27 เม.ย. 2565 อนุรักษ์ แก้ไข อายุ 25 ปี พ่อค้าขายผลไม้ เดินทางไปที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ตามนัดส่งฟ้องของพนักงานอัยการ จากกรณีเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่ม “อุตรดิตถ์ปลดแอก” เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 โดยก่อนหน้านี้ อนุรักษ์ถูกตำรวจแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด ต่อมา พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีให้พนักงานอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์พิจารณา ก่อนอัยการมีคำสั่งฟ้องในที่สุด
>> คดีแรกของจังหวัด หนุ่มติดป้าย “อุตรดิตถ์ปลดแอก” ขับรถนำขบวนคาร์ม็อบ ถูกตร.แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เวลา 10.00 น. อนุรักษ์เดินทางมาถึงศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ตามเวลาที่นัดกับเจ้าหน้าที่อัยการ ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่อัยการเดินทางมาถึงและยื่นคำฟ้องต่อศาล พร้อมแจ้งให้อนุรักษ์เข้าไปอยู่ในห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาลก่อน โดยเจ้าหน้าที่ศาลไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าใช้ในห้องควบคุมตัว และสั่งให้ถอดเข็มขัดออก
ขณะเดียวกัน ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน ต่อมา เวลา 15.20 น. ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน โดยศาลให้วางเงินประกันจำนวน 20,000 บาท
ต่อมาทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง เสนอหลักประกันเป็นเวินสดจำนวน 20,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ เวลา 16.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีตามที่ยื่นคำร้อง พร้อมกำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิและนัดพร้อม ในวันที่ 6 มิ.ย. 2565 รวมระยะเวลาอนุรักษ์ถูกควบคุมตัวเกือบ 5 ชั่วโมง
สำหรับคำฟ้องคดีนี้ วีระ ช้างคล้าย พนักงานอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยายคำฟ้อง มีเนื้อหาโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 จำเลยกับพวกอีกหลายคนซึ่งยังหลบหนียังไม่ได้นำตัวมาฟ้องได้ร่วมกันจัดการชุมนุม โดยขับรถยนต์และขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 70 คน ไปตามถนนสาธารณะสายต่าง ๆ ภายในเขตตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อันเป็นการร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 20 คน โดยไม่ได้รับอนุญาต
อัยการยังบรรยายต่อไปอีกว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาจงใจฝ่าฝืนข้อกำหนด คำสั่ง และประกาศที่ออกตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบและไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม ขอศาลได้ลงโทษจำเลยสถานหนักด้วย
อย่างไรก็ตาม อัยการไม่ได้คัดค้านการให้ประกัน ระบุว่า หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล
.
“คิดว่าผมไม่น่าโดนคดีเลย ตามที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหามาว่าชุมนุมเกิน 20 คน แต่ทำไมผมถึงโดนคนเดียว ผมถามตำรวจเขาก็ตอบไม่ได้”
อนุรักษ์แสดงความคับข้องใจถึงความไม่สมเหตุสมผลในการดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากตามคำฟ้องบรรยายว่ามีผู้ร่วมกิจกรรมถึง 70 คน แต่เหตุใดเขาถึงถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามเขาไม่กังวลและพร้อมจะต่อสู้คดีต่อไป เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และยืนยันในสิทธิการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญของตนเอง
นอกจากคดีนี้ ยังมีคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สืบเนื่องจากคาร์ม็อบของกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอกในครั้งเดียวกันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาต่อทองแสง ไชยแก้ว แอตมินเพจ ‘อุตรดิตถ์ปลดแอก’ ว่าเป็นผู้ก่อให้มีการกระทำความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติตต่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างพนักงานอัยการขออนุญาตอัยการภาค 6 ฟ้อง