เลื่อนสืบพยานคดี #19กันยา ทนายจำเลยขอปรึกษาผู้บริหารศาล หลังศาลยืนยันไม่ออกหมายเรียกพยานหลักฐาน


29 มี.ค. 2565 เวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดสืบพยานโจทก์ในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่สนามหลวงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 

บรรยากาศช่วงเช้าในบริเวณศาลเป็นไปด้วยความปกติ ไม่มีการตั้งโต๊ะตรวจบัตรประชาชนหรือตั้งกล้องวิดีโอ ในห้องพิจารณาคดี 704 ไม่มีการตรวจกระเป๋าหรือขอเก็บโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จากสถานทูตเดนมาร์กและเบลเยี่ยม รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ Trial Watch เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ โดยมีเพื่อนและครอบครัวของจำเลยจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจด้วย

คดีนี้มีนักกิจกรรมตกเป็นจำเลยรวม 22 คน โดยถูกฟ้องด้วยข้อหาตามมาตรา 112 จำนวน 7 คน คือ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, “หมอลำแบงค์” ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา อีก 15 คน ถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 116 โดยในวันนี้มีจำเลย 3 คน ไม่สามารถเดินทางมาศาล ได้แก่ ณัทพัช อัคฮาด เนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม, สิทธิทัศน์ จินดารัตน์ ซึ่งติดโควิด และธนพ อัมพะวัติ ที่ติดเรียน 

การสืบพยานในวันนี้ ทนายจำเลยจะถามค้านพยานโจทก์ปากแรก พันตำรวจเอกวรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการกองกำกับการตำรวจนครบาล 1 ซึ่งในขณะเกิดเหตุคดีนี้เป็นผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม หลังพยานปากนี้ได้เบิกความตอบโจทก์ไปในนัดที่แล้ว เมื่อวันที่ 2-3 ธ.ค. 2564 

ก่อนจะเริ่มการถามค้าน รัษฎา มนูรัษฎา ทนายจำเลยที่ 4 ได้แถลงต่อศาลว่า ในนัดที่ผ่านมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานหลักฐานไปยังศาลแพ่ง รัชดา, ศาลอุทธรณ์, สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, บริษัทการบินไทย รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ศาลให้จำเลยไปขวนขวายหาหลักฐานมาเองก่อน จำเลยจึงได้ส่งเอกสารไปยังหน่วยงานดังกล่าวเพื่อขอเอกสารหลักฐาน เช่น หลักฐานการเดินทางของรัชกาลที่ 10 และเอกสารที่กระทรวงการคลังฟ้องของรัชกาลที่ 7 พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี อย่างไรก็ตาม หน่วยงานดังกล่าวมีจดหมายตอบกลับมาเพียงบางแห่ง โดยระบุว่าเอกสารที่จำเลยต้องการนั้น ศาลอาญาต้องเป็นผู้ออกหมายเรียกมา

ทนายรัษฎาแถลงต่อว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าคำปราศรัยของจำเลยไม่เป็นความจริง จำเลยจึงต้องการพิสูจน์ในเรื่องดังกล่าว การไม่ออกหมายเรียกเอกสารให้จำเลยทำให้จำเลยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ยาก โดยหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษาชุดเดิมได้บันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจะพิจารณาคำร้องอีกครั้งหากจำเลยไม่สามารถขอพยานเอกสารมาได้ 

อัยการโจทก์ได้แถลงชี้แจงว่า พยานปากนี้ไม่ได้เบิกความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาการปราศรัย จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารดังกล่าวเพื่อถามค้านแต่อย่างใด

ทนายจำเลยที่ 4 แถลงแย้งว่า พยานปากนี้เป็นพยานปากผู้กล่าวหา เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ในขณะนั้น และเป็นคณะทำงานผู้พิจารณาแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 แก่พวกจำเลยในภายหลังด้วย จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร 

ภายหลังถกเถียงกันเกือบ 45 นาที ศาลได้พักการพิจารณา เพื่อปรึกษากับคณะผู้บริหารศาลอาญาเกี่ยวกับคำร้องของจำเลยซึ่งขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานหลักฐานดังกล่าว

เวลา 11.00 น. ศาลกลับมาแจ้งแก่ทนายจำเลยว่า คณะผู้บริหารศาลยังคงยกคำร้องดังกล่าวของจำเลย โดยกล่าวว่าไม่มีเหตุในการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เนื่องจากพยานเอกสารที่ขอให้ศาลออกหมายเรียกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการสืบพยานในปากนี้ และขอให้ทนายจำเลยเริ่มถามค้านจะได้ไม่เสียเวลา หากโจทก์บรรยายฟ้องว่าคำปราศรัยเป็นเท็จและพยานโจทก์ได้เบิกความถึงเนื้อหาดังกล่าวค่อยว่ากันอีกครั้ง

ทนายรัษฎากล่าวว่า ตนคงไม่สามารถถามค้านได้ เพราะอย่างไรก็คงต้องถามเกี่ยวกับการปราศรัยแต่ไม่มีเอกสารที่จะใช้ถาม 

อัยการแถลงต่อศาลว่า พยานปากนี้เป็นพยานที่เน้นการสืบสวนเป็นหลัก ไม่ใช่ผู้แจ้งข้อกล่าวหาและไม่ได้เป็นคณะพนักงานสอบสวน 

สมยศ พฤกษาเกษมสุข แถลงว่า ตนไม่ปรารถนาจะให้ทนายจำเลยถามค้าน เนื่องจากในคำฟ้องได้กล่าวหาว่าพวกตนกระทำความผิดร่วมกันไปหมด ทั้งข้อหาตามมาตรา 112 และ 116 แต่ตนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเอกสารมาถามค้านพยานโจทก์ แต่ศาลได้สอบถามสมยศว่า เป็นจำเลยในคดีแดงที่ 272/2556 มาก่อนใช่หรือไม่ สมยศกล่าวว่าหากบอกแค่เลขคดีตนจำไม่ได้ 

ด้านนรเศรษฐ์ นาหนองตูม หนึ่งในทีมทนายจำเลยแถลงว่า ขณะนี้เหมือนกับโจทก์กำลังบอกว่ามีพยานเห็นจำเลยของพวกตนฆ่าคนตาย ในขณะที่พวกตนทราบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดแต่ก็นำภาพดังกล่าวมาแสดงไม่ได้

ศาลยังคงยืนยันว่า ในเมื่อโจทก์ฟ้องมาเช่นนั้น โจทก์ก็มีภาระในการนำสืบไปให้ถึงความผิด ไม่ใช่ภาระของจำเลย ทนายจำเลยจึงขอให้ศาลพักการพิจารณา เพื่อขอปรึกษาหารือกันระหว่างทีมทนายและลูกความเกี่ยวกับขั้นตอนการต่อสู้คดี 

เวลา 11.25 น. กฤษฎางค์ นุตจรัส เป็นตัวแทนจำเลยและทนายจำเลยทั้งหมดแถลงต่อศาลว่า เนื่องจากมีพยานเอกสารซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ฝ่ายจำเลยต้องการที่จะถามพยานปากนี้และปากอื่นๆ ซึ่งศาลเคยให้ฝ่ายจำเลยไปเตรียมเอกสาร แต่หน่วยงานต่างๆ ไม่ให้เอกสารมา ฝ่ายจำเลยจึงได้ยื่นคำร้องขอหมายเรียกพยานเอกสารดังกล่าวอีกครั้งในวันนี้ แต่ศาลปรึกษาผู้บริหารศาลแล้วเห็นว่า เอกสารดังกล่าวไม่เกี่ยวกับคดี จึงไม่ออกหมายเรียกพยานดังกล่าวให้ ฝ่ายจำเลยยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวมีความสำคัญต่อการซักค้านพยานโจทก์ จึงขออนุญาตเลื่อนคดีเพื่อดำเนินการติดต่อผู้บริหารศาลพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการออกหมายเรียกพยานหลักฐาน ก่อนจะถึงวันสืบพยานโจทก์ในนัดหน้า

เพนกวินลุกขึ้นแถลงต่อศาลว่า โจทก์มีภาระต้องนำสืบก็จริงอยู่ แต่จำเลยก็มีสิทธิ์พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองเช่นกัน ศาลจะให้ถามค้านโดยไม่มีเอกสารได้อย่างไร ในเมื่อศาลเป็นเพียงผู้เดียวที่มีอำนาจออกหมายเรียกเอกสารดังกล่าวและโจทก์กำลังกล่าวหาว่าพวกตน ปราศรัยบิดเบือนความจริง 

เวลา 12.00 น. ศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณา โดยอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานในนัดนี้ออกไป เนื่องจากทนายจำเลยต้องการเข้าปรึกษาหารือกับผู้บริหารศาลอาญาเกี่ยวกับการออกหมายเรียกพยานเอกสาร โดยเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในวันที่ 24 พ.ค. 2565 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ตามที่มีวันนัดไว้เดิม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพนกวิน-อานนท์-รุ้ง-ไมค์ ยื่นขอเอกสารคดี กท.การคลัง ฟ้อง ร.7- งบ สนง.ทรัพย์สินฯ – เอกสารเดินทาง ร.10 เพื่อใช้ต่อสู้คดีชุมนุม 19 กันยา

การแตกตัวของจักรวาลคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร: สรรพสิ่งที่เกิดขึ้นหลังแกนนำราษฎรถูกขังกว่า 100 วัน

ฐานข้อมูลคดี

ชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ถูกดำเนินคดี ม.112, 116, 215

X