เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 64 ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นายทองแสง ไชยแก้ว พื้นเพเป็นคนอุตรดิตถ์ แต่ปัจจุบันทำอาชีพพนักงานบริษัทอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอก เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 64 แม้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในอุตรดิตถ์ช่วงที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจยังแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี ชี้เป็นการหว่านแหดำเนินคดีไปทั่ว
ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ทองแสงได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีที่มี พ.ต.ท.เอกพงษ์ ปริษาวงศ์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นผู้กล่าวหา และกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 กันยายน 2564 แต่เขาได้พยายามติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงว่าตัวเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และกิจกรรมคาร์ม็อบที่เกิดขึ้นทองแสงเองก็ไม่ได้เข้าร่วมเลย แต่ทางตำรวจยืนยันว่าไม่ว่าอย่างไรจะต้องทำการแจ้งข้อกล่าวหาต่อเขา ทองแสงจึงได้ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางจากจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงในการแพร่ระบาด มายังจังหวัดอุตรดิตถ์ได้
วานนี้ (14 ต.ค.) ทองแสงพร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.เวช เทียบน้ำอ่าง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์
พฤติการณ์ที่นายทองแสงถูกกล่าวหาระบุว่า ทางตำรวจอ้างว่าทราบว่านายทองแสง ไชยแก้ว เป็นผู้ดูแลเพจ “อุตรดิตถ์ปลดแอก” ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนนัดชุมนุมคาร์ม็อบ ในวันที่ 15 ส.ค. 64 เวลา 17.00 น. ในอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. 64 ผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความในเพจ “อุตรดิตถ์ปลดแอก” เชิญชวนให้เข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และบอกจุดที่รวมตัวกันข้างมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ซึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมกัน
จนถึงเวลา 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมาย นายอนุรักษ์ แก้ไข ผู้ต้องหาในคดีเดียวกันที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ ได้นำรถยนต์กระบะ ซึ่งด้านหน้าของตัวรถติดป้ายผ้าไวนิลเป็นสัญลักษณ์ของเพจเฟซบุ๊ก “อุตรดิตถ์ปลดแอก” มาเป็นรถนำขบวนของกลุ่มที่แสดงออกทางการเมือง โดยมีการขับนำตั้งแต่หน้าประตูทางออกมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ไปจนสลายตัวที่แยกโรงเรียนอุตรดิตถ์ ซึ่งการชุมนุมหรือทำกิจกรรมดังกล่าวทองแสงในฐานะผู้ดูแลเพจ “อุตรดิตถ์ปลดแอก” ได้โพสต์ข้อความควบคุมกำกับดูแลผู้ชุมนุมตามเส้นทางที่กำหนด
ผู้กล่าวหาและพนักงานสอบสวนเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการกระทำความผิดฐาน “เป็นผู้ก่อให้มีการกระทำความผิดในการชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ในข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติตต่อของจังหวัดอุตรดิตถ์”
ด้านทองแสงได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและจะให้การเพิ่มเติมในรายละเอียดเป็นหนังสือต่อไป จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป โดยไม่ควบคุมตัวไว้
หลังการแจ้งข้อกล่าวหา ทองแสงให้ความเห็นต่อการถูกดำเนินคดีของตนเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่มีความรำคาญใจอยู่บ้างในช่วงแรกเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปส่งหมายเรียกไปที่บ้าน จนทำให้ครอบครัวตกใจ ทั้งๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีช่องทางการติดต่อของเขาอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนหน้านี้
ส่วนในการดำเนินคดีต่อเขานั้นก็เหมือนการหว่านแห่ไปทั่ว ถ้าหากตนพอมีเงินอยู่บ้าง ก็อยากจะดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่คืน แต่คนทำงานอย่างนี้แค่ถูกดำเนินคดี มันก็ต้องเสียหน้าที่การงาน เสียเวลา และค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมายแล้ว ไม่ควรมีใครจะต้องมาถูกดำเนินคดีแบบนี้ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกพื้นที่ กิจกรรมที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้มีการรวมตัวแต่อย่างใดต่างคนต่างอยู่บนรถของตัวเองกันทั้งนั้น อีกทั้งหลังจากนี้ยังต้องเข้าสู่การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อ แม้ตนจะต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลและมีภาระค่าใช้จ่ายอีก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะจะอย่างไรก็ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกตำรวจกล่าวหา