สรุปเหตุการณ์คุกคามนักกิจกรรมหญิงนครสวรรค์-นศ.หนุ่มระบุถูกตร.ตบหน้าขณะมีขบวนเสด็จ

สืบเนื่องจากรายงานนักศึกษาและนักกิจกรรมในจังหวัดนครสวรรค์ ไม่ต่ำกว่า 9 ราย ถูกตำรวจติดตาม-คุกคาม ก่อนกรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จประกอบพระกรณียกิจในจังหวัดนครสวรรรค์ในช่วงวันที่ 7 ก.พ. 2565 นั้น

ในช่วงเวลาเย็นของวันที่ 7 ก.พ. 2565 ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังได้ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมกรณีสถานการณ์การคุกคามของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดขึ้นตลอดวัน

สถานการณ์คุกคามนักกิจกรรมหญิงที่นครสวรรค์

เวลา 09.00 น. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนกว่า 7 คน บุกไปยังที่พักของพิมชนก ใจหงษ์ นักกิจกรรมหญิง โดยอ้างว่ามาเพื่อดูแลความปลอดภัย บางส่วนใส่เสื้อสังกัดระบุว่ามาจากกอง บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามว่า เธอมีแผนการจะทำอะไรในช่วงบ่าย หรือจะไปที่ไหนหรือไม่ ทำให้พิมชนกที่เพิ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และอยู่ภายในที่พักเพียงลำพังรู้สึกตระหนก จึงได้ทำการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

พิมชนกเล่าว่า เธอตัดสินใจทำการไลฟ์สดด้วยเชื่อว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เช่น ถูกควบคุมตัว หรือโดนทำร้ายร่างกาย เธอก็จะมีพยานหลักฐานไว้

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งได้ตามมาสมทบ เป็นรวมจำนวนกว่า 20 คน โดยครั้งนี้มีตำรวจหญิงติดตามมาด้วย เมื่อมาถึงก็ควบคุมให้พิมชนกอยู่แต่ภายในที่พัก ไม่ให้ออกนอกพื้นที่ โดยอ้างว่าอีกสักครู่จะมีคนมารับไป แต่กลับไม่มีการแจ้งรายละเอียดใดๆ

จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งได้เข้ามาแจ้งต่อพิมชนกว่า พวกเขาได้รับมอบหมายให้มาเชิญตัวเธอไปสอบสวน ให้ปากคำ และเป็นพยานในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากการแชร์ภาพกิจกรรมรับเสด็จกรมสมเด็จพระเทพฯ ที่ปรากฏในเพจกลุ่มมังกรปฏิวัติ

ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าต้องการจะนำตัวพิมชนกไปสถานีตำรวจในฐานะพยาน เธอก็ได้ถามหาเอกสารหมายเรียก ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องนำมาแสดงทุกครั้งตามหลักการ โดยต่อมาทางตำรวจก็ได้นำหมายเรียกพยานของ สภ.เมืองนครสวรรค์ มาแสดง แต่ปรากฎว่าชื่อพยานที่อยู่ในเอกสารผิด เธอจึงขอให้ทางตำรวจกลับไปออกเอกสารใหม่ จากนั้นตำรวจก็ไม่ได้แสดงเอกสารใดๆ อีก แต่ยังคงปักหลักอยู่ที่บ้านพักของพิมชนก จนกระทั่งขบวนเสด็จผ่านพ้นพื้นที่ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังมีการพยายามขอตรวจสอบป้ายข้อความที่มีการจัดทำเพื่อเตรียมรับเสด็จ พบว่ามีข้อความว่า “ทรงพระเจริญ” อยู่

นักกิจกรรมหญิงเล่าถึงบรรยากาศในช่วงเวลาที่ถูกคุกคามโดยตำรวจว่า ภายในซอยบ้านของเธอเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ ทั้งรถกระบะและรถตู้ที่จอดเรียงรายอยู่เต็มซอย ซึ่งเธอมั่นใจว่ารถตู้ที่จอดอยู่ต้องถูกจัดเตรียมมาไว้เพื่อรับตัวเธอโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ พิมชนกเชื่อว่าเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการคุกคามเธอเช่นนี้ก็เพราะต้องการกีดกันเธอให้อยู่ห่างจากขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ

“โบโซ่ นครสวรรค์” นักศึกษา อายุ 18 ปี ระบุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตบหน้าระหว่างมีเสด็จ

ในวันเดียวกันเวลา 18.00 น. โดยประมาณ ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีนักศึกษาชายอายุ 18 ปี ระบุว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตบที่หน้า ขณะมีขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ บริเวณศูนย์แพทย์ศาสตร์ชั้นคลีนิก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

“โบโซ่” เล่าว่าขณะเขาขี่รถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าจะกลับที่พัก และเห็นว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปิดถนน จึงเข้าใจว่าขบวนเสด็จคงจะผ่านทางนี้ แต่เนื่องด้วยในขณะนั้นขบวนยังมาไม่ถึง เขาจึงได้สอบถามคนที่อยู่ในละแวกนั้นว่าถ้าเขาจะขอผ่านไปก่อนนั้น จะได้หรือไม่ ซึ่งคนแถวนั้นก็บอกให้เขาไปถามตำรวจ

เขาเคลื่อนรถเข้าไปใกล้ตำรวจมากเพื่อที่จะสอบถาม แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกเจ้าหน้าที่บังคับให้เขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนั่งลงที่พื้นรอรับขบวนเสด็จ และย้ำซ้ำๆ ให้นั่งลง

อย่างไรก็ดี โบโซ่ พยายามบอกกับตำรวจว่า เขาจะกลับบ้านพร้อมกับขอให้ช่วยเปิดทางให้นิดหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้รีบผ่านไปก่อนที่ขบวนเสด็จจะมาถึง แต่ตำรวจก็ไม่ได้ฟัง ยังพยายามให้เขานั่งลง และได้ตบเข้าที่ใบหน้าเขาอย่างจัง ทำให้เกิดความเจ็บเพราะเขาเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดฟันกรามมาเมื่อไม่นานนี้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พูดกล่าวหาเขาด้วยว่า บุคลิกลักษณะเช่นเขานี้จะต้องเล่นยาแน่นอน และยังถึงพูดเชิงท้าทายว่า ถ้าเขาไม่พอใจที่โดนกระทำเช่นนี้ก็ให้ไปแจ้งความเอาเอง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โบโซ่ ได้ให้ความเห็นว่า อันที่จริงแล้ว ขณะที่เขากำลังถูกตำรวจด่าและตบนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ อยู่ในบริเวณนั้นด้วย แต่เขาเชื่อว่า หากเขาไปดำเนินการแจ้งความกับตำรวจคนที่ตบหน้าเขาจริง ตำรวจคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้นก็คงไม่มีใครให้ความช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน

ย้อนอ่านสถานการณ์เพิ่มเติม

นักกิจกรรมในนครสวรรค์ ไม่ต่ำกว่า 9 ราย ถูกตร.ติดตาม-คุกคาม ก่อนกรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จ