จับเยาวชน 17 ปี โยงเหตุปาระเบิดปิงปองหน้าราบ 1 ขณะ “พรพจน์” มอบตัวที่พิษณุโลก ก่อนหวนเข้าเรือนจำครั้งที่ 2

12 เม.ย. 2565 เวลา 14.15 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งว่า “นริศ” (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 17 ปี ถูกตำรวจจับกุมไปที่ สน.บางซื่อ หลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่มีกลุ่มบุคคลปาระเบิดปิงปองใส่สนามหญ้าด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 ในคืนวันที่ 10 เม.ย. 2565 

บันทึกจับกุมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำเสร็จก่อนทนายความจะเดินทางไปถึง สน.บางซื่อ ระบุว่า การจับกุมอยู่ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีชุดจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากกองกำกับการสืบสวน 3 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ รวมทั้งสิ้น 13 นาย เป็นการจับกุมตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ 19/2565 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2565 ในข้อหา “ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น และพกอาวุธเข้าในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ชั้นจับกุมนริศให้การรับสารภาพ

ในชั้นสอบสวน ซึ่งมีทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมายเข้าร่วม พนักงานสอบสวนได้แจ้งพฤติการณ์คดีใจความโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 ผู้ต้องหาและพวกรวม 7 คน ได้ไปร่วมกันชุมนุมทํากิจกรรมกับกลุ่มม็อบทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเลิกชุมนุมแล้ว ผู้ต้องหาและพวกได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปหยุดที่บริเวณใต้ทางด่วนแยกดินแดง จากนั้นไปขี่ไปบนถนนวิภาวดี มุ่งหน้าไปแยกสุทธิสาร โดยเมื่อรถแล่นมาถึง บริเวณประตูเสด็จฯ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น จากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้พากันขี่รถหลบหนี จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาและพวกทั้ง 7 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุให้เกิดระเบิดขึ้นในครั้งนี้ 

ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาแก่นริศ ได้แก่ “ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221 และ “พาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 นริศให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ด้านที่ปรึกษาทางกฎหมายแจ้งว่า จะทำคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน

ต่อมา เวลา 17.15 น. ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว พนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะยังไม่พาผู้ต้องหาไปตรวจสอบการจับที่ศาลเยาวชนฯ เนื่องจากทำคำให้การผู้ต้องหาไม่ทัน โดยจะปล่อยตัวผู้ต้องหากลับไปก่อน และให้ผู้ปกครองทำสัญญายืนยันว่าจะพาไปผู้ต้องหาไปตรวจสอบการจับที่ศาลเยาวชนฯ ในวันต่อมา (13 เม.ย. 2565) เวลา 09.00 น. 

“พรพจน์” เข้ามอบตัว ที่พิษณุโลก หลังทราบว่าถูกออกหมายจับเหตุเดียวกัน 

วันเดียวกันนี้ เวลา 13.30 น. ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก พรพจน์ แจ้งกระจ่าง หรือ “เพชร” นักกิจกรรมวัย 49 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัว หลังทราบว่าถูกออกหมายจับจากเหตุปาระเบิดดังกล่าว 

ตำรวจชุดสืบได้เข้าแสดงหมายจับ และอ่านให้เขาฟัง เป็นหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น และพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร” 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกการจับกุม โดยพรพจน์ได้แย้งว่า เขาเดินทางมามอบตัวเอง ไม่ได้ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงระบุในบันทึกจับกุมว่า ขณะตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วยชุดสืบจาก บช.น. และ สภ.เมืองพิษณุโลก สืบสวนติดตามพรพจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 705/2565 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2565 ในความผิดฐาน “ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธเข้าเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร” ทราบว่าพรพจน์อยู่บริเวณ สภ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้แสดงหมายจับ พรพจน์ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน 

พรพจน์เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

ต่อมา เวลา 15.12 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการทำบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก แจ้งว่าจะส่งตัวพรพจน์ไปที่ สน.บางซื่อ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจท้องที่เจ้าของคดี เพื่อสอบคำให้การต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ราว 21.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งควบคุมตัวพรพจน์ถึงกรุงเทพฯ แล้วแจ้งทนายความว่า จะไม่ส่งตัวพรพจน์ไปสอบปากคำที่ สน.บางซื่อ โดยอ้างว่ามีมวลชนล้อมไว้อยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนจะแจ้งว่าจะนำตัวพรพจน์ไปสอบสวนที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แทน 

ภายหลังพนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาตามหมายจับ โดยระบุพฤติการณ์คดีเช่นเดียวกับนริศ โดยกล่าวหาว่า พรพจน์เป็น 1 ใน 7 คน ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านประตูกรมทราบราบ 1 ขณะที่เกิดเสียงระเบิดขึ้น จึงเชื่อว่า พรพจน์ร่วมกันทำให้เกิดเหตุระเบิดดังกล่าว พรพจน์ให้การรับสารภาพ โดยระบุว่า เขาลงมือทำเพียงคนเดียว อีก 6 คนไม่รู้เห็น และระเบิดดังกล่าวทำให้เกิดเสียงดังเป็นหลัก ไม่ได้ก่ออันตรายต่อผู้ใด 

หลังจากสอบคำให้การเสร็จสิ้นในช่วงกลางดึก พรพจน์ถูกคุมขังที่ บช.ปส. 1 คืน 

ศาลให้ประกัน 2 เยาวชน วงเงินคนละ 5,000 บาท กำหนดเงื่อนไขไม่ให้ทำผิดกฎหมายลักษณะเดียวกัน ขณะศาลอาญาไม่ให้ประกันพรพจน์ อ้างกลัวหลบหนี  

ต่อมา วันที่ 13 เม.ย. 2565 เวลา 08.30 น. พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้พานริศไปที่ศาลเยาวชนฯ เพื่อตรวจสอบการจับกุมและขอให้ศาลออกหมายควบคุมตัวไว้ระหว่างสอบสวน โดยมีที่ปรึกษาทางกฎหมายและผู้ไว้วางใจติดตามไปด้วย และยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนริศ

หลังศาลออกหมายควบคุมตัว ได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนริศ โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันเป็นวงเงิน 5,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขว่า ห้ามกระทำผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันอีก 

นอกจากนี้ ทนายความและครอบครัวได้ยื่นประกัน “ชนะชน” (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 15 ปี อีกราย ซึ่งถูกจับกุมจากเหตุเดียวกันนี้เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2565 แต่ภายหลังศาลออกหมายควบคุมตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 ครอบครัวยังไม่ได้ยื่นประกัน ทำให้ถูกส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจมาแล้ว 1 คืน ก่อนศาลอนุญาตให้ประกัน โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันเป็นวงเงิน 5,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับนริศ ทั้ง 2 ราย ใช้เงินประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์

ด้านพรพจน์ พนักงานสอบสวนได้ยื่นขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว โดยวางเงินสดจำนวน 35,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ เป็นหลักประกัน 

ต่อมา ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวพรพจน์ โดยระบุว่า ผู้ต้องหาเคยถูกกล่าวหาต่อศาลนี้ในข้อหาลักษณะเดียวกันและมีการใช้วัตถุระเบิดมาแล้ว คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่มีความร้ายแรง อัตราโทษสูง ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เชื่อว่าหากปล่อยตัวไป ผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง

คำสั่งไม่ให้ประกันดังกล่าว จึงทำให้วันนี้ พรพจน์ถูกควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป ซึ่งเป็นการกลับเข้าเรือนจำอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2565 เขาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีที่ถูกกล่าวหาว่า ร่วมปาระเบิดบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2564 หรือ #ม็อบ17ตุลา64 หลังถูกคุมขังนานถึง 132 วัน

กรณีการออกหมายจับนริศและพรพจน์สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 กลุ่มทะลุโลงได้จัดการชุมนุมรำลึกเมษาเลือด #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม ขึ้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังยุติการชุมนุมในเวลา 19.00 น. ราว 19.50 น. ได้เกิดเหตุปาระเบิดปิงปองบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ โดยระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์ 

ภายหลังเหตุการณ์ มีผู้ถูกจับกุมรวมทั้งมอบตัวจากกรณีดังกล่าวแล้ว 5 ราย เป็นเยาวชน 2 ราย ได้แก่ “บุ๊ค” ธนายุทธ ธ อยุธยา, “ปฎิมา”, พรพจน์, นริศ และชนะชน โดยปฏิมาและพรพจน์ไม่ได้รับการประกันถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ  

X