผมทำตามหน้าที่ มาดูแลรักษาความปลอดภัย แต่ถ้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ก็บอกให้น้องเขาเลิกทำกิจกรรม ไปม็อบ ถ้ายังไม่หยุด ระวังตัวเอาไว้ให้ดี”

จากสถานการณ์ดังกล่าว พอชระบุว่าเขายังไม่ทราบแน่ชัดว่าการติดตามอย่างต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่รัฐเช่นนี้ เกิดจากสาเหตุใด แต่อาจเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมของกลุ่มทะลุวัง ซึ่งเขายืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักกิจกรรมใด ที่ผ่านมาเขาก็เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองเฉยๆ โดยไม่เคยเป็นแกนนำ หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวเนื่องกับความรุนแรงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ใคร

X