คดีแรกของจังหวัด หนุ่มติดป้าย “อุตรดิตถ์ปลดแอก” ขับรถนำขบวนคาร์ม็อบ ถูกตร.แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

25 ส.ค. 64 ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นายอนุรักษ์ แก้ไข อายุ 25 ปี ทำงานเป็นพนักงานจ้างขององค์กรแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุจากการเข้าร่วมคาร์ม็อบของกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอก เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 64 เขาถูกตำรวจแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด เจ้าตัวยืนยันให้การปฏิเสธข้อหา และร่วมต่อสู้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ อนุรักษ์ได้รับหมายเรียกลงวันที่ 20 ส.ค. 64 ในคดีที่มี พ.ต.ท.เอกพงษ์ ปริษาวงศ์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นผู้กล่าวหา และกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 25 ส.ค. 64 ต่อมายังทราบว่ามีชาวจังหวัดอุตรดิตถ์อีกหนึ่งรายได้รับหมายเรียกในลักษณะดังกล่าวด้วย แต่เนื่องจากอยู่ในต่างจังหวัด ยังไม่สามารถเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้ จึงขอเลื่อนนัดออกไปก่อน รวมมีผู้ได้รับหมายเรียก 2 ราย

ในวันนี้ อนุรักษ์ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.เวช เทียบน้ำอ่าง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเขา พฤติการณ์ข้อกล่าวหาระบุว่าก่อนเกิดเหตุ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อุตรดิตถ์ปลดแอก” ได้โพสต์เชิญชวนนัดชุมนุมคาร์ม็อบในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 เวลา 17.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์

ต่อมาในวันดังกล่าว ปรากฏว่านายอนุรักษ์ได้นำรถยนต์กระบะ ซึ่งด้านหน้าของตัวรถติดป้ายผ้าไวนิลเป็นสัญลักษณ์ของเพจเฟซบุ๊ก “อุตรดิตถ์ปลดแอก” มาเป็นรถนำขบวนของกลุ่มที่แสดงออกทางการเมือง โดยมีการขับนำตั้งแต่หน้าประตูทางออกมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ไปจนสลายตัวที่แยกโรงเรียนอุตรดิตถ์ ในเวลาประมาณ 18.10 น. และมีการเดินทักทายสมาชิกผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม ก่อนแยกย้ายกันกลับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 20 คน และเนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทำให้อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส-2019 ผู้กล่าวหาจึงได้แจ้งความดำเนินคดี

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาอนุรักษ์ เรื่องการร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ในข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติตต่อของจังหวัดอุตรดิตถ์

อนุรักษ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อไป โดยพนักงานสอบสวนได้ให้พิมพ์ลานนิ้วมือ พร้อมปล่อยตัวไป และกำหนดนัดให้มารายงานตัวเพื่อส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการต่อไปในวันที่ 14 ก.ย. 64

ภาพกิจกรรมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 64 จากเพจอุตรดิตถ์ปลดแอก

อนุรักษ์ เปิดเผยหลังการถูกแจ้งข้อกล่าวหา ว่าสำหรับข้อกล่าวหา ตนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะยืนยันว่าตนออกไปร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย และคดีลักษณะนี้ไม่คิดว่าจะถึงกับถูกจำคุก จึงพร้อมจะต่อสู้คดี

อนุรักษ์ระบุว่าการจัดคาร์ม็อบในจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ผ่านมานั้น แทบไม่มีการลงจากรถ และไม่ได้มีการตั้งเวทีปราศรัยหรือการชุมนุมรวมตัว คดีนี้ยังถือเป็นคดีทางการเมืองแรกในจังหวัด ตนคิดว่าการกล่าวหาลักษณะนี้เป็นเรื่องทางการเมืองอย่างมาก โดยทางตำรวจบอกในลักษณะว่าไม่อยากให้จัดกิจกรรมอีก เพราะอุตรดิตถ์จัดคาร์ม็อบไปแล้ว 4 รอบ จัดทุกสัปดาห์ บางจังหวัดยังจัดแค่รอบสองรอบอยู่ จึงไม่อยากให้จัดอีก

ในส่วนคนรอบตัว อนุรักษ์ระบุว่าทำให้เกิดความกังวลกับแม่บ้าง เพราะแม่ก็เตือนว่าไม่อยากให้มีความเสี่ยงจากการทำกิจกรรมทางการเมือง ส่วนตนพยายามอธิบายว่าเมื่อเราไปเอารัฐบาลแบบนี้ ก็ต้องร่วมกันออกไปขับไล่ แต่แม่ก็บอกกับตนว่าถ้ามีหมายเรียกมาเกิน 3 หมาย จะให้ไปทำงานที่อื่น

อนุรักษ์ระบุว่าตนออกไปร่วมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่กิจกรรมแฟลชม็อบช่วงปีที่แล้ว (2563) เนื่องจากสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตอนนี้ก็ยังยืนยันข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพ และเรียกร้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในจังหวัด อย่างเรื่องราคาพืชผักผลไม้ที่ตกต่ำมาก ชาวสวนหลายคนบ่นให้ตนฟัง แต่เขาไม่ได้ออกมาเรียกร้อง ตนจึงอยากเป็นกระบอกเสียงให้