เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่สองราย ได้แก่ “จันทร์” (นามสมมติ) อายุ 33 ปี และ “อังคาร” (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พร้อมกับทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกผู้ต้องหา โดยมีประชาชน เพื่อน และกลุ่มนักกิจกรรมจอมทองปลดแอก เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง
เมื่อทั้งสองเข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ จันทร์เจือแก้ว ได้อธิบายแก่ผู้ต้องหาทั้งสองว่า คดีนี้เกิดจากเหตุมีการโพสต์คลิปภาพเคลื่อนไหวที่มี พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่น ๆ ขณะอยู่ในเหตุการณ์คาร์ม็อบ #มินิด่วนนครพิงค์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ลงในแอพพลิเคชัน TikTok คลิปเดียวกัน 2 คลิป จึงแยกกันเป็น 2 คดี โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบพร้อมกัน
พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา แก่ทั้งจันทร์และอังคาร ได้แก่ ข้อหา “ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่” และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 16 “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดขึ้นจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย”
ตามข้อกล่าวหามีพฤติการณ์โดยสรุปได้ว่า จันทร์และอังคาร ใช้แอพพลิเคชัน Tiktok โดยนำภาพของผู้กล่าวหา ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่ที่บริเวณลานประตูท่าแพ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยคลิปของจันทร์มีการเติมข้อความว่า “ขี้ข้าเผด็จการ ผิดตรงไหนเอาปากกามาวง!!” ส่วนคลิปของอังคาร มีการเติมข้อความว่า “ขี้ข้าเผด็จการ คุณพรี่มีอะไรครับ” ลงในคลิปวิดีโอ และนำออกแสดงต่อสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้และคอมเมนต์ด่าทอ ทำให้เกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 พนักงานสอบสวนแจ้งว่าเมื่อสำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งทั้งสองให้มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
หลังสอบปากคำแล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้พาทั้งสองคนไปพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และลงชื่อในบันทึกประจำวัน พร้อมปล่อยตัวไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้
.